สำนักข่าว South China Morning Post รายงานว่า "ขณะนี้กัมพูชาได้กลายเป็นประเทศล่าสุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เข้าสู่ตลาดทุเรียนจีนที่ทำกำไรมหาศาล โดยมีเป้าหมายที่จะแย่งส่วนแบ่งการตลาดจากผู้นำอย่างไทย เวียดนาม และมาเลเซีย"

รายงานข่าวระบุว่า "สำนักงานศุลกากรของจีนเริ่มอนุญาตให้มีการส่งออกทุเรียนสดจากกัมพูชาเมื่อปลายเดือนเมษายน โดยต้องปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัยด้านอาหาร"

ด้านสำนักข่าว China News Service รายงานว่า ตามรายงานที่เผยแพร่โดยกระทรวงเกษตร ป่าไม้ และประมงของกัมพูชา ระบุว่าพื้นที่ปลูกทุเรียนในปัจจุบันของกัมพูชาเกิน 5,000 เฮกตาร์ ซึ่งมากกว่า 3,400 เฮกตาร์ที่เก็บเกี่ยวได้ โดยมีผลผลิตประมาณ 37,000 ตันต่อปี โดยจังหวัดกำปอตเป็นแหล่งผลิตทุเรียนที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของกัมพูชา

เมื่อไม่นานนี้ เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชา วางเหวินปิน (汪文斌) ได้ไปเยี่ยมชมไร่ทุเรียนในจังหวัดกำปงและชื่นชมความอร่อยของทุเรียนพันธุ์ "อาวคัก" (Ov Khak หรือที่เรียกว่า 奥卡) ที่มีชื่อเสียงหลังจากได้ชิมแล้ว นอกจากนี้ เขายังหวังว่าชาวจีนจะได้ทานทุเรียนกัมพูชาที่อร่อยกว่านี้ในอนาคตอีกด้วย

Retail News Asia รายงานว่าในเวลานั้น เอกอัครราชทูตจีนประจำกัมพูชาได้กล่าวว่า ชื่นชมทุเรียนโอคาว่าเป็น “ทุเรียนที่ดีที่สุดในโลก” (世界上最好的榴莲) พร้อมแย้มอย่างมั่นใจว่าทุเรียนกัมพูชาจะปรากฏบนโต๊ะอาหารของผู้บริโภคชาวจีนในอนาคต

ทั้งนี้ จากการรายงานของ Phnom Penh Post  ทุเรียนพันธุ์ "อาวคัก" มีความคล้ายคลึงกับทุเรียนชะนีของไทย โดยพันธุ์ทุเรียนที่ปลูกในจังหวัดไพลิน พระตะบอง และบันทายมีชัย ส่วนใหญ่มาจากประเทศไทย และโดยเฉพาะจากจังหวัดจันทบุรี พันธุ์ที่ผู้ปลูกส่วนใหญ่ปลูกใกล้ชายแดนไทยคือ หมอนทอง ชะนี และก้านยาว

จากข้อมูลของเว็บไซต์ด้านผลไม้ของจีน คือ "กั๋วจี้ กั่วซู" (国际果蔬) ระบุว่า ก่อนหน้ที่ทุเรียนของกัมพูชาจะได้รับการอนุมัติให้นำเข้าไปขายใสนจีน ทำเรียนกัมพูชาถูกนำเข้าผ่านมายังไทยแล้วนำไปขายต่อในจีน 

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - (ภาพประกอบข่าว) ชาวบ้านแบกทุเรียนซึ่งมักได้รับการยกย่องว่าเป็น "ราชาแห่งผลไม้" ที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองลุง จังหวัดอาเจะห์ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2023 (ภาพโดย CHAIDEER MAHYUDDIN / AFP)