พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทัน (The Metropolitan Museum of Art) หรือ The Met พิพิธภัณฑ์ระดับโลกในนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐฯ ประกาศว่าได้เริ่มดำเนินการส่งคืนงานประติมาก รรม 14 ชิ้นไปยังกัมพูชา และอีก 2 ชิ้นกลับคืนสู่ประเทศไทย หนึ่งในนั้นคือประติมากรรมที่ระบุว่าเป็น Standing Shiva หรือ พระศิวะประทับยืน ต่มาพร้อมเครื่องหมายคำถาม (?) เพราะทางพิพิธภัณฑ์ระบุไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นรูปของบุคคลใดกันแน่
เดิมทีประติมากรรมชิ้นนี้จัดแสดงที่ รับชมได้ที่ The Met ในแกลเลอรี 249 ทางพิพิธภัณฑ์ระบุว่าเป็นศิลปะสมัยนครวัด (Angkor period) สร้างในสมัยศตวรรษที่ 11 หรือประมาณ 900 - 1,000 ปีมาแล้ว หล่อจากทองแดงผสมและถมเงิน (คือนำเแร่เงินมาฝังเป็นลวดลายต่างๆ) พร้อมระบุว่ามาจากประเทศไทย
ข้อมูลล่าสุดคำบรรยาสของประติมากรรมชิ้นนี้ระบุว่า "ถอดจากพิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิทันเพื่อเดินทางกลับราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2566"
ประติมากรรมชิ้นนี้มีความงดงามอย่างยิ่ง ถือเป็นสมบัติของชาติไทยอย่างแท้จริง แม้แต่คำบรรยายของพิพิธภัณฑ์ The Met ก็ชื่นชมความสวยงามเอาไว้ว่า
"รูปหล่อทองสัมฤทธิ์ปิดทองที่ยังหลงเหลืออยู่สมบูรณ์ที่สุดจากยุคนครวัด... ความเป็นธรรมชาติที่ศิลปินพยายามถ่ายทอดให้กับร่างอันสง่างามนี้ ประดับด้วยเพชรพลอยและแต่งกายด้วยผ้าคาดเอวที่มีรายละเอียดประณีต (นุ่งผ้าสมพต)"
ส่วนความเป็นมาของประติมากรรมนี้ The Met เชื่อว่ามีความเป็นไปได้สองอย่าง คือ "อาจจะมีวัตถุประสงค์สองประการ โดยเป็นตัวแทนของสัญลักษณ์ลัทธิสำหรับการสักการะในวิหารหลวง ใช้แสดงแทนรูปบรรพบุรุษของผู้ปกครองที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว คำจารึกหลายฉบับในช่วงนี้กล่าวถึงเทวาลัยหลวงที่สร้างอุทิศให้บิดามารดาผู้ล่วงลับของผู้สร้าง และอาจถูกสร้างขึ้นเพื่อบริบทดังกล่าว"
หมายความว่ารูปนี้อาจเป็นรูปเคารพทางศาสนา เช่น เป็นรูปพระศิวะ และอาจเป็นรูปเหมือนแทนตัวบุคคลที่ล่วงลับแล้ว เหมือนอนุสาวรีย์ แต่ในอนุสาวรีย์ในยถุคโบราณของไทยและกัมพูชา นิยมสนางเป็นรูปเทวรูปหรือพระพุทธรูปเป็นตัวแทนผู้ล่วงลับ โดยเฉพาะชนชั้นกษัตริย์เรียกรูปเหล่านี้ "เทวรูปฉลองพระองค์" หรือ "พระพุทธรูปฉลองพระองค์"
ถ้าหากเป็นไปตามข้อสันนิษฐานอย่างหลัง มีการถกเถียงกันในหมู่คนไทยว่า พระรูปนี้อาจเป็นเทวรูปฉลองพระองค์ของพระเจ้าชัยวรมันที่ 6) พระมหากษัตริย์แห่งอาณาจักรพระนคร ในยุคนครวัด ครองราชย์ระหว่างปี ค.ศ. 1080–1107 โดยเป็นกษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์มหิธรปุระ อันเป็นราชวงศ์ที่มาจากเมืองพิมาย ซึ่งปัจจุบันคืออเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย ต่อมาพระองค์เสด็จลงไปปราบกบฎที่เมืองพระนคร และปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองเขมรในกรุงยโศธรปุระ ซึ่งต่อมาคือเมืองพระนครธม ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดเสียมเรียบ ประเทศกัมพูชา
ตามประวัติศาสตร์ พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 เป็นกษัตริย์แห่งอาณาจักรพระนคร ต้นกำเนิดของพระองค์เป็นขุนนางชาวเมืองพิมายแห่งที่ราบสูงโคราช ปัจจุบันคือ อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา เมื่อพระเจ้าหรรษวรมันที่ 3 กษัตริย์กรุงยโศธรปุระจากราชวงศ์ก่อน เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ.1080 ได้เกิดการแย่งอำนาจกันภายในราชสำนัก พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 จึงทรงลงไปจัดการและปราบปรามคู่แข่งทางการเมืองอยู่หลายปี
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว พระองค์ได้ทำการปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์แห่งกรุงยโสธรปุระ ซึ่งในขณะนั้นมีศูนย์กลางอยู่ที่ปราสาทบาปวน หรือในเขตนอกเมืองเสียมเรียบไปทางตะวันออก ในยุคของพระองค์จึงถูกนับเป็นศิลปะแบบบาปวนด้วย แต่นักโบราณคดีและประวัติศาสตร์บางส่วนได้แยกศิลปะในยุคของพระองค์ออกเป็นศิลปะพิมาย ซึ่งมีความต่างจากบาปวนเล็กน้อย
ดังนั้น พระเจ้าชัยวรมันที่ 6 จึงทรงมีความเกี่ยวข้องกับแผ่นดินของไทยและกัมพูชาอย่างเหนียวแน่น จึงเป็นรื่องที่น่ายินดีที่ประติมากรรมที่คาดว่าเป็นของพระองค์ จะกลับคืนสู่มาตุภูมิอีกครั้ง