ยุงตัวเดียวทำลูกเข้าไอซียู พบเป็น "โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ"

ยุงตัวเดียวทำลูกเข้าไอซียู พบเป็น
แม่เตือนอุทาหรณ์ ยุงตัวเดียวทำลูกเข้าไอซียู พบเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ จากเด็ก 1 ขวบ 3 เดือนลูกกลับกลายมาเป็นเด็ก 2 เดือน เริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง ฝึกใหม่หมด

ผู้ใช้ TikTok นามว่า wanida0258 ซึ่งเป็นคุณแม่ โพสต์เตือนภัย ยุงตัวเดียวกัดลูก ถึงขั้นนอนไอซียู ทำให้ชีวิตเปลี่ยนไป จากเด็ก 1 ขวบ 3 เดือน กลายเป็นเหมือนเด็ก 2 เดือน โดยเธอเล่าว่า

ลูกอยู่กับยาย เหตุเกิดจากยุงไปกัดวัวแล้วยุงมากัดลูก ไข้ขึ้นเรื่อยๆ พาลูกไปอนามัยใน จ.กาญจนบุรี ไม่สบาย 4 วัน หมอบอกเป็นไข้หวัดใหญ่รักษาตามอาการไม่มียารักษา ลูกไม่ดีขึ้นขอย้ายโรงพยาบาล หมอบอกจะย้ายทำไมเขารักษาได้

วันต่อมาอนามัยทำเรื่องส่งตัวไปโรงพยาบาลในตัวเมืองให้เพราะอาการไม่ดีขึ้น ไปถึงลูกเรียกชื่อเราคำเดียวหลังจากนั้นเข้าห้อง ICU ไปเลย 7 วัน สมองหยุดทำงาน จากที่เดินได้พูดได้ ลูกกลับกลายมาเป็นเด็ก 2 เดือน เริ่มต้นใหม่ทุกอย่าง ฝึกใหม่หมด อายุ 1 ขวบ 3 เดือน ต้องมาฝึกใหม่ทั้งหมด

ขอย้ายลูกไปโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ เท่าไรก็จะจ่าย หมอบอกคุณแม่รับความเสี่ยงได้หรอถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง เห้อ ก็อยู่ต่อไปครึ่งเดือน (ไม่ได้คำตอบว่าโรคนี้เกิดจากอะไรถามหมอ หมอบอกไม่แน่ใจ) ได้ออกจากโรงพยาบาลพาขึ้นกรุงเทพฯ เข้า รพ.ศิริราช เพราะลูกร้องไม่หยุด หมอ รพ.ศิริราช ตรวจให้ใหม่หมด เป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฉีดยาฆ่าเชื้อรักษาใหม่หมด ใส่เครื่องช่วยหายใจ กินนมทางสาย ผ่านมาได้ตอนนี้ลูกกำลังจะลุกขึ้นเดินแล้ว

หลังจากโพสต์คลิปลงไป มีคอมเมนท์แห่ให้กำลังใจ และสอบถามถึงวิธีสังเกต โดยคุณแม่ตอบว่า “น้องเกร็งและชักและเข้าห้อง ICU ไปเลยค่ะ ไม่สบายเหมือนปกติเลยค่ะ เล่นได้ยิ้มได้วันแรกๆ หลังจากนั้นร้องไห้ เรียกไม่มีสติ กลัวแสง สังเกตค่ะน้องจะไวต่อแสง วันแรกเริ่มจากไม่สบายเล่นปกติร่าเริง 4 วันผ่านไปตอนอยู่อนามัย น้องไวต่อแสง น้องกลัวทุกอย่าง มองไปตรงไหนก็กลัว เรียกแล้วไม่มีสติ น้องเรียกชื่อทุกคน

@wanida0258 ลูกอยู่กับยาย ยุงตัวเดียว เหตุเกิดจากยุงไปกัดวัวแล้วยุงมากัดลูก ไข้ขึ้นเรื่อยๆ พาลูกไปอนามัยในจังหวัดกาญจนบุรี ไม่สบาย4วันหมอบอกเป็นไข้หวัดใหญ่รักษาตามอาการไม่มียารักษา ลูกไม่ดีขึ้นขอย้ายโรงบาลหมอบอกจะย้ายทำไมเขารักษาได้ วันต่อมาอนามัยทำเรื่องส่งตัวไปโรงบาลในตัวเมืองให้เพราะอาการไม่ดีขึ้น ไปถึงลูกเรียกชื่อเราคำเดียวหลังจากนั้นเข้าห้องICUไปเลย7วันหัวสมองหยุดทำงานจากที่เดินได้พูดได้ลูกกลับกลายมาเป็นเด็ก2เดือนเริ่มต้นใหม่ทุกอย่างฝึกใหม่หมดอายุ1ขวบ3เดือนต้องมาฝึกใหม่ทั้งหมด ขอย้ายลูกไปโรงบาลในกรุงเทพเท่าไรก็จะจ่าย หมอบอกคุณแม่รับความเสี่ยงได้หรอถ้าเกิดอะไรขึ้นระหว่างทาง เห้อ ก็อยู่ต่อไปครึ่งเดือน(ไม่ได้คำตอบว่าโรคนี้เกิดจากอะไรถามหมอ หมอบอกไม่แน่ใจ)ได้ออกจากโรงบาลพาขึ้นกรุงเทพเข้าศิริราชเพราะลูกร้องไม่หยุด ศิริราชตรวจให้ใหม่หมด เป็นโรคเยื้อหุ้มสมองอักเสบ ฉีดยาฆ่าเชื้อรักษาใหม่หมด ใส่เครื่องช่วยหายใจ กินนมทางสาย ผ่านมาได้ตอนนี้ลูกกำลังจะลุกขึ้นเดินแล้ว ????#มะนาวลูกแม่ #เยื้อหุ้มสมองอักเสบ ไม่ลงปอดแต่ขึ้นหัวสมอง #เป็นห่วงนะ #อย่าปล่อยให้ยุงกัดลูกเด็ดขาด ♬ เสียงต้นฉบับ - ปราง ปรางทิพย์

ข้อมูลจาก ศาสตราจารย์ นายแพทย์สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยกล่าวว่า โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นโรคที่เกิดการติดเชื้อในระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งเกิดได้จากการติดเชื้อหลายตัว ได้แก่ การติดเชื้อไวรัสซึ่งพบได้มากที่สุด ซึ่งส่วนใหญ่อาการไม่ค่อยรุนแรง สามารถค่อย ๆ หายได้เอง 

รองลงมาคือการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งมีความรุนแรงมาก การดำเนินโรครวดเร็วมากเพียง 2-3 วัน นอกจากนี้ยังมีเชื้อรา และหนอนพยาธิ ตามลำดับ สามารถเกิดได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ที่มีปัจจัยเสี่ยงสูงจะเป็นกลุ่มเด็กเล็กที่มีอายุต่ำกว่า 2 ปี เพราะภูมิคุ้มกันที่จะกำจัดเชื้อโรคบางส่วนยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ 

เชื้อจึงมีโอกาสกระจายไปสู่อวัยวะต่าง ๆ ได้มากกว่าเด็กโตหรือผู้ใหญ่ แม้ว่าโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบจะไม่ได้พบบ่อยมากนักในประเทศไทย แต่กรณีที่พบจะมีความรุนแรงมาก ซึ่งโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบอาจทำให้เกิดความพิการหรืออาจรุนแรงถึงขั้นทำให้เสียชีวิตได้
   
เชื้อแบคทีเรียสำคัญที่เป็นสาเหตุหลักในการเกิดโรคเยื่อหุ้มสมองในเด็กเล็ก ได้แก่ เชื้อนิวโมคอคคัส (Pneumococcal) เชื้อฮิบ เชื้อเมนิงโกค๊อกคัส (ไข้กาฬหลังแอ่น) และเชื้อซาลโมเนลลา เชื้อตัวแรกอาศัยอยู่ในเยื่อบุโพรงจมูก และลำคอของเราทุกคน 

แต่พบความชุกมากในเด็กเล็ก ซึ่งนอกจากจะก่อให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบแล้ว ยังมีโอกาสเสี่ยงในการเป็นโรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคหูชั้นกลางอักเสบ ซึ่ง 80% ของเด็กอายุต่ำกว่า 2 ขวบ ต้องเคยเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบมาแล้ว 1 ครั้ง รวมทั้งโรคปอดบวม ซึ่งเป็นสาเหตุการตายอันดับ 1 ของเด็กเล็กทั่วโลกกว่าปีละ 2 ล้านคนอีกด้วย
   
อาการของผู้ป่วยโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบอาจไม่มีลักษณะจำเพาะที่ชัดเจน แต่จะเป็นอาการที่สามารถพบได้ในโรคอื่น ๆ และไม่มีความแตกต่างกันตามสาเหตุที่ทำให้เกิด โรค เช่น ปวดหัว คลื่นไส้อาเจียน เบื่ออาหาร กระสับกระส่าย 

นอกจากนี้ยังมีบางอาการแสดงที่สามารถสังเกตได้ ได้แก่ 

  • ไข้ 
  • ตาไวต่อแสง 
  • ปวดต้นคอ 
  • ก้มคอลำบาก 
  • อาจมีอาการซึม ชัก ไม่รู้สึกตัว 
  • แขนขาอ่อนแรง 

ซึ่งถ้าเกิดกับเด็กเล็กจะมีระยะเวลาดำเนินโรคเร็วมาก ดังนั้นเมื่อลูกไม่สบาย พ่อแม่ควรรู้จักสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด เพราะเด็กเล็กจะไม่สามารถบอกอาการเองได้ โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อาจก่อให้เกิดความบกพร่องทางด้านสติปัญญา ความพิการทางด้านร่าง กาย ตลอดจนการสูญเสียชีวิต และค่าดูแลรักษาพยาบาลอีกเป็นจำนวนมหาศาล
   
สำหรับการป้องกันด้วยวัคซีน ปัจจุบันพบว่าโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียชนิดที่ก่อให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้บ่อยในเด็กนั้น มีวัคซีนป้องกันได้แล้ว คือ วัคซีน HIB ที่ช่วยป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบเชื้อแบคทีเรีย ฮิบ และวัคซีนไอพีดี พลัส ที่ช่วยป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบที่เกิดจากเชื้อนิวโมคอคคัส รวมถึงโรคติดเชื้อในกระแสเลือด โรคหูชั้นกลางอักเสบ และโรคปอดบวม 

ที่ผ่านมาพ่อแม่ส่วนใหญ่ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีนป้องกันเยื่อหุ้มสมองอักเสบ โดยเข้าใจว่าวัคซีนป้องกันเชื้อแบคทีเรีย HIB ที่ฉีดให้กับเด็กทุกคนนั้น สามารถป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบได้ทั้งหมด แต่ในความเป็นจริงยังมีเชื้อแบคทีเรียอีกหลายสายพันธุ์ที่สามารถก่อให้เกิดโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งวัคซีน HIB ยังไม่สามารถคลอบคลุมได้ ซึ่งได้แก่ เชื้อนิวโมคอคคัส เชื้อซาลโมเนลลา และเชื้อไข้กาฬหลังแอ่น เป็นต้น