นี่ขนาดเป็นวันธรรมดาเวลา 9.00 น. แต่เอริกา เฮตเฟลด์ พนักงานอสังหาริมทรัพย์ต้องมาเฝ้าดูหน่วยกู้ภัยพยายามช่วยชีวิตชายคนหนึ่งที่เสพยาเกินขนาดบนท้องถนนในเมืองพอร์ตแลนด์
“นี่มันโศกนาฏกรรมชัดๆ” เธอบอกในขณะที่ชายสามคนรูปร่างหน้าตาดูรุงรังงกำลังสูบบุหรี่ผสมสารเฟนทานิลใกล้ห้องทำงานของเธอ ในเมืองที่ครั้งหนึ่งเคยขึ้นชื่อในเรื่องความน่าอยู่อาศัยด้วยบรรยายนกาศแบบชิลๆ
พอร์ตแลนด์เป็นฐานที่มั่นของพรรคเดโมแครต ซึ่งเป็นฐานที่มั่นที่คอยพิทักษ์แนวคิดเสรีนิยม หรือ ' ลิเบอรัล' ในรัฐโอเรกอน รัฐชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งยืนหยัดเพื่อความยุติธรรมทางสังคม ความเห็นอกเห็นใจ และความมีขันติธรรมหรือการยอมรับความหลากหลายมานานหลายปี
แต่เพราะการทดลองด้วยการปลดยาเสพติดบางตัวจากสถานะผิดกฎหมาย รวมถึงแนวทางปฏิบัติแบบไม่ใช้ตำรวจในการรักษาความสงบเรียบร้อย ทำให้บางคนคร่ำครวญถึงชะตากรรมของเมืองนี้ เพราะตอนนี้พอร์ตแลนด์เต็มไปด้วยปัญหาคนไร้บ้าน การเสพติด ภาพวาดเลอะเทอะบนกำแพง และขยะ
“คุณใช้ยาในที่สาธารณะก็ไม่ต้องรับผลพวงที่ตามมา... การทำลายหน้าต่างและพยายามเผาอาคารสาธารณะก็ไม่มีผลพวงที่ตามมา (หมายถึงไม่ถูกดำเนินคดี)” เฮตเฟลด์กล่าว
“เพราะคนคิดว่า 'ไม่ทีผลพวงตามมา' ได้เปลี่ยนโฉมหน้าเมืองของเราไปอย่างสิ้นเชิงในเวลาไม่ถึงสี่ปี ถือเป็นการตกต่ำแบบดิ่งเหวที่เลวร้ายอย่างมาก”
'มันคือความโกลาหล'
เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่พอร์ตแลนด์ เป็นที่มั่นของผู้ที่มีแนวคิด "แหวกแนว" (Weird) แต่คนที่สนับสนุนแนวคิดนี้ต่างก็ภาคภูมิใจกับมัน เพราะเป็นเมืองที่เน้นย้ำเรื่องความยั่งยืนและความเท่าเทียมกัน
ที่นี่ คุณจะพบฮิปสเตอร์สวมเสื้อถักนั่งเสพสุขในโรงเบียร์ขนาดเล็ก ร้านกาแฟมากมาย ร้านอาหารมังสวิรัติ และแหล่งรวมดนตรีอินดี้ที่เฟื่องฟู
มันกลายมาเป็นสัญลักษณ์ของความทันสมัยแบบโบฮีเมียน จนซีรีส์โทรทัศน์เรื่อง "Portlandia" ล้อเลียนที่นี่อย่างอ่อนโยนว่าเป็นสถานที่ "ที่คนหนุ่มสาวมาพักผ่อน"
แต่ไม่กี่ปีมานี้สถานการณ์ไม่ได้ปรานีต่อเมืองแห่งนี้เลย
ความมุ่งมั่นของพอร์ตแลนด์ต่อความยุติธรรมทางสังคม ต้องเผชิญกับทดสอบระหว่างการประท้วง Black Lives Matter ในขณะที่เมืองนี้พังทลายลงจากการทำลายล้างยาวนานหลายสัปดาห์ โดยมีเจ้าหน้าที่ยืนหยัดอยู่ข้างหลังในขณะที่ผู้ประท้วงสร้างความหายนะ (ผู้สนับสนุนกล่าวว่าผู้ก่อความไม่สงบฝ่ายขวาก่อให้เกิดความรุนแรง)
นั่นประกอบกับความหายนะทางเศรษฐกิจจากโรคระบาด และผลกระทบของแผนลดทอนความเป็นอาชญากรรมของยาเสพติดที่ดำเนินการได้ไม่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้ตำรวจทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการแจกใบปลิวให้กับคนติดยาจนไร้สติเหมือนซอมบี้เพราะโคเคนหรือเพราะเฟนทานิล
บริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่อย่าง Nike และ Target ปิดร้านสาขาต่างๆ โดยอ้างว่ามีการโจรกรรมซ้ำแล้วซ้ำอีก ในขณะที่การทำงานทางไกลทำให้เมืองแห่งนี้ยิ่งว่างเปล่าไร้ผู้คนเข้าไปอีก
พวกอนุรักษ์นิยมฉวยโอกาสกระพือความโชคร้ายของเมืองนี้ โดยสื่ออย่าง Fox News นำเสนอภาพเมืองที่น่าสยดสยองและกล่าวโทษพรรคเดโมแครตที่ควบคุมเมืองนี้มานานหลายทศวรรษ
อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ขนานนามเหตุการณ์นี้ว่าเป็นโลกดิสโทเปียแบบเสรีนิยมที่ซึ่งหลักนิติธรรมได้สูญสิ้นไปแล้ว
“เมืองนี้อยู่ในสภาพโกลาหลจนถึงทุกวันนี้ เจ้าของร้านค้าไม่แม้แต่จะสร้างหน้าร้านใหม่อีกต่อไป” เขาบอกกับ NBC เมื่อปีที่แล้ว
ลิซ่า ชโรเดอร์ เจ้าของภัตตาคารในเมืองนี้ กล่าวว่าความเสื่อมถอยของพอร์ตแลนด์ทำให้เธอเจ็บปวด
“เราต้องดูแลเมืองนี้” เธอบอกกับ AFP “เรามียาเสพติดอยู่ทุกมุม ดังนั้นตอนนี้จึงมีเหตุผลมากขึ้นอีกที่ทำให้ผู้คนไม่เข้ามาในเมือง”
ชโรเดอร์ ดำเนินธุรกิจร้าน Mother's ซึ่งเป็นร้านอาหารบิสโทรที่เฝ้าดูพอร์ตแลนด์เติบโตจากเมืองที่โด่งดังจากการเมืองฝ่ายซ้ายมาเป็นเวลา 25 ปี สู่เขตเมืองที่น่าดึงดูดและมีการวางแผนอย่างดีพร้อมระบบขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ
ในช่วงไม่กี่ปีมานี้ กิจการตำรวจถูกถอนงบประมาณและผันงบไปใช้บริการสังคมสงเคราะห์ โดยมีเป้าหมายเพื่อรักษาผู้ใช้ยาแทนที่จะลงโทษพวกเขา
แต่เธอกล่าวว่าการทดลองลดทอนความเป็นอาชญากรรมของยาเสพติด ซึ่งเธอโหวตให้แนวคิดนี้ ถูกกองกำลังตำรวจจงใจที่จะบ่อนทำลาย โดยเธอคิดว่าตำรวจตั้งใจแน่วแน่ที่จะพิสูจน์ว่ามันเป็นนโยบายที่ไม่ดี
“ตำรวจใช้แนวทางเชิงรุก พวกเขากล่าวว่า 'พวกเขาเอาเงินทุนของเราไป เราจะแสดงให้พวกเขาเห็นว่ามีอะไรเกิดขึ้น เราจะแสดงให้พวกเขาเห็นว่าการลดทอนความเป็นอาชญากรรมนั้นเป็นอย่างไร'”
อัตราอาชญากรรมในพอร์ตแลนด์เพิ่มขึ้นระหว่างปี 2019 ถึง 2022 ตามข้อมูลของทางการ ก่อนที่จะเริ่มลดลงในปี 2023
อย่างไรก็ตาม ตำรวจจะใช้เวลาโดยเฉลี่ย 20 นาทีในการตอบรับสายที่มีลำดับความสำคัญสูง
ทำให้พอร์ตแลนด์แหวกแนวอีกครั้ง
การรณรงค์โดยกลุ่มพลเมืองสองฝ่ายมีจุดมุ่งหมายเพื่อลดระดับการปกครองที่พวกเขามองว่าเป็นแบบเสรีนิยมที่มากเกินไป ขณะเดียวกันก็รักษาสิ่งที่ทำให้พอร์ตแลนด์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว
บนถนนที่มีป้ายเรียกร้องให้ "Keep Portland Weird" กลุ่มนี้ได้ติดป้ายโฆษณาเพื่อเน้นย้ำถึงความล้มเหลวของอัยการเขตของเมือง
“สถิติการเสียชีวิตของยาเสพติด มีการยิงกันเพิ่มขึ้น ขโมยรถอาละวาด” พวกเขากล่าว
ผู้ก่อตั้งสองคนของแคมเปญ คนหนึ่งคือฝ่ายพรรคเดโมแครต และอีกคนหนึ่งเป็นฝ่ายพรรครีพับลิกันกล่าวว่าพวกเขากำลังตั้งเป้าที่จะทำเมืองให้อยู่ในแนวทางสายกลางเล็กน้อย
“เราเป็นเหมือนวิหารแพนธีออนที่ก้าวหน้า เราเป็นเหมือนแสงสว่างนำทาง” เควิน ลูเปอร์จากพรรคเดโมแครตกล่าว “ตอนนี้เราก็กลายเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีไปแล้ว”
ในอเมริกาที่มีการแบ่งขั้วมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งต้องเผชิญกับการเลือกตั้งที่สร้างความแตกแยกมากที่สุดเท่าที่คนๆ หนึ่งจะเคยพานพบมาในชีวิต แต่ประเทศนี้จะต้องมีทางสายกลาง เขากล่าว
“ระหว่างซ้ายสุดที่คิดว่าตำรวจเลวกันหมด กับขวาสุดที่คิดว่าเราแค่ต้องมีรัฐตำรวจ กลับกลายเป็นว่าคนส่วนใหญ่กลับยกมือขึ้นตรงกลางแล้วพูดว่า แค่อยากมีคนตอบรับ เมื่อฉันโทรเบอร์ฉุกเฉิน 911”
จาก Portland: America's liberal utopia loses its shine โดย By Romain FONSEGRIVES / AFP
Photo by Patrick T. Fallon / AFP