ผู้บริหารคลองปานามากล่าวว่า จีนเป็นหนึ่งในประเทศที่สนใจเสนอราคาสร้างท่าเรือใหม่สองแห่งในคลองปานามา  แม้ว่าสหรัฐฯ จะกำลังเจรจาเรื่องการยึดครองเส้นทางการค้าสำคัญนี้คืนมาก็ตาม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ได้ขู่เมื่อต้นปีนี้ โดยกล่าวหาว่าจีนควบคุมเส้นทางน้ำเชิงยุทธศาสตร์นี้ เนื่องจากบริษัท CK Hutchison Holdings ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในฮ่องกง ดำเนินการท่าเรือที่มีอยู่แล้วทั้งสองฝั่ง คือ ท่าเรือคริสโตบัลในมหาสมุทรแอตแลนติก และท่าเรือบัลบัวในมหาสมุทรแปซิฟิก

บริษัทได้ตกลงในเดือนมีนาคมที่จะโอนการควบคุมท่าเรือทั้งสองแห่งให้กับกลุ่มบริษัทที่นำโดยบริษัท BlackRock ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา แต่ข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งจีนมองว่ายังไม่สามารถสรุปผลได้

ปานามาหวังว่าจะดึงดูดเงินลงทุน 8.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในช่วงทศวรรษหน้า เพื่อขยายกำลังการผลิตของท่าเรือ และสร้างท่อส่งก๊าซและแหล่งกักเก็บก๊าซแห่งใหม่ รวมถึงโครงการอื่นๆ

นอกจากท่าเรือใหม่แล้ว โครงการนี้ยังมีแผนการก่อสร้างท่อส่งก๊าซและอ่างเก็บน้ำแห่งใหม่ด้วย

“เราต้องเปิดรับทุกฝ่ายที่สนใจ” และเรียกร้อง “การแข่งขันที่กว้างขวางที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” ริคาร์เต วาสเกซ ผู้บริหารคลองกล่าวกับผู้สื่อข่าว เขากล่าวว่าทุกฝ่ายจะเสนอราคาอย่างเท่าเทียมกัน

เขาปฏิเสธที่จะคาดการณ์เกี่ยวกับความตึงเครียดที่อาจเพิ่มขึ้นกับสหรัฐอเมริกา หากโครงการดังกล่าวถูกมอบให้กับบริษัทจีนในอนาคต

สำนักงานคลองปานามา (The Panama Canal Authority) ซึ่งได้เริ่มการประชุมกับฝ่ายที่สนใจก่อนกระบวนการประมูล วางแผนที่จะมอบสัญญาสำหรับท่าเรือทั้งสองแห่งในปลายปี 2569 และเริ่มดำเนินการในปี 2572

บริษัท Cosco Shipping Ports and Orient Overseas Container Line (OOCL) ของฮ่องกง เป็นหนึ่งในบริษัทต่างชาติที่แสดงความสนใจ พร้อมด้วยบริษัทพีเอสเอ อินเตอร์เนชั่นแนลของสิงคโปร์ บริษัทเอเวอร์กรีนของไต้หวัน บริษัทฮาปาก ลอยด์ของเยอรมนี บริษัทเมิร์สก์ของเดนมาร์ก และบริษัทซีเอ็มเอ เทอร์มินัลสของฝรั่งเศส

ท่าเรือหลักทั้งห้าของปานามาตั้งอยู่ใกล้กับคลองปานามา และดำเนินการโดยผู้รับสัมปทานจากสหรัฐอเมริกา ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์

คลองปานามายาว 80 กิโลเมตรนี้ใช้งานโดยสหรัฐอเมริกาและจีนเป็นหลัก และขนส่งร้อยละห้าของการค้าทางทะเลทั่วโลก

สหรัฐอเมริกาสร้างและดำเนินการคลองปานามาเป็นเวลาหนึ่งศตวรรษก่อนที่จะส่งมอบการควบคุมให้กับปานามาในวันสุดท้ายของปี พ.ศ. 2542

Agence France-Presse

Photo - AFP