ตั้งสติเสพข่าวก่อนเกิดภาวะ News Overload จิตตก เพราะเครียดสะสม

ตั้งสติเสพข่าวก่อนเกิดภาวะ News Overload จิตตก เพราะเครียดสะสม
การรับรู้สถานการณ์รอบตัว สังคม การเมือง เศรษฐกิจ มากเกินไป หรือ News Overload อาจสะสมเป็นความเครียดที่ฝังรากลึกโดยไม่รู้ตัว และหลายครั้ง เราหลงลืมที่จะหันกลับมาดูแล “ใจ” ของตัวเอง จนส่งผลต่อสุขภาพกายแ

เคยหรือไม่….เลื่อนดูข่าวในแต่ละวันมากๆ แล้วรู้สึกเครียด โดยเฉพาะข่าวปัญหาสังคม ความขัดแย้งทางการเมือง เศรษฐกิจที่ย่ำแย่ จะบอกว่า ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่เป็นสัญญาณที่เราควรใส่ใจ เพราะการเสพข่าวหรือรับรู้เรื่องเหล่านี้อย่างต่อเนื่องส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิต 

เรื่องที่ใกล้ตัวที่สุด อย่าง ค่าครองชีพที่สูงขึ้น ประกอบกับการเมืองที่ไร้เสถียรภาพ กลายเป็นความไม่แน่นอนที่สะสมและเป็นตัวกระตุ้นความเครียดที่อาจรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะสิ่งนั้นจะทำให้เรารู้สึกว่า เราควบคุมอะไรไม่ได้ และหากยิ่งควบคุมไม่ได้หรือไม่มีอำนาจในการเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้น เช่น ความเหลื่อมล้ำ หรือความรุนแรงจากภาพข่าวที่เราเห็น อาจส่งผลให้เกิดภาวะซึมเศร้าได้ในระยะยาว 

บางคนตกงาน หรือเด็กจบใหม่ ที่ยังหางานไม่ได้ เนื่องจากหลายธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจ บางบริษัทปิดตัวลงหรือลดจำนวนพนักงาน แม้แต่ธุรกิจขนาดใหญ่ก็ได้รับผลกระทบ จึงหนีไม่พ้นที่จะกระทบต่อธุรกิจขนาดเล็กด้วยเช่นกัน ทำให้ยิ่งเห็นชัดว่า เราไม่สามารถควบคุมอะไรได้เลย และต้องดิ้นรนเอาตัวรอดในแต่ละวัน ต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง บางครั้งก็ทำให้ขาดความมั่นคงทางการเงิน 

บรรยากาศความตึงเครียดของสังคม ก็เป็นปัจจัยหลัก โดยเฉพาะด้านการเมือง มีการแบ่งฝ่าย ตั้งแต่องค์กรระดับประเทศจนถึงแบ่งแยกกันเองภายในครอบครัว และบางครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกัน ก็ทำให้ผู้คนไม่กล้าที่จะแสดงความเห็นของตัวเองอย่างเปิดเผย จนสะสมเป็นความอึดอัด 

และถึงจะหนีอย่างไร ในยุคที่โซเชียลมีเดียเข้าถึงได้ง่าย การรับรู้เรื่องราวหรือข่าวสารของปัญหาสังคมเหล่านี้จึงง่ายตามไปด้วย รายงานจาก American Psychological Association (APA) ชี้ว่า การเสพข่าวอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะข่าวเชิงลบ ส่งผลต่อสุขภาพจิตโดยตรง เช่น ภาวะวิตกกังวล นอนไม่หลับ ความรู้สึกกลัว หรือภาวะหมดไฟ (burnout)

รวมถึงงานวิจัยจากสถาบัน  Arizona State University ที่พบว่า “การเสพข่าวสารอย่างไม่หยุดยั้ง” ทำให้ผู้คนมีความวิตกกังวล จนนำไปสู่ความเครียดด้านสุขภาพจิตอย่างมาก หรือการได้รับข่าวสารเชิงลบอย่างต่อเนื่องอาจส่งผลต่อสมองของเรา เนื่องจากสมองไม่พร้อมที่จะประมวลผลข้อมูลที่หลั่งไหลเข้ามาไม่หยุด เมื่อเวลาผ่านไป อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง นอนหลับไม่สนิท และนำไปสู่ปัญหาระยะยาว 

เราเรียกพฤติกรรมเหล่านี้ว่า news overload หรือ การรับข่าวสารที่มากเกินไป จนทำให้ความสามารถในการคัดกรองข่าวสารในสมองของเราเริ่มทำงานหนักมากยิ่งขึ้น และจะยิ่งกระทบต่อจิตใจหากรับรู้บ่อยเกินไป จนเกิดอาการเหล่านี้ตามมา เช่น อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดง่าย, ความเครียดสะสมจนส่งผลต่อร่างกาย, บางคนอาจขาดแรงบันดาลใจหรือความหวังในชีวิตประจำวันไปเลยก็ได้

อย่างในประเทศไทย โดยสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้รายงานภาวะสังคมไทยไตรมาส 1 ปี 2567 ว่า ระหว่างวันที่ 1 ต.ค. 2566 - 22 เม.ย. 2567 ไทยมีผู้ป่วยจิตเวชเข้ารับบริการเพิ่มขึ้น เป็น 2.9 ล้านคน ผู้เสี่ยงป่วยซึมเศร้า 17.20% มีความเครียดสูง 15.48% และเสี่ยงฆ่าตัวตาย 10.63% ซึ่งล้วนแล้วมาจากปัจจัยสภาพแวดล้อมที่เกิดจากปัญหาสังคม ความขัดแย้งทางการเมือง และสภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั้งสิ้น 

แต่เรื่องนี้ยังพอมีทางออก ที่หลายคนอาจจะเริ่มทำแล้ว แต่หากใครที่ยังเสพติดพฤติกรรมการเสพข่าวสาร อาจต้องเว้นระยะห่างออกจากข่าวเหล่านั้น ซึ่งจะช่วยบรรเทาความเครียดได้ แต่ไม่ได้แปลว่า เราต้องเพิกเฉยต่อปัญหาในสังคม เพียงแต่เลือกเสพในบางเรื่องและควบคุมปริมาณที่เหมาะสมกับตัวเอง 

สุดท้าย อยากให้คุณลองสำรวจตัวเองว่า ในแต่ละวันเสพข่าวมากแค่ไหน เสพแล้วเกิดความเครียดหรือไม่ จะได้รู้เท่าทัน และปรับลดพฤติกรรมที่ส่งผลต่อสุขภาพจิตของตัวเองได้ และหากว่า รู้สึกเกินที่จะรับไหว อย่าลังเลที่จะหยุดพักรับข่าวสารเหล่านั้น เพราะบางครั้งการไม่ได้รู้ไปเสียทุกเรื่อง ก็ไม่ใช่เรื่องผิด 
 

TAGS: #Mentality #News #ข่าว #การเมือง #เศรษฐกิจ