มีผู้นำธุรกิจของสหรัฐฯ จำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่กำลังรวมตัวกันสนับสนุนอดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิกกี้ เฮลีย์ (Nikki Haley) ในฐานะความหวังในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของพรรครีพับลิกัน โดยมองว่าเธอมีความมั่นคงมากกว่าคู่แข่งอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ และเอื้อประโยชน์ต่อผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าโจ ไบเดน ผู้ดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศในขณะนี้

“แม้ว่าคุณจะเป็นพรรคเดโมแครตที่มีแนวคิดเสรีนิยมมาก ผมขอให้คุณช่วยนิกกี้ เฮลีย์ด้วย เลือกทางฝั่งรีพับลิกันที่อาจจะดีกว่าทรัมป์” นี่คือการเรียกร้องของ เจมี ไดมอน (Jamie Dimon) ซึ่งดำรงตำแหน่งหัวหน้าธนาคาร JPMorgan Chase  ซึ่งมักถูกมองว่าเป็น หนึ่งในซีอีโอที่ทรงพลังที่สุดของประเทศ

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา รายชื่อผู้ประกอบการและผู้นำทางธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นได้แสดงตัวหนุนหลัง นิกกี้ เฮลีย์ ซึ่งเคยเป็นอดีตเอกอัครราชทูตสหประชาชาติในสมัยรัฐบาลทรัมป์ ทำให้เงินกองทุนการหาเสียงของเธอเพิ่มขึ้น และยังมีนักธุรกิจที่กำลังพิจารณาทำเช่นนั้นในขณะที่ นิกกี้ เฮลีย์ ก็แสดงจุดยืนในการเลือกตั้งที่แข็งแกร่งขึ้น

หนึ่งในนั้นคือ ชาร์ล คอช (Charles Koch) หนึ่งในผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดในการเมืองของสหรัฐฯ และนักลงทุนมหาเศรษฐี สแตนลีย์ ดรักเคนมิลเลอร์ (Stanley Druckenmiller)

ในช่วงต้นเดือนธันวาคม ระหว่างการระดมทุนในอพาร์ตเมนต์หรูแห่งหนึ่งในย่านอัปเปอร์เวสต์ไซด์ของนิวยอร์ก เฮลีย์ได้รับเงินมากกว่า 500,000 ดอลลาร์จากคำมั่นสัญญาจากสมาชิกของนักธุรกิจชั้นนำของนครนิวยอร์ก

เดวิด พรีโม (David Primo) ศาสตราจารย์รัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยโรเชสเตอร์ กล่าวว่า “ผมคิดว่าผู้บริจาคจำนวนมาก รวมถึงนักธุรกิจ ต่างก็นั่งอยู่ข้างสนาม รอดูว่าจะเป็นอย่างไร และใครจะยืนหยัดต่อไปได้” หลังจากการรณรงค์หาเสียงเป็นเวลาหลายเดือน 

เมื่อปลายเดือนตุลาคม เฮลีย์ มีคะแนนเสียงไม่ถึง 10% ในการเลือกตั้งผู้แทนพรรครีพับพลิกันในรัฐไอโอวา เมื่อวันที่ 15 มกราคม ซึ่งเป็นการลงคะแนนเสียงครั้งแรกในกระบวนการคัดเลือกผู้เข้าชิงตำแหน่งประธษนาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน ขณะนี้เธอมีคะแนนนิยมอยู่ที่เกือบ 18%  เกือบเท่าเทียมกับ รอน ดีแซนติส (Ron DeSantis) ผู้ว่าการรัฐฟลอริดา ที่ได้ประมาณ 19%

ศาสตราจารย์พรีโม กล่าวว่า เฮลีย์ “ประทับใจในการอภิปราย” พร้อมเสริมว่า “ผู้นำธุรกิจมีความกังวลเกี่ยวกับความไม่มั่นคงที่อาจเกิดขึ้นจากการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีทรัมป์อีกสมัย”

“ดูเหมือนว่าเธอจะยึดติดกับแนวทางที่ปลอดภัยมากกว่าคนอื่นๆ มาก” แดเนียล คินเดอร์แมน  (Daniel Kinderman) ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเดลาแวร์กล่าว

“ผมคิดว่านั่นคือสิ่งที่ผู้นำทางธุรกิจโดยรวมชื่นชม พวกเขาไม่ชอบถ้าเกิดเรื่องต่างๆ นานากลายเป็นเรื่องบ้าบอเกินไป”  

'มีวินัยทางการคลัง'
เฮลีย์สนับสนุนการลดภาษี การคืนงบประมาณอย่างค่อยเป็นค่อยไป และการเพิ่มอายุเกษียณขั้นต่ำ

“เธอมุ่งมั่นที่จะรักษาวินัยทางการคลัง และเอกภาพทางการคลัง และเธอก็กังวลเกี่ยวกับหนี้ของประเทศ” ไมเคิล สเตรน (Michael Strain) จากสถาบันกิจการอเมริกัน (American Enterprise Institute) กล่าว “นั่นเป็นมุมมองนโยบายของพรรครีพับลิกันแบบดั้งเดิม”

“เธอมีประสบการณ์ในฐานะผู้ว่าการรัฐ และโดยทั่วไปแล้วถูกมองว่าเป็นมิตรกับธุรกิจ” ศาสตารย์พรีโมกล่าว

“เธอรู้วิธีโต้ตอบกับผู้นำทางธุรกิจ” เขากล่าวเสริม

ทรัมป์ต้องการลดภาษีด้วย โดยเฉพาะภาษีนิติบุคคล แต่พูดถึงการขาดดุลและหนี้สินน้อยมาก คำมั่นสัญญาของเขาที่จะขยายและเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมากในแวดวงเศรษฐกิจ

เฮลีย์ “ไม่ใช่นักการเมืองที่นิยมการโดดเดี่ยวประเทศ (เหมือนทรัมป์) ไม่ใช่คนที่นิยมท้องถิ่น หรือผู้ค้าเสรีที่มีทัศนะคับแคบ” แม้ว่าเธอจะสนับสนุนท่าทีที่แข็งกร้าวกับจีนก็ตาม ตามคำกล่าวของ เจฟฟรีย์ ซอนเนนเฟลด์ (Jeffrey Sonnenfeld) อาจารย์ด้านการจัดการธุรกิจที่มหาวิทยาลัยเยล และทำการสำรวจทัศนะผู้นำทางเศรษฐกิจเป็นประจำ  

เฮลีย์วัย 51 ปีคนนี้เริ่มชนะใจผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตบางคน เช่น นักลงทุนใหญ่อย่าง รีด ฮอฟแมน (Reid Hoffman) ผู้ร่วมก่อตั้ง LinkedIn

“นิกกี้ เฮลีย์เป็นนักการเมืองที่มีความสามารถ” เขาบอกกับนิตยสาร Barron's  เมื่อเร็วๆ นี้ และเสริมว่าเธอเป็น “นักสถาบันนิยมชาวอเมริกันในแง่ของประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม”

ในระหว่างการอโต้วาทีรอบแรกของผู้สมัครเป็นตัวแทนพรรครีพับลิกันเมื่อวันพุธ วิเวก รามาสวามี (Vivek Ramaswamy) หนึ่งในคู่แข่งของเธอ กล่าวหาเฮลีย์ว่า "ทุจริต" เนื่องจากเธอมีความผูกพันกับโลกธุรกิจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสนับสนุนจากฮอฟฟ์แมน ซึ่งเขาเรียกว่าเป็น "จอร์จ โซรอส จูเนียร์"

คนอื่นๆ ยังสงสัยว่าภาพลักษณ์ที่เป็นมิตรกับธุรกิจขนาดใหญ่ของเธอจะเข้ากันได้กับประชาชนผู้สนับสนุนพรรครีพับลิกันได้อย่างไร

“ไม่ใช่ว่าไม่เข้มงวดกับธนาคารและมหาเศรษฐีมากเกินไปเพื่อที่จะเอาชนะฐานเสียงชนชั้นแรงงานของ GOP (พรรครีพับลิกัน) ซึ่งส่วนใหญ่ต้องการทำลายระบบ (นายทุน) ไม่ใช่เลือกคนที่ผูกพันกับมันงั้นหรือ?” ผู้ดำเนินรายการการโต้วาที คือ เมกิน เคลเลี (Megyn Kelly) นักข่าวที่มีชื่อเสียงถาม เฮลีย์ ระหว่างการอภิปรายครั้งล่าสุด

“เมื่อพูดถึงคนในภาคธุรกิตที่ต้องการสนับสนุนเราโดยฉับพลัน เราก็จะยอมรับพวกเขา” เฮลีย์ตอบ “แต่ฉันไม่ถามพวกเขาว่านโยบายของพวกเขาคืออะไร แต่พวกเขาถามฉันว่านโยบายของฉันคืออะไร”

นอกเหนือจากความแตกต่างทางการเมืองของเฮลีย์กับทรัมป์แล้ว “ยังมีความกังวลเกี่ยวกับโอกาสที่ทรัมป์จะได้รับการเลือกตั้งของประธานาธิบดี” ไมเคิล สเตรน กล่าว

ผลสำรวจล่าสุดจากสถาบันแฮร์ริส (Harris Institute) ให้เฮลีย์มีโอกาสต่อสู้กับไบเดนได้ดีกว่าทรัมป์ ซึ่งกำลังเผชิญกับการพิจารณาคดีหลายครั้งใน 4 สถานที่ที่แตกต่างกันด้วยข้อหาต่างๆ มากมาย

“สิ่งที่ไม่ปกติในที่นี้คือการมีผู้สมัครที่มีคะแนนนำหน้า 50 คะแนนในการสำรวจผู้ได้รับการเสนอชื่อการเลือกตั้ง (เป็นตัวแทนพรรค) ขั้นต้น ซึ่งไม่ใช่ผู้สมัครที่แข็งแกร่งที่สุดในการเลือกตั้งทั่วไป” สเตรน กล่าว

Reports by Agence France-Presse / US business leaders start to rally around Republican candidate Nikki Haley
Photo by Christian MONTERROSA / AFP