เบื้องหลังของเหตุการณ์
- เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในงาน iBusiness Forum 2024 ว่า รัฐบาลสิงคโปร์ได้ให้เงินอุดหนุน (Subsidized) 2-3 ล้านเหรียญต่อโชว์ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) ซึ่งจัดแสดงที่สิงคโปร์จำนวน 5 โชว์ (ความจริงคือ 6 โชว์) โดยที่รัฐบาลสิงคโปร์ตั้งเงื่อนไขว่าเทย์เลอร์สวิฟต์ห้ามจัดคอนเสิร์ตที่อื่นในเอเชีย
- การเปิดเผยของนายกรัฐมนตรีไทยกลายเป็นข่าวในประเทศที่ไม่ได้แพร่หลายในวงกว้างนัก แต่ปรากฏว่าหลังจากข่าวนี้แพร่ไปยังต่างประเทศ สื่อต่างประเทศให้ความสนใจพอสมควร รวมถึงผู้ใช้โซเชียลมีเดียก็ถกเถียงเรื่องนี้กันอย่างมาก สื่อบางแห่งถึงกับชี้ว่า กรณีคอนเสิร์ตของเทย์เลอร์ สวิฟต์ กำลังทำให้เกิดความแตกแยกในอาเซียน
พวก'โปรสิงคโปร์'บอก"ประเทศคุณมันห่วยเอง"
หลังจากที่ข่าวแพร่ออกไปในระดับ 'อินเตอร์' ที่แรกที่มีปฏิกิริยา คือ แพลทฟอร์ม Reddit ในกลุ่มพูดถึงเรื่องสิงคโปร์ r/singapore ซึ่งคาดว่าว่าส่วนใหญ่จะเป็นคนสิงคโปร์หรือ 'โปรสิงคโปร์' เข้ามาพูดคุย มีการตั้งประเด็นถกเถียงว่า "สิงคโปร์ 'ทำข้อตกลง เทย์เลอร์ สวิฟต์ จึงไม่สามารถแสดงในประเทศอื่น ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้" ความเห็นที่น่าสนใจ เช่น
JacobSEA บอกว่า "เป็นเพราะความไม่มั่นคงของความไม่น่าเชื่อถือของประเทศในกลุ่มอาเซียนโดยรอบ ทีมงานของเธอจึงอาจตัดสินใจว่านี่เป็นข้อตกลงที่ดี" ส่วนบอกคล้ายๆ กันว่า "สิงคโปร์ถือไพ่ในการต่อรองที่ดีซึ่งค่อนข้างเป็นศูนย์กลางในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นสถานที่ที่ง่ายและปลอดภัยในการจัดคอนเสิร์ตที่จะขับเคลื่อนการท่องเที่ยว" แต่ก็มีความเห็นตอบโต้ข่าวนี้อย่างรุนแรงเช่นกัน เช่น
Shdwfalcon บอกว่า "ฟังนะ ถ้าประเทศของคุณมันห่วยและวุ่นวาย มีความขัดแย้งและความไม่มั่นคง และกฎหมายโง่ๆ ที่ "ทำไม่ได้" (ดูประเทศตัวตลกอย่างมาเลเซีย) อย่าโทษคนอื่นเมื่อนักแสดงเลือกที่จะสละโอกาสในการหารายได้และการประชาสัมพันธ์ ที่พวกเขาน่าจะเคยแสดงในประเทศของคุณ แค่ยอมรับว่าประเทศของคุณมันห่วยและเสียหายมาก นักแสดงก็เลี่ยงคุณเพราะกลัว"
Beautiful-Growth-871 บอกว่า "คุณไม่สามารถตำหนิรัฐบาลสิงคโปร์และคณะกรรมการการท่องเที่ยวสิงคโปร์ที่มีความสามารถได้ คุณโทษตัวเองได้แต่ในสภาพที่คุณเป็น อย่ามาทำองุ่นเปรี้ยวเมื่อคุณไม่ได้ให้ (ข้อเสนอกับ) คนอื่นบนโต๊ะเลย โดยคำพูดของนายกฯ ไทย ดูเหมือนเป็นปฏิปักษ์ต่อประเทศที่มีความสามารถมากกว่าตนหรือเปล่า?"
สื่อต่างประเทศชี้ถึงความขัดแย้งในอาเซียน
เว็บไซต์ข่าว UPROXX ระบุว่า "มีรายงานว่า 'The Eras Tour' ของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ ได้ลงนามใน 'ข้อตกลงพิเศษ' กับสิงคโปร์ นำไปสู่ความตึงเครียดในภูมิภาค"โดยรายงานการที่นายกรัฐมนตรีของไทยอ้างว่าสิงคโปร์ผูกขาดคอนเสิร์ตของ เทย์เลอร์ สวิฟต์ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดว่ามันสร้างความขัดแงในอาเซียนมากแค่ไหน กระนั้นก็ตาม สื่อรายนี้ชี้ว่าคอนเสิร์ตกของเทย์เลอร์มีเศรษฐกิจในพื้นที่ที่ขัดแสดงเป็นเดิมพันเลยทีเดียว พวกเขาบอกว่า
"เทย์เลอร์ สวิฟต์มีส่วนกระตุ้นเศรษฐกิจ (Taylor Swift economy boost) ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น แต่เป็นตัวชี้วัดที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ตลอดการเดินทาง The Eras Tour ในอเมริกาเหนือ แต่ละเมืองตลอดเส้นทางรายงานว่ามีการเติบโตอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมการต้อนรับและการทำอาหารในท้องถิ่น ขณะนี้ ประเทศต่างๆ ในต่างแดนต่างตั้งตารอที่จะได้เห็นความคึกคักเมื่อนักร้องสาวเจ้าของเพลง “Lavender Haze” แวะมาในระหว่างการทัวร์ประเทศต่างๆ น่าเสียดาย ดูเหมือนว่าประเทศหนึ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กำลังมองหาการผูกขาดความมั่งคั่งเหล่านั้น"
ดูเหมือนว่าสื่อในอินเดียจะสนใจข่าวนี้เป็นพิเศษ เช่น India Today รายงานว่า "เทย์เลอร์ สวิฟต์ กลายเป็นประเด็นระหว่างพันธมิตรอาเซียนไปแล้ว" ส่วน Hindustan Times สื่อของอินเดียเช่นกันบอกว่า "Eras Tour ของเทย์เลอร์ สวิฟต์ จุดประกายความขัดแย้งในอาเซียนจากรายงานข้อตกลงผูกขาดในสิงคโปร์" และ Opindia บอกว่า "เทย์เลอร์ สวิฟต์ และ Eras Tour ของเธอจุดชนวนความตึงเครียดระหว่างพันธมิตรอาเซียน คือไทยและสิงคโปร์"
แล้วคนอื่นๆ ในอาเซียนมีปฏิกิริยาอย่างไร?
ในเพจ Swifters 2.0 มีชาวอาเซียนผู้เข้ามาแสดงความเห็นพอสมควร บางคนแสดงความเห็นในทำนองเสียใจต่อดีลแบบนี้ และบางคนตั้งคำถามว่าทำไมถึงใช้ภาษาประชาชนทำเรื่องแบบนี้
อย่างไรก็ตาม มีชาวสิงคโปร์คนหนึ่ง ชื่อว่า Hannah Yi แสดงความเห็นไว้เป็นข้อๆ ดังนี้
ในฐานะสวิฟตี้ชาวสิงคโปร์ (Swiftie หมายถึงแฟนเพลงของเทย์เลอร์ สวิฟต์) ฉันรู้สึกผิดหวังที่รัฐบาลของฉันผูกขาดเรื่องนี้
1. สวิฟตี้ชาวสิงคโปร์ต้องแย่งชิงกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (และที่อื่นๆ) เพียงเพราะรัฐบาลของเราต้องการผูกขาดนี้ สวิฟตี้ชาวสิงคโปร์จำนวนมากไม่ได้รับตั๋วเลย ใช่ ฉันรู้สึกขอบคุณที่พวกเขาพา เทย์เลอร์ มาที่สิงคโปร์ได้สำเร็จ แต่ชาวสวิฟตี้ทั่วทั้งภูมิภาคต้องเสียโอกาส รวมถึงสิงคโปร์ด้วย
2. ชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากสูญเสียโอกาสในการดู The Eras Tour เนื่องจากรัฐบาลสิงคโปร์เจอกับข้อกล่าวหาพิเศษนี้ ฉันเสียใจมากที่คนที่ไม่ใช่สวิฟตี้ชาวสิงคโปร์ได้ตั๋ว แต่ชาวสวิฟตี้ตัวจริงในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้พ่ายแพ้ในสงครามครั้งใหญ่
Photo by Robyn BECK / AFP
