ฮุน เซน โพสต์ในเฟซบุ๊คของเขาว่า "ก่อนอื่น ผมขอแสดงความเสียใจและเห็นใจต่อครอบครัวของพันจ่า ซวน รูน ผู้ล่วงลับจากการโจมตีของกองทัพที่รุกราน ชายแดนแห่งสันติภาพ มิตรภาพ ความร่วมมือ และการพัฒนาไม่ควรมีเรื่องแบบนี้ ผมขอประณามบุคคล องค์กร หรือกลุ่มคนใดที่ตัดสินใจกระทำการรุกรานในลักษณะเดียวกันนี้ ซึ่งคล้ายกับการรุกรานปราสาทพระวิหารเมื่อปี 2551 ถึง 2554

ผมไม่อยากเห็นการสู้รบ แต่ผมสนับสนุนการตัดสินใจของรัฐบาลที่จะส่งทหารและอาวุธหนักไปที่ชายแดนเพื่อเตรียมป้องกันตัวเองในกรณีที่มีการรุกรานเพิ่มเติม ผมหวังว่าการเจรจาระหว่างผู้บัญชาการกองกำลังภาคพื้นดินของทั้งสองประเทศที่จะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้จะประสบผลสำเร็จ ผมหวังว่าจะไม่มีความตึงเครียดตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศจนถึงขั้นขัดขวางความร่วมมือในด้านอื่นๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศ

ผมขอวิงวอนเพื่อนร่วมชาติของผมอย่าทำให้ความขัดแย้งนี้บานปลายจนกลายเป็นความเกลียดชังทางชาติพันธุ์ และขอให้เชื่อมั่นในการแก้ปัญหาความขัดแย้งโดยรัฐบาลและกองทัพของทั้งสองประเทศ เราเกลียดสงคราม แต่เราถูกบังคับให้ทำสงครามเพื่อต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติ เช่นเดียวกับที่ทำในช่วงปี 2008 ถึง 2011 โดยใช้ลูกศรสามดอก ได้แก่ ลูกศรทางทหาร ลูกศรทางการทูต และลูกศรทางกฎหมาย"