VinFast ของเวียดนามประสบปัญหาในการขายรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน รายงานพิเศษจากสำนักข่าว AFP นำเสนอในภาษาไทยโดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better 

VinFast ของเวียดนามมีความทะเยอทะยานที่ยิ่งใหญ่ในการขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกาและยุโรปเพื่อแข่งขันกับรถยนต์ Tesla ของอีลอน มัสก์  (Elon Musk) แต่ตอนนี้ VinFast กลับกำลังดิ้นรนเพื่อหาผู้ซื้อรถยนต์ในประเทศตัวเองเสียอย่างนั้น

Vinfast ซึ่งได้รับการสนับสนุนจาก Vingroup ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม เป็นแบรนด์มีชื่อเสียงอย่างกว้างขวางในประเทศ แต่ก็พบว่าเป็นการยากที่จะโน้มน้าวผู้ขับขี่ในเวียดนาม ว่ารถยนต์ไฟฟ้าของพวกเขามีความน่าเชื่อถือและมีคุณภาพสูง

โง จง ตู (Ngo Trong Tu) นักธุรกิจวัย 31 ปีจากฮานอย เคยคิดอย่างจริงจังที่จะซื้อ VinFast EV มูลค่า 35,000 ดอลลาร์ แต่กลับทุ่มเงินเพิ่มขึ้นเกือบ 5,000 ดอลลาร์เพื่อซื้อรถยนต์ Honda ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันเบนซินนำเข้าแทน

“มันปลอดภัยกว่าการซื้อรถยนต์ไฟฟ้า (VinFast)” โง จง ตู  บอกกับ AFP ในกรุงฮานอย “ในโซเชียลมีเดีย หลายคนกล่าวว่ารถยนต์ไฟฟ้า VinFast ของพวกเขามีข้อผิดพลาด”

"ผมไม่อยากเสียเงินไปกับสินค้าที่ไม่สมบูรณ์"

ในปี 2565 มีการจำหน่ายรถยนต์โดยสารใหม่ประมาณ 280,000 คันในเวียดนาม ตามการระบุขององค์การผู้ผลิตยานยนต์ระหว่างประเทศ

VinFast หนึ่งในตัวเลือก EV ไม่กี่แห่งในประเทศ ขายได้เพียง 7,400 คัน

ในช่วงครึ่งแรกของปี 2566 มีการซื้อ 11,000 ครั้ง แต่มากกว่าครึ่งคือการซื้อโดยบริษัทแท็กซี่ที่ Vingroup ซึ่งเป็นบริษัทแม่เป็นเจ้าของ (หมายความว่า  Vingroup ซื้่อรถยนต์ในเครือของตัวเองถึงครึ่งหนึ่งจากยอดขายทั้งหมดในตลาด) 

ผู้ผลิตรถยนต์รายนี้ยังถูกร้องเรียนเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ผิดพลาดและปัญหาซอฟต์แวร์รถยนต์ ทำให้เกิดความท้าทายในการขายรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม ที่โครงสร้างพื้นฐานการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ายังไม่ได้รับการพัฒนา

ในเดือนมกราคม เจ้าของช่อง YouTube "Xe Dien EV" ซึ่งเชี่ยวชาญด้าน EV และการรีวิวแบตเตอรี่ กล่าวว่าแบตเตอรี่ของ VinFast VF8 ใหม่ของเขามีข้อบกพร่อง และเขาไม่สามารถเปิดรถด้วยกุญแจอัจฉริยะได้

ในอีกไม่กี่เดือนต่อมา เขาได้รายงานปัญหาเกี่ยวกับผู้ช่วยเสมือนของรถ คันเร่ง และเครื่องปรับอากาศ

และในเดือนเมษายน สื่อของรัฐรายงานว่าจู่ๆ VinFast EV ก็เกิดไฟไหม้ในจังหวัดเหงะอาน

VinFast ระบุในแถลงการณ์ว่า เจ้าหน้าที่ได้ระบุสาเหตุของเพลิงไหม้แล้ว และไม่ใช่เพราะปัญหาในรถของพวกเขา

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไม่ตอบสนองต่อคำร้องขอความคิดเห็นของ AFP เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวได้

ในการให้สัมภาษณ์กับ AFP เมื่อเดือนที่แล้ว เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการร้องเรียนดังกล่าว เล ถิ ทู ถวี (Lê Thị Thu Thủy) ผู้บริหารระดับสูงของ VinFast ยอมรับว่า "มีข้อสงสัยมากมาย"

เธอกล่าวว่า มันไม่สมจริงเลยที่จะคาดหวังว่าผลิตภัณฑ์ใหม่จะสมบูรณ์แบบ พร้อมเสริมว่า "มีความหวังและความคาดหวังมากมายให้เราจะต้องทำให้ดีขึ้น"

บริษัทระบุในแถลงการณ์ว่าเมื่อมีการรายงานข้อร้องเรียนไปยังศูนย์บริการ พวกเขาจะได้รับการแก้ไขโดยทันทีเสมอ

“จนถึงปัจจุบัน หลังจากอัปเดตและอัปเกรดซอฟต์แวร์หลายครั้ง EV ของเราก็ทำงานได้ดี” รายงานกล่าวเสริม

- 'สายป่านยังยาว' -
บริษัทแม่ของ VinFast เป็นเจ้าของโดย ฟาม เญิต เวือง (Phạm Nhật Vượng) บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดของเวียดนาม ซึ่งเริ่มต้นจากการขายบะหมี่แห้งในสหภาพโซเวียต

เขาเดินหน้าสร้างอาณาจักรมูลค่า 5,000 ล้านดอลลาร์โดยมีความสนใจในหลายภาคส่วน รวมถึงอสังหาริมทรัพย์ การท่องเที่ยว และการศึกษา

ขณะนี้ ผู้ประกอบการรายนี้ได้ตั้งเป้าไปที่ตลาด EV ระดับโลกที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดย VinFast ได้เปิดโชว์รูมในสหรัฐอเมริกา และสาขาในฝรั่งเศส เยอรมนี และเนเธอร์แลนด์

หุ้นของ VinFast เผชิญกับความผันผวนอย่างรุนแรงนับตั้งแต่เปิดตัวในตลาด Nasdaq ในเดือนสิงหาคม โดยทะยานขึ้นสู่มูลค่าตลาดที่ใหญ่กว่าบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Ford และ General Motors ก่อนที่จะร่วงลง

และแม้จะรายงานผลขาดทุนสุทธิมากกว่า 600 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่สาม แต่ก็ยังคงขยายตัวต่อไป ตลาดเป้าหมายในปัจจุบัน ได้แก่ อินเดีย อินโดนีเซีย และตะวันออกกลาง

“ในตอนนี้ ความสูญเสียเหล่านี้สามารถแบกรับไว้ได้ เนื่องจาก Vingroup มีเงินในกระเป๋าอีกมาก แต่นั่นไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ตลอดไป” เจมส์ กิลด์ (James Guild) ผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จากสถาบัน S. Rajaratnam School of International Studies ในสิงคโปร์ กล่าว

VinFast กล่าวว่ามีเป้าหมายที่จะส่งมอบรถยนต์ให้ได้มากถึง 50,000 คันทั่วโลกในปีนี้ จนถึงตอนนี้ขายไปแล้วประมาณ 21,000 ตัว

ด้วยความต้องการที่ย่ำแย่ในเวียดนาม และยอดขายที่จำกัดและสื่อที่ไม่ดีในสหรัฐอเมริกา VinFast อาจผลิตรถยนต์มากกว่าที่จะขายได้ เจมส์ กิลด์ กล่าว

“จำเป็นต้องมีแผนทางการเงินและการดำเนินงานที่เป็นไปได้ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และตอนนี้ก็ยากที่จะเห็นว่าสิ่งนั้นคืออะไร”

Vingroup ได้บุกเบิกโครงสร้างพื้นฐาน EV ในเวียดนาม แต่ผู้เชี่ยวชาญด้านรถยนต์รายหนึ่งในเวียดนามซึ่งปฏิเสธที่จะเปิดเผยชื่อเนื่องจากกลัวผลกระทบจากกลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่กล่าวว่า "VinFast ไม่ได้รับความไว้วางใจจากเรา"

“ผู้ใช้ไม่สามารถซื้อรถยนต์ราคาแพงเช่นนี้โดยคำนึงถึงความภาคภูมิใจของชาติเพียงอย่างเดียว” พวกเขากล่าว

เจิ่น เลียน เฟือง (Trần Liên Phương) ผู้อำนวยการบริษัท AMCO  ที่ปรึกษาและวิจัยตลาดในนครโฮจิมินห์ กล่าวว่า แม้ว่ารัฐบาลจะสนับสนุนให้ประชาชนซื้อผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในเวียดนาม แต่ผู้บริโภคกลับแสดงความเชื่อมั่นในแบรนด์ต่างประเทศมากขึ้น

“มันจะเป็นการเล่นเกมส์ที่ยาวนานและยากสำหรับ Vingroup” เจิ่น เลียน เฟืองกล่าว

"ใครก็ตามที่เข้าร่วมเกมนี้ต้องใช้เวลา"

Story © Agence France-Presse
"Vietnam's VinFast struggles to sell electric cars at home" By Alice Philipson and Tran Thi Minh Ha

Photo - TOPSHOT - ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เป็นภาพของรถยนต์ไฟฟ้า Vinfast บนถนนในกรุงฮานอย Vinfast ผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของเวียดนาม กำลังผลักดันเจาะตลาดรถยนต์ไฟฟ้าจากสหรัฐฯ ไปยังเยอรมนี แต่ที่ประเทศตัวเองขายได้ไม่กี่คัน เนื่องจากความกังวลเพิ่มมากขึ้นว่า การขาดความสำเร็จในประเทศอาจขัดขวางความทะเยอทะยานอันสูงส่งที่จะบึกตลาดระหว่างประเทศ (Photo by Nhac NGUYEN / AFP)