ช็อกโกแลตทั่วโลกส่อแพง หลังเมล็ดโกโก้ขาดแคลน แบรนด์ใหญ่เริ่มขยับเล็งลดขนาด

ช็อกโกแลตทั่วโลกส่อแพง หลังเมล็ดโกโก้ขาดแคลน แบรนด์ใหญ่เริ่มขยับเล็งลดขนาด
ทั่วโลกอาจต้องกินช็อกโกแลตแพงขึ้น หลังราคาเมล็ดโกโก้แตะ 4,000 ดอลลาร์ต่อตัน สวนทางผลผลิตขาดแคลนเพราะอากาศแปรปรวน

บลูมเบิร์กรายงานว่า ความนิยมบริโภคช็อกโกแลตที่เพิ่มขึ้นทั่วทุกมุมโลก กำลังทำให้ราคาขายส่งเมล็ดโกโก้พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 10 ปีอยู่ที่ระดับ 4,000 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยบรรดาผู้ค้าเมล็ดโกโก้หลายราย คาดว่า ราคาเมล็ดโกโก้ที่เป็นส่วนประกอบสำคัญของช็อกโกแลตจะมีราคาสูงขึ้นต่อเนื่องจนถึงปี 2024 

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ราคาเพิ่มสูงเนื่องจาก ผลผลิตส่วนใหญ่ของโกโก้จะมาจากภูมิภาคแอฟริกาตะวันตก ซึ่งมีสัดส่วนผลิตโกโก้ถึง 2 ใน 3 ของการผลิตทั่วโลก แต่ด้วยสภาพอากาศที่แปรปรวนในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาทั้งฝนตกหนักและโรคพืช ทำให้เมล็ดโกโก้เน่าเสีย กระทบต่อปริมาณผลผลิต

ฟัด โมฮัมเหม็ด อบูบาการ์ ประธานบริษัทกานาโกโก้มาร์เก็ตติ้ง ในสหราชอาณาจักร ยอมรับว่า การผลิตเมล็ดโกโก้ทั่วโลกที่ลดลง ทำให้โรงงานช็อกโกแลตหลายแห่งเผชิญต้นทุนในการจัดหาปริมาณเมล็ดโกโก้ให้เพียงพอยากขึ้น

นั่นทำให้ผู้ผลิตโกโก้แบรนด์ชั้นนำอย่าง Lindt & Spruengli AG และ Hershey Co. เตือนว่าหากสถานการณ์ยังเป็นเช่นนี้ บริษัทอาจต้องตัดสินใจปรับขึ้นราคาสินค้าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า แม้ว่าสินค้าของพวกเขาจะมีราคาสูงอยู่แล้วก็ตาม

สอดคล้องกับ พอล จูเลส นักวิเคราะห์ตลาดโกโก้จากธนาคาร Rabobank กล่าวว่า เราอาจได้เห็นบริษัทช็อกโกแลตบางแห่งผลิตช็อกโกแลตแท่งที่มีขนาดเล็กลงและราคาแพงขึ้น

ประเทศไอวอรี่โคสต์ ถือเป็นหนึ่งในผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่ที่สุดของโลกคาดว่าจะเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ลดลงเกือบหนึ่งในห้าจากปีที่แล้ว และได้ระงับการขายซึ่งผูกมัดเกษตรกรในการส่งมอบสินค้าในเวลาที่กำหนดในอนาคต เช่นเดียวกับในกานา ผู้ผลิตโกโก้รายใหญ่อันดับสอง กลับมีผลผลิตต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในปีที่ผ่านมา

TAGS: #ช็อกโกแลต #ขึ้นราคา #เมล็ดโกโก้ #สินค้า #สภาพอากาศ