ร้าน “KAYAKI” ภายใต้คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA-ย่างปลา สไตล์ญี่ปุ่น เจ้าแรกที่ตอบโจทย์สายปิ้ง-ย่างของคนรักสุขภาพ โดยคัดวัตถุดิบเกรดซาซิมิระดับพรีเมียม
อาหารญี่ปุ่นแบบออริจินัล ทุกวันนี้ในประเทศไทยก็มีให้เลือกหลากหลายสไตล์ จะเป็นซูชิ ราเมน ยากินิกุ และล่าสุดกับอีกรสชาติดั้งเดิมที่ได้มาเปิดที่ไทยในสไตล์ ยากิซากานะ ที่เสิร์พอาหารสไตล์ปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่นเป็นที่แรกในไทย
ก่อนจะเริ่มลิ้มรสชาติอาหารอันสดใหม่ของที่นี่ The better social พามาทำความรู้จักกับที่มาที่ไปของร้านนี้กันก่อน เพราะจุดเริ่มต้นนั้นมาจาก 3 พี่น้อง คุณเบ๊นซ์-ปณิธาน, คุณโบ๊ท-ปณิธิ และ คุณเพลน-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ บ้านนี้เขารักในการกินอาหารญี่ปุ่นมาก และมักจะแวะไปตามร้านเด็ดประจำท้องถิ่นอยู่บ่อย ๆ ในระหว่างไปพักผ่อนที่ประเทศญี่ปุ่น จนได้แรงบันดาลใจในการมาเปิดร้านที่ไทย โดยร้านนี้มีชื่อว่า KAYAKI ภายใต้คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA (YAKI-ย่าง, ZAKANA-ปลา) เสิร์พเมนูเนื้อปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น และเสิร์พแบบเป็นชิ้นพอดีคำ ตัวเนื้อปลาจะเป็นการย่างให้ได้แบบ Medium Rare อีกทั้งวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นปลาหรือซีฟู้ดจะเป็นเกรดซูชิทั้งหมด
คอนเซปต์มาชัดแบบนี้แล้ว ถึงเวลาที่เชฟจะเริ่มเสิร์พอาหารให้กับทุกคนได้ลองลิ้มรสชาติของอาหารกันบ้าง ซึ่งทางร้านจะมีให้เลือกแบบเป็นเซ็ต ตั้งแต่ เซ็ต SEIKAI 6 ชิ้น ได้แก่ ชูโทโร,ฮามาจิ,แซลมอน,กุ้งแดงญี่ปุ่น,ปลาหมึก และปลามาได
เซ็ตต่อมาคือ KAIYO 7 ชิ้น ได้แก่ ชูโทโร,หอยเชลล์ญี่ปุ่น,อากามิ,กุ้งแดงญี่ปุ่น,แซลมอน,ปลาหมึก และปลามาได และเซ็ต KAYAKI 8 ชิ้น ที่มีทั้ง ชูโทโร,หอยเชลล์ญี่ปุ่น,อากามิ,กุ้งแดงญี่ปุ่น,ปลาคินเมได,ปลาหมึก,ปลามาได และโอโทโรสุกี้
สำหรับวันนี้จะเป็นการเสิร์พเซ็ต KAYAKI เชฟจะเตรียมวัตถุดิบและมาย่างให้ดูกับแบบชิ้นต่อชิ้น ได้บรรยากาศเหมือนกินอาหารในบ้านคนญี่ปุ่น เริ่มแรกทางร้านจะเสิร์พชา พร้อมกับเครื่องเคียงมาให้สำหรับกินคู่กับปลาย่าง ซึ่งแต่ละแบบเชฟจะแนะนำว่าต้องกินคู่กับปลาชนิดไหน ยังมีสลัด ข้าว และซุปที่จะมาพร้อมกันด้วย
วัตถุดิบสดใหม่ที่วางเรียงรายอยู่ในถาดไม้แต่ละชิ้นเชฟจะค่อยๆ วางลงนาบไปบนเตาที่มีอุณหภูมิประมาณ 300 องศสเซลเซียส โดยชิ้นแรกจะเป็นชูโทโรที่ย่างมาแบบ Medium Rare เนื้อปลามีความหอมจากการย่าง มีเนื้อสัมผัสนุ่ม สามารถกินคู่กับเครื่องเคียงหรือจะกินแบบเพียวๆ ไม่ใส่อะไรเพิ่มเลยก็ยังได้
ชิ้นต่อมาเป็นหอยเชลล์ที่กริลล์มาแบบกำลังดี รสชาติของเนื้อหอยเชลล์มีความสดหวาน ชิ้นนี้แค่บีบน้ำมะนาว เติมใส่วาซาบิเพียงเล็กน้อย และทานกับข้าวญี่ปุ่นที่ปรุงรสมาอย่างดีก็เป็นอีกหนึ่งคำที่ลืมไม่ลงจริงๆ
ถัดมาเป็นเมนูพิเศษ เมื่อสั่งเป็นเซ็ต KAIYO หรือ KAYAKI จะเป็นข้าวโปะด้วยอากามิ และยังสามารถอัพเกรดเป็นข้าวหน้า Toro Bomb ซึ่งจะมีวัตถุดิบสุดพรีเมียมทั้งชูโทโร อูนิ และอิกูระ เมนูนี้หากใครได้กินก็ต้องประทับใจตั้งแต่คำแรกจนคำสุดท้าย
ถัดมาเป็นเมนูกุ้งแดงญี่ปุ่น เชฟย่างมาสุกกำลังดีมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เมนูนี้ถ้าใครไม่ชอบกินหัวกุ้งอาจจะต้องเปิดใจและจะไม่ผิดหวัง เพราะเมื่อกินเข้าไปแล้วจะได้ทั้งความสดกรอบของหัวกุ้งผสมผสานกับความมันและเนื้อกุ้งที่หวานอร่อย
จบจากกุ้งแดงญี่ปุ่นตามมาด้วยชิ้นปลาที่ทั้งสดและเด้งอย่าง ปลากะพงแดงตาโตหรือคินเมได เชฟใช้เวลาย่างไม่นานมาก แค่ให้หนังปลามีความสะดุ้งเล็กน้อย คำนี้ถ้าใครชอบกินปลาแบบซาชิมิอยู่แล้วก็ต้องชอบ เพราะรสสัมผัสไม่ต่างกันเลย แต่ได้ความหอมจากการย่างหนังปลาเพิ่มขึ้นมา
กลิ่มหอมของการย่างและบรรยากาศที่มีความกันเองยังทำให้เพลิดเพลินไปกับการลุ้นวัตถุดิบชิ้นต่อไป ซึ่งเชฟกำลังทำอย่างพิถีพิถันมากก็คือ ปลาหมึก และปลากะพงแดงญี่ปุ่น ซึ่งคัดสรรมาอย่างดีเป็นเกรดซาชิมิเช่นกัน 2 ชิ้นนี้สร้างความต่อเนื่องให้กับรสชาติของวัตถุดิบที่ได้กินเข้าไปก่อนหน้าให้รู้สึกเติมเต็มในรสชาติมากขึ้น
อีกหนึ่งไฮไลต์ที่เป็นตัวจบของเซ็ต KAYAKI และห้ามพลาดเลยก็คือ โอโทโรสุกี้ ชิ้นปลาโอโทโร ที่ย่างมาแบบกึ่งสุกกึ่งดิบ เสิร์พมาพร้อมกับไข่แดงและซอสของทางร้าน วิธีกินคือ ตีไข่แดงและนำปลาไปคลุกเคลือบให้ทั่วชิ้นปลาก่อน จะยิ่งทำให้ได้รสชาติของเนื้อปลาและความหอมมันจากไข่แดง ก่อนจะจบด้วยไอศกรีมยุสุเรียกความสดชื่น เป็นการปิดท้ายที่สมบูรณ์แบบ ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นของร้านที่ตกแต่งในสไตล์ญี่ปุ่นที่มีความร่วมสมัยได้อย่างลงตัว
สำหรับใครที่หลงรักอาหารญี่ปุ่นอยู่แล้ว มาที่นี่อาจจะหลงรักอาหารญี่ปุ่นมากขึ้นไปอีก ที่ร้านจะเปิดเป็น 2 รอบ คือ 11.00 - 14.30 น. และ 17.00 - 22.00 น. ที่ร้าน KAYAKI โครงการ YARD 49 ซอยสุขุมวิท 49 ที่เดียวกับ Kay’s, KANORI, Day by Kay’s สามารถติดตามข่าวสารได้ที่ Facebook: Kayaki,
IG: Kayaki.Thailand
#KAYAKI