หวางอี้ย้ำกับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้ "ยึดมั่นความสามัคคีและความร่วมมือเพื่อแสวงหาการพัฒนาโลก"
หวางอี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ในการประชุมออนไลน์ซึ่งจัดโดย Foreign Policy Community of Indonesia ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ว่า ให้เอเชียยึดมั่นในหลักการความร่วมมืออย่างเท่าเทียมและหลากหลาย ร่วมกันผลักดันการรวมกลุ่มในภูมิภาค และชี้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับยูเครน คือคำเตือนให้ทุกฝ่ายร่วมกันรักษาสันติภาพในภูมิภาค
"วิกฤตการณ์ในยูเครนได้ส่งเสียงเตือนมวลมนุษยชาติ โศกนาฏกรรมที่คล้ายกันจะต้องไม่เกิดขึ้นในเอเชีย เราต้องส่งเสริมความมั่นคงของภูมิภาคผ่านการเจรจาและความร่วมมือ และต่อต้านการแสวงหาความมั่นคงแบบเหมารวมแต่ตัวคนเดียว โดยที่ประเทศอื่นต้องแบกรับความเสียหาย จัดการและจัดการความแตกต่างอย่างเหมาะสมผ่านการเจรจาและร่วมกันปกป้องสันติภาพที่ได้มาอย่างยากลำบากในภูมิภาค"
• บทวิเคราะห์ - "ความมั่นคงแบบเหมารวมแต่ตัวคนเดียว" (自身绝对安全) ที่หวางอี้กล่าวถึง อาจหมายถึงลัทธิการใช้อำนาจครอบงำ (Hegemony) ซึ่งหมายถึงการเป็นมหาอำนาจเดี่ยวของสหรัฐ รวมถึงพันธมิตรชาติตะวันตก และพันธมิตรอินโด-แปซิฟิก ที่สหรัฐสร้างขึ้นเพื่อปิดล้อมจีน ซึ่งกลุ่ม Hegemony นี้พยายามกำหนดระเบียบโลกระเบียบเดียวแบบเหมารวมโดยใช้ตัวเองเป็นมาตรฐาน ซึ่ง หวางอี้ ชี้ว่า แนวคิดเหมารวมเอาแต่ตัวตนเดียวแบบนี้ ทำให้ประเทศอื่นได้รับความเสียหาย
หวางอี้ ยังกล่าวว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยความพยายามร่วมกันของจีนและอาเซียน ปฏิญญาว่าด้วยการปฏิบัติของภาคีในทะเลจีนใต้ได้ถูกนำมาใช้อย่างเต็มที่ และสถานการณ์ในทะเลจีนใต้โดยทั่วไปมีเสถียรภาพ ทำให้เกิดสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาภูมิภาค
อย่างไรก็ตาม เขาขี้ว่า "แม้ว่าต้นไม้อยากอยู่อย่างสงบ แต่กระแสลมกลับไม่หยุดนิ่ง เพื่อตอบสนองความต้องการทางภูมิรัฐศาสตร์ของตนเอง กองกำลังต่างชาติบางส่วนยังคงจุดไฟในประเด็นทะเลจีนใต้ และสร้างความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ ในภูมิภาค ความพยายามบ่อนทำลายสันติภาพในทะเลจีนใต้ครั้งนี้จะไม่สำเร็จ มือมืดที่ซ่อนตัวอยู่เบื้องหลังนี้จะต้องถูกเปิดเผย"
• บทวิเคราะห์ - "ต้นไม้อยากสงบแต่ลมไม่หยุด" (树欲静而风不止) เป็นสำนวนจีน หวางอี้ นำมาใช้ในหมายความว่า แม้ว่าจีนและอาเซียนอยากจะอยู่กันอย่างสงบๆ แต่พลังภายนอกซึ่งเป็นเหมือนกระแสลม ไม่ยอมให้จีนและอาเซียนได้อยู่อย่างสันติ เขาชี้ว่า มี "มือมืด" (黑手) ที่คอยปลุกปั่นสถานการณ์ให้เกิดความร้าวฉานระหว่างจีนกับอาเซียน แม้ว่า หวางอี้ จะไม่เอ่ยตรงๆ ว่า มืดมืดนี้คือใคร แต่เราอาจวิเคราะห์ได้ว่า เขาอาจหมายถึงสหรัฐ รวมถึงพันธมิตรสหรัฐ เช่น สหราชอาณาจักร ที่ส่งกองเรือมาป้วนเปี้ยนแถวทะเลจีนใต้และไต้หวันบ่อยครั้ง
หวางอี้ เตือนให้ทุกฝ่าย "ละทิ้งความคิดแบบสงครามเย็น ต่อต้านเกมผลรวมเป็นศูนย์ รักษาภูมิภาคให้ห่างจากการคำนวณทางภูมิรัฐศาสตร์ และอย่าตกเป็นเบี้ยในเกมแห่งมหาอำนาจ"
• บทวิเคราะห์ - เกมผลรวมเป็นศูนย์ (Zero-sum game) หมายถึงการชิงอำนาจการเมืองโลกที่มีผู้ชนะและกุมอำนาจเพียงคนเดียว ซึ่งหมายถึงลัทธิการใช้อำนาจครอบงำ (Hegemony) ที่สหรัฐและชาติตะวันตกกำลังทำอยู่ในขณะนี้ ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่ต่างจากการได้ชัยชนะร่วมกัน หรือ Win–win game หวางอี้ยังใช้คำว่า "แยกคู่ ปลดโซ่คล้อง" (脱钩断链) หรือที่เรียกว่า Decoupling ซึ่งหมายถึงการทำลายความเชื่อมโยงของโลกาภิวัฒน์ เช่น ความพยายามสลัดจีนออกจาการเป็นเครือข่ายอุปสงค์และอุปทานโลกโดยสหรัฐและพันธมิตร และการทำสงครามการค้ากับจีนของสหรัฐ หวางอี้ยังใช้คำว่า "ลานบ้านเล็ก กำแพงสูง" (小院高墙) หมายถึงนโยบายของสหรัฐที่จะเน้นเทคโนโลยีและการวิจัย (ลานบ้านเล็ก) ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของชาติ เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ในวงกว้างหรือการกำหนดเขตแดนอำนาจ (กำแพงสูง)
แถลงการณ์ของ หวางอี้ ดังกล่าว ไม่ได้เอ่ยถึงสหรัฐเลย แต่มีถ้อยคำที่สะทื้อนถึงแนวนโยบายของสหรัฐอย่างชัดเจน และเตือนอาเซียนให้ระวังแผนการนี้
ดังนั้น เพื่อป้องกันยุทธศาสตร์ "แยกคู่ ปลดโซ่คล้อง" และ "ลานบ้านเล็ก กำแพงสูง" ซึ่งจะโดดเดี่ยวจีนจากระบบโลก และบีบจีนด้วยยุทธศาสตร์ปิดล้อม หวางอี้ จึงกระตุ้นให้เอเชียร่วมมือกัน เขากล่าวว่า ปัจจุบัน เอเชียได้กลายเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการฟื้นตัวและการพัฒนาของเศรษฐกิจโลก และถือเป็นภารกิจสำคัญในการส่งเสริมโลกาภิวัตน์รอบใหม่ เขาเสนอให้เอเชียจะต้องคว้าโอกาสและนำกระแส โดยยึดแนวคิดการเปิดกว้างเพื่อเป็นผู้นำการรวมตัวทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค มีบทบาทอย่างเต็มที่ในความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค
บทวิเคราะห์โดยทีมงานข่าวต่างประเทศ The Better
Photo by Dita Alangkara / POOL / AFP