งานวิจัยใหม่เผย ออกำลังกายแบบ "ไทเก็ก" เพียง 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ ช่วยความดันโลหิตลดลง ดีต่อสุขภาพมากกว่าการวิ่ง หรือ ปั่นจักรยาน

วิจัยเผย การออกกำลังกายที่อ่อนโยนและมีแรงกระแทกต่ำอาจช่วยให้หัวใจแข็งแรงและลดความดันโลหิตได้มากกว่าการวิ่งบนลู่วิ่ง จากการศึกษาที่ตีพิมพ์เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ใน JAMA Network Open เผยว่า ไทเก็ก หรือ Tai chi ศิลปะการต่อสู้ของจีนที่มีการเคลื่อนไหวช้าๆ บวกกับการทำสมาธินั้นพบว่าช่วยให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง สามารถลดความดันโลหิตได้ 

แพทย์จาก China Academy of Chinese Medical Sciences ทำงานร่วมกับนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยและโรงพยาบาลหลายแห่งในกรุงปักกิ่งเพื่อศึกษาผู้คน 342 คนที่มีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูง หรือที่เรียกว่า ภาวะความดันโลหิตสูง

ผู้เข้าร่วมการศึกษามีอายุตั้งแต่ 18 ถึง 65 ปี และติดตามโปรแกรมการออกกำลังกายเป็นเวลา 1 ปี จำนวนกว่าครึ่งหนึ่งของกลุ่มได้รับการสุ่มให้ทำไทเก็ก ในขณะที่อีกครึ่งออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ เช่น จ๊อกกิ้งหรือปั่นจักรยาน โดยทั้งสองกลุ่มต้องออกกำลังกาย 4วันต่อสัปดาห์เป็นเวลา 1 ชั่วโมงในแต่ละวัน

ภายในหกเดือน พบว่าผู้เข้าร่วมที่ออกกำลังกายไทเก๊กมีความดันโลหิตดีขึ้นมากกว่ากลุ่มคาร์ดิโอ นักวิจัยระบุว่าภายในสิ้นปี กลุ่มไทเก็กจะมีความดันโลหิตต่ำกว่า และมีแนวโน้มที่ความดันโลหิตจะดีต่อสุขภาพมากกว่ากลุ่มที่ฝึกคาร์ดิโอ

พวกเขาคาดการณ์ว่าประโยชน์ของไทเก็กนั้นมีส่วนเกี่ยวข้องกับความสงบในใจได้ เนื่องจากหลักฐานก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่าไทเก็กสามารถลดความเครียด ส่งเสริมด้านอารมณ์ และช่วยป้องกันความวิตกกังวลได้อย่างมาก

แม้จำเป็นต้องมีการวิจัยเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงานของไทเก็ก แต่การศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นว่าไทเก็กอาจเป็นการออกกำลังกายที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสำหรับคนทุกวัยในการปรับความดันโลหิตให้อยู่ในระดับที่ดีต่อสุขภาพ

แม้ว่าผู้เข้าร่วมการศึกษาวิจัยจะออกกำลังกายเป็นเวลา 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ แต่ผลการวิจัยบางอย่างชี้ให้เห็นว่าการออกกำลังกายช่วงสั้นๆ ก็สามารถช่วยลดความดันโลหิตได้เช่นกัน

ดร.เคียน วู ผู้เชี่ยวชาญด้านการมีอายุยืนยาวที่ทำชี่กงกล่าวว่า "หากคุณไม่แน่ใจว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหน ให้ลองทำกิจวัตรตอนเช้า 10 นาที เริ่มจาการเคลื่อนไหวอย่างมีสติ เช่น การออกกำลังกายแบบไทเก๊ก"

ก่อนหน้านี้ ดร.เคียน วู บอกกับ Business Insider ว่าการออกกำลังกายเพียงไม่กี่นาทีทุกวันก็ช่วยให้คุณมีชีวิตที่ยืนยาวและมีสุขภาพดีขึ้นได้

“แค่ห้านาทีก็เพียงพอที่จะทำให้ทีพลังงานในการใช้ชีวิตต่อไป” ดร.เคียน วู กล่าว