กลายเป็นกระแสในโซเชียลมีเดียของจีนทั้งกรณีนักเทนนิสเกาหลีใต้กับไทยและนักยูโดเกาหลีใต้กับคาซักสถาน

จากกรณีที่  "บูม" กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสไทย วัย 22 ปี มือ 636 ของโลก ชนะ ควอน ซุนวู นักเทนนิสจากเกาหลีใต้ มือวางอันดับ 112 ของโลก  ไป 2-1 เซต แฃะผ่านเข้าสู่รอบ 16 คน ในการแข่งขันเทนนิสชาย เอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 "หางโจวเกมส์" ที่ประเทศจีน 

ความพ่ายแพ้ของ ควอน ซุนวู  ทำให้เขาไม่พอใจอย่างรุนแรงจนถึงกับใช้แร็กเก็ตของตัวเองตีเข้ากับพื้นสนาม และเก้าอี้ม้านั่งข้างสนาม และยังไม่จับมือกับนักกีฬาของไทย มีผู้ถ่ายคลิปบันทึกเหตุการณ์เอาไว้ได้ ซึ่งนอกจากจะจับภาพพฤติกรรมของนักกีฬาเกาหลีใต้เอาไว้ตลอดแล้ว ยังจับเสียงเสียงโห่ของผู้ชมภายในสนามด้วย 

จากกรณีที่เกิดขึ้นทำให้เกิดกระแสแฮชแท็กในโซเชียลมีเดียของจีน คือ  #韩国球员爆冷输球拒绝握手# (นักกีฬาเกาหลีใต้พ่ายแพ้ไม่ทันตั้งตัวและปฏิเสธที่จะจับมือ) 

ในเพจ 观察者网 ของ "เวยปั๋ว" ซึ่งเป็นโซเชียลมีเดียจีน มีคนมากแสดงความเห็นเกือบ 1,000 ความเห็น หลังจากลงคลิปนี้ไปพร้อมบรรยายว่า "ในการแข่งขันเทนนิสชายเดี่ยวรอบที่สองของเอเชียนเกมส์ ควอน ซุนอู มือวางอันดับ 1 ของเกาหลี แพ้ผู้เล่นชาวไทยด้วยความหงุดหงิด หลังจากพ่ายแพ้ เขาก็ขว้างไม้เทนนิสอย่างบ้าคลั่งและไม่สนใจที่จะจับมือของคู่ต่อแข่ง"

ความเห็นหนึ่งบอกว่า "ลักษณะประจำชาติของชาวเกาหลีใต้ที่ไม่สามารถจะแพ้ เห็นได้ชัดเจน" (1,015ไลค์) ความเห็นนี้มีคนกดไลค์มากที่สุด แต่ก็ใช้คำดูแคลนเกาหลีใต้ในภาษาจีน คือใช้คำว่า "หนานเฉาเสี่ยนเหริน" (南朝鲜人)  คำว่า เฉาเสี่ยน (朝鲜) หรือ โชซอน ปกติใช้กับเกาหลีเหนือ เวลาเอ่ยถึงเกาหลีใต้จะใช้คำว่าหานกั๋ว (韩国) หรือ ฮันกุก เพื่อให้เกียรติความเป็นเกาหลีเหนือและใต้ที่เรียกชื่อประเทศต่างกัน แต่คราวนี้คนจีนเรียกนักเทนนิสเกาหลีใต้ว่าเป็น "คนโชซอนใต้" โดยมีเจตนาเพื่อด้อยค่าชัดเจน 

ในเพจ Tennis欧阳文升 ของเวยปั๋วได้ลงคลิปนี้และมีคนจีนเข้ามาแสดงความเห็นถึงกว่า 500 ความเห็น 

เช่น ความเห็นหนึ่งบอกว่า "ถ้าเขาจะขว้างแร็กเกตก็ขว้างมันไปสิ ไม่จับมือกัน มันเกินไปหน่อยหรือเปล่า? (741 ไลค์) 

อีกความเห็นบอกว่า "ตอนจบคนดูถึงกับเดือด" (194 ไลค์) ซึ่งเหมือนกับความเห็นที่มีคนไลค์มากที่สุดที่บอกว่า "พวกคนดูดีใจเอามากๆ" (1,271 ไลค์) ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเป็นการเสียดสี เพราะคนดูไม่พอใจพฤติกรรมนี้ของผู้เล่นเกาหลีใต้ 

อีกความเห็นบอกว่า "หากผู้เล่นทุบแร็กเกตและเก้าอี้ของเขา และปฏิเสธที่จะจับมือ คณะกรรมการจัดการแข่งขันจะปรับเขา" (414 ไลค์)

ในเพจ 麦子哥哥QaQ ของเวยปั๋วมีคนแสดงความคึกคักพอๆ กันถึง 300 กว่าความเห็น เช่นบอกว่า "บอกให้เขาไปขอโทษลงกับพื้นสนามแข่ง" (288 ไลค์) และอีกคนบอกว่า "นี่ไม่ปกติเหรอ? ยิ่งความสามารถน้อย อารมณ์ก็จะยิ่งมากขึ้น" (234 ไลค์) 

ความเห็นที่คนถูกใจมากที่สุด คือคนที่บอกว่า "แนะให้พวกเขาไปแข่งตบหน้าที่รัสเซียเลย" (880 ไลค์) ซึ่ง "พวกเขา" ในที่นี้น่าจะหมายถึงนักกีฬาเทนนิสชายเกาหลีใต้คนนี้ และนักกีฬายุโดหญิงของเกาหลีใต้อีกคน ที่ถูกปรับฟาวล์เนื่องจากตบหน้านักกีฬายูโดหญิงของคาซัคสถาน ซึ่งเป็นกรณีที่ถูกกล่าวขวัญถึงอย่างมากพอๆ กัน 

ในคลิปที่คนจีนวิจารณ์กรณีนักยูโดสาวเกาหลีตบหน้าคู่แข่ง มีผู้เข้ามาแสดงความเห็นในเพจ 黄安 ในเวยปั๋ว ความเห็นหนึ่งบอกว่า "ไม่ใช่เรื่องของความเหนือกว่า แต่เกาหลีใต้ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันมหาศาลและถูกรายล้อมไปด้วยประเทศมหาอำนาจ ผู้คนตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอย่างมาก และคลั่งไคล้การชิงดีชิงเด่น ซึ่งท้ายที่สุดจะนำไปสู่ภาวะจิตใจล่มสลาย ความนับถือตนเองต่ำ และความเย่อหยิ่ง"

เรื่องนี้ยังอาจกลายเป็นความไม่พอใจของคนจีนต่อเกาหลีใต้ไปด้วย เช่นเจ้าของเพจ คือ 黄安 โพสต์ว่า "ในการแข่งขันยูโด ผู้เล่นชาวเกาหลีตบหน้าคู่ต่อสู้ของเธอจริงๆ เมื่อเราชะลอความเร็ว (ของคลิป) และมองดูใกล้ๆ ผู้เล่นชาวเกาหลีเล็งที่จะตบหน้าคู่ต่อสู้ของเธอ มันไม่ได้เป็นอุบัติเหตุแต่อย่างใด มันน่าละอาย!" 

"เมื่อนักเทนนิสเกาหลีพ่ายแพ้ พวกเขาทุบไม้เทนนิสในที่สาธารณะและปฏิเสธที่จะจับมือ ผู้เล่นประเภทนี้หรือนิสัยประจำชาติประเภทนี้ คือพวกยอมแพ้ไม่ได้ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบพูดว่าเทศกาลเรือมังกรเป็นของพวกเขาและตัวอักษรจีนเป็นของพวกเขา กิมจิเป็นของพวกเขา... คนโง่คิดไม่ออกหรือ เมื่อ 100 ปีที่แล้ว คุณ (ประเทศเกาหลี) เป็นของเราทั้งหมด"

เจ้าของเพจยังบอกว่า "ขณะนี้เกาหลีได้รับการสนับสนุนจากชาวอเมริกัน พวกเขาประเมินความสามารถของตนอย่างไร้ยางอายและสูงเกินไป และเข้าสู่แนวหน้าเพื่อต่อสู้กับจีน เป็นมดแล้วคิดที่จะท้าทายไดโนเสาร์ มารอดูชมกันดีกว่า"