Rolex Daytona มรดกแห่งความเร็ว สู่ขุมทรัพย์หายากของโลกนักสะสม

Rolex Daytona มรดกแห่งความเร็ว สู่ขุมทรัพย์หายากของโลกนักสะสม
จากสนามแข่งสู่ตลาดนักลงทุน Rolex Daytona นาฬิกาคลาสสิกที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก Paul Newman กลายเป็นสินทรัพย์หายาก มูลค่าเติบโตเฉลี่ย 8–12% ต่อปี

จากเรือนเวลาที่ออกแบบเพื่อจับเวลาระหว่างการแข่งขันรถยนต์ก้าวขึ้นมาเป็น “สินทรัพย์” ที่เหล่านักสะสมทั่วโลกต่างไขว่คว้า Rolex Daytona คืออีกหนึ่งรุ่นที่มีความคลาสสิก ที่ยังคงมีมูลค่าการเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง


Rolex Daytona เปิดตัวครั้งแรกในปี 1963 ภายใต้ชื่อ Cosmograph Daytona เพื่อเจาะตลาดนักแข่งรถมืออาชีพ และตั้งชื่อตามสนามแข่งชื่อดังในรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา จุดเด่นของเรือนนี้คือฟังก์ชัน Chronograph ที่ใช้จับเวลา และ Tachymeter Scale ที่ช่วยวัดความเร็วเฉลี่ยบนขอบตัวเรือน


แม้ช่วงแรกนาฬิการุ่นนี้จะไม่ได้รับความนิยมในเชิงพาณิชย์มากนัก แต่นั่นกลับคือจุดเริ่มต้นของความหายาก ซึ่งในโลกของนักสะสม นี่คือสิ่งที่มีมูลค่ามหาศาล โดยผู้ที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้ฟื้นคืนชีพขึ้นมาได้นั้นก็คือ Paul Newman นักแสดงระดับตำนานและนักแข่งรถตัวยง

Daytona 6239
เขาใส่นาฬิการุ่น Daytona Ref. 6239 ที่มาพร้อมหน้าปัดแบบพิเศษ หรือที่ตลาดรองเรียกว่า “Paul Newman Dial” หน้าปัดเป็นแบบ Exotic Dial มีวงย่อยดีไซน์แปลกตา และตัวเลขแบบ Art Deco ซึ่งผลิตออกมาน้อยมากในช่วงปี 1960s–70s  เขาสวมใส่นาฬิการุ่นนี้จนกลายเป็นซิกเนเจอร์ส่วนตัว และทำให้ความนิยมของรุ่นนี้ก็พุ่งทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว  โดยเรือนของ Paul Newman เอง ได้ถูกประมูลไปในปี 2017 ด้วยราคาถึง 17.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ


สำหรับนักสะสมนาฬิกา ถ้าหากคุณคือตัวจริงของ Rolex Daytona นอกจากจะต้องรู้จักรุ่นบุกเบิกอย่าง Daytona Ref. 6239  (1963–1969) ที่มีหน้าปัด Paul Newman Dial เป็นจุดขายหลัก และราคาประมูล (ปี 2023) อยู่ที่ประมาณ 500,000–750,000 ดอลลาร์ 

Daytona 6241
อีก 2 รุ่นที่คุณต้องสะสมไว้ก็คือ Daytona Ref. 6241 (1965–1969) และ Daytona Ref. 6263 (1970–1988) โดยราคาประมูลของDaytona Ref. 6241 จะอยู่ที่ประมาณ 410,000 ดอลลาร์ (Phillips Geneva 2023)

Daytona 6263

ส่วนDaytona Ref. 6263 (1970–1988) จะอยู่ที่ 320,000 ดอลลาร์ (Sotheby’s 2024) สังเกตได้ว่ามูลค่าเติบโตของตระกูล Daytona ยังมีความต่อเนื่อง โดยค่าเฉลี่ยการเติบโตอยู่ที่ 8–12% ต่อปี ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา


แม้ในโลกปัจจุบันที่เครื่องมือดิจิทัลอาจเข้ามาแทนที่อะไรหลายอย่าง Rolex Daytona ยังคงยืนหยัดในฐานะ ศิลปะบนข้อมือ ที่บอกเล่าประวัติศาสตร์ ความเป็นตัวตน และความสำเร็จที่จับต้องได้ ทั้งในด้านสไตล์ และการลงทุน สิ่งนี้ไม่ใช่แค่เรือนเวลาที่บอกชั่วโมงนาที แต่มันคือสัญลักษณ์ของความมุ่งมั่นและความเที่ยงตรง 
 

TAGS: #LuxuryInvestment #Collector #สะสมนาฬิกา #Rolex #Daytona