กัมพูชากับรัฐบาลจีน และทุนเทา'กลุ่มไท่จื่อ'กับ'ซึงรี'ไอดอลเกาหลี เกี่ยวข้องกันอย่างไร?

กัมพูชากับรัฐบาลจีน และทุนเทา'กลุ่มไท่จื่อ'กับ'ซึงรี'ไอดอลเกาหลี เกี่ยวข้องกันอย่างไร?

ใครที่ไปกัมพูชาระวังจะกลับมาเป็นๆ ไม่ได้ และใครที่เกี่ยวข้องกับทุนเทากัมพูชา ระวังชื่อเสียงจะป่นปี้ไปชั่วชีวิต!

ตอนนี้รัฐบาลเกาหลีใต้ตระหนักแล้วว่า "สแกมโบเดีย" ไม่ใช่ประเทศที่จะไว้เนื้อเชื่อใจได้ ใครที่หลงกลลวงเข้าไป "ทำมาหากิน" ในประเทศนี้ อาจจะกลายเป็นศพไม่รู้ตัว

เช่น กรณีของนักศึกษาชายนามสกุล "พัค" ที่ถูกลวงไปที่กัมพูชา แต่กลับถูกลักพาตัวโดยแก๊งจีนเทาแล้วเรียกค่าไถ่ แต่ต่อมากลับฆ่าเหยื่อทิ้งเสียอย่างนั้น

ประธานาธิบดีเกาหลีใต้จึงสั่งให้กระทรวงการต่างประเทศตอบสนองอย่างเต็มที่ต่อการลักพาตัวชาวเกาหลีในกัมพูชา และกระทรวงฯ ก็สนองด้วยการเรียกตัวทูตกัมพูชามาชี้แจง 

ไม่ว่าทูตเขมรจะพูดเอาดีเข้าตัวแค่ไหน กัมพูชาไม่ได้แข็งขันในเรื่องปราบสแกมเมอร์  สื่อเกาหลีใต้ถึงกับบอกว่าการนำศพนายพัคกลับประเทศและการสืบสวนของเจ้าหน้าที่เกาหลีใต้ไม่คืบหน้า เพราะ "การดำเนินการล่าช้าออกไปเนื่องจากปัญหาความร่วมมือของรัฐบาลกัมพูชา"

รัฐบาลกัมพูชาล่าช้าเพราะทำงานห่วยด้วย และควรทราบว่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงของกัมพูชานั้นเกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์และทุนเทาโดยตรง ตามรายงานการค้ามนุษย์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ

คราวนี้นี่เองที่เกาหลีใต้จะได้ตระหนักว่า "สแกมโบเดีย" ไม่ใช่แค่ฉายา แต่เป็นโลกดำมืดที่กลืนทุกคนที่เข้าไปที่นั่น 

ดังนั้นอย่าไปได้ย่างกรายเข้าไปในสแกมโบเดีย!

แต่ยังมีอีกเรื่องที่จะทำปลุกความตระหนักรู้ของเกาหลีใต้เรื่องความน่ากลัวสแกมโบเดีย

นั่นคือ กรณี "ซึงรีกับสแกมโบเดีย"

แต่"ซึงรี" คือใคร?

"ซึงรี" คือชื่อในวงการบันเทิงของ อี ซึง-ฮย็อน อดีตสมาชิกของวองไอดอล BIGBANG ที่มีผลงานในช่วงปี 2006–2018 และดังมากมายไปทั่วเอเชียในช่วงเวลานั้น

เพราะความเป็นไอดอลดัง "ซึงรี" จึงมีภาพลักษณ์หล่อใสๆ และไร้พิษภัยในสายตาแฟนๆ

แต่แล้วในปี 2019 เขาถูกเปิดโปงว่าเกี่ยวของกับไนท์คลับที่ชื่อ Burning Sun ซึ่งพัวพันกับข้อกล่าวหาดังเรื่องการใช้ยาเสพติดและการจัดหาผลประโยชน์ทางเพศให้กับนักลงทุนของคลับนี้ จนกระทั่งเขาถูกออกหมายจับ และเมื่อวันที่ 12 สิงหาคม 2021 ซึงรีถูกตัดสินจำคุก 3 ปี ปรับ 1.15 พันล้านวอน และคุมขังทันที

เขาได้รับการปล่อยตัวเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ของปีก่อนหน้านี้ หลังจากนั้นภาพลักษ์ของ "ซึงรี" จึงออกเทาๆ 

แต่มันยังไม่จบเทานั้น 

จากการรายงานของสื่อภาษาจีนและภาษาเกาหลีรายต่างๆ ระบุว่า เดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึงรีถูกถ่ายภาพขณะเข้าร่วมงานปาร์ตี้ส่วนตัวในไนต์คลับแห่งหนึ่งในกัมพูชา ในภาพนั้นเขาสวมชุดสูท ร้องเพลงและเต้นรำในงานปาร์ตี้อย่างอารมณ์ดี และยังพูดถึ G-Dragon (GD) อดีตเพื่อนร่วมวงว่า "ผมจะพา GD มาที่นี่!" 

เมื่อคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นไวรัลออนไลน์ แต่ชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความไม่พอใจ กล่าวซึงรีว่าจงใจพูดถึง GD เพื่อดึงดูดความสนใจ เพราะแน่นอนว่า สถานะของ ซึงรี ในเวลานั้นก็ไม่น่าจะ "สนิท" กับใครได้แล้ว

คลิปนี้กลายเป็นประเด็นอีกครั้ง หลังจากที่เกาหลีใจตื่นตกตะลึงกับกรณีที่แก๊งจีนเทาในกัมพูชาฆ่านักศึกษาชาวเกาหลีใต้ที่ชื่อนายพัค 

เพราะในคลิปของ ซึงรี  ปรากฏโลโก้ Prince Brewing ซึ่งต้องสงสัยว่าเป็นแบรนด์ของ Prince Holding Group อันเป็นบริษัทที่ถูกครหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจสีเทา ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางออนไลน์อีกครั้ง 

และคราวนี้ชาวเน็ตถึงขนาดตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความเกี่ยวข้องของเขากับกลุ่มอาชญากรในกัมพูชาอีกด้วย

แต่บางคนไม่ได้กล่าวหาเขาถึงขนาดนั้น เพียงตั้งข้อสงสัยอย่างแหลมคมว่า "ถ้าเขารู้ว่า Prince Holding Group กำลังทำอะไรอยู่และยังไปร่วมงานด้วย เขาก็ถือว่าแย่มาก แต่ถ้าเขาไม่รู้แล้วไปเพราะมีคนจ่ายเงินให้ เขาก็โง่มาก ใช่มั้ย?" 

อีกคนบอกว่า "ซึงรีกำลังทำให้เราเห็นจุดจบของคนๆ หนึ่ง... เขาอยู่บนเส้นทางของอาชญากรรมมาตั้งแต่ 'Burning Sun'" 

หนึ่งความเห็นบอกว่า "ดูจากพฤติกรรมของเขาแล้ว เขาอาจจะต้องกลับไปติดคุกอีก" 

และมีชาวเน็ตอีกรายบอกว่า "นี่ไม่ใช่อาชญากรรมเล็กๆ น้อยๆ อีกต่อไปแล้ว..." 

แน่นอนว่า เรายังไม่มีความเชื่อมโยงระหว่าง ซึงรี กับแก๊งสแกมเมอร์ใน "สแกมโบเดีย" 

ไม่ว่าจะเกี่ยวข้องหรือไม่ก็ตาม "มติมหาชน" ในเกาหลีใต้ออกในแนวๆ ว่า ถ้าใครสักคนไปยุ่งกับพวกสแกมเมอร์ (ไม่ว่าจะดังหรือไม่ดังก็ตาม) ล้วนแต่น่าสงสัยว่าเป็นพวกเดียวกันและควรได้รับการลงโทษ

แต่สื่อในเกาหลีใต้ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นการอ้างที่ไม่มีการยืนยัน (ว่าซึงรีเกี่ยวข้องแค่ไหน) 

กระนั้น สื่อก็ทิ้งข้อมูบเอาไว้ให้คิดกันเอง เช่นสำนักข่าว Nate (네이트) บอกว่า "ปัญหาคือเมื่อเร็วๆ นี้ Prince Holding Group ถูกสื่อต่างประเทศกล่าวถึงว่าเป็นหนึ่งในผู้ดำเนินการแก๊งอาชญากรรมระดับภูมิภาคที่มีชื่อว่า "แทจาดันจี" (태자단지 เป็นการออกเสียงคำว่า กลุ่มไท่จื่อ ชื่อภาษาจีนของ Prince Holding Group ) ถูกระบุว่าเป็นศูนย์กลางของอาชญากรรมไซเบอร์หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการฉ้อโกงในห้องอ่านหนังสือ การพนันผิดกฎหมาย การลักพาตัว และการกักขัง นอกจากนี้ยังมีรายงานเหยื่อชาวเกาหลีด้วย"

และ เมื่อเช้าวันที่ 2 ตุลาคม ยุน จู-ซอก ผู้อำนวยการสำนักงานความมั่นคงกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ จัดการประชุมปรึกษาหารือกงสุลเกาหลี-กัมพูชา ครั้งที่ 2 ร่วมกับฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกัมพูชา ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เมื่อเช้าวันที่ 2 ตุลาคม 

จากการายงานของ ASEAN Express ก่อนหน้าการประชุม  ยุน จู-ซอก ก็ยังไม่ดูลาดเลาที่ "แทจาดันจี" หรือกลุ่มไท่จื่อมาแล้วด้วย นั่นแสดงว่านี่คือจุดที่รัฐบาลเกาหลีจับตาเป็นพิเศษ 

และแม้จะไม่รู้ความพัวพันของ "ซึงรี" กับสแกมโบเดียแต่เราสามารถรู้เบื้องหลังของ  Prince Holding Group ได้

Prince Holding Group หรือ "กลุ่มไท่จื่อ" (太子集团) มีเจ้าของชื่อว่า เฉินจื้อ (陈志)

เฉินจื้อ ไม่ใช่คนแขมร์แต่เป็นคนจีนอพยพแล้วแปลงสัญชาติเป็นแขมร์ในปี 2014

จากการายงานของ RFA เขา "ใหญ่" ขนาดเคยดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากระทรวงมหาดไทยกัมพูชา ซึ่งเทียบเท่ากับตำแหน่งรองปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ต่อมาเขาได้เป็นที่ปรึกษาให้กับฮุน เซน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น และยังมีพระราชกฤษฎีกาที่ให้อำนาจแก่เขา ให้ยังคงดำรงตำแหน่งนี้ต่อไป แม้ว่าฮุน มาเนต บุตรชายของฮุน เซน จะขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต่อจากพ่อแล้วก็ตาม 

Prince Holding Group ของ เฉินจื้อ ทำรายได้หลายพันล้านดอลลาร์จากการพัฒนาศูนย์การค้า ธนาคาร และอสังหาริมทรัพย์ในกัมพูชา

เขานี่แหละที่เป็นคนเนรมิตเมืองสีหนุวิลส์ให้กลายเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูงและคนจีนเต็มไปหมด แน่นอนว่าเมืองนี้มี "ชื่อเสีย" มากกว่า "ชื่อเสียง" ในฐานะศูนย์กลางสแกมเมอร์ 

แต่รายได้พวกนี้เป็นสีขาวหรือสีเทากันแน่?

คำตอบอยู่ที่ทางการจีน ตามคำพิพากษาของศาลอาญาจีนระหว่างปี 2020 ถึง 2023  ได้ระบุว่า Prince Holding Group "แก๊งอาชญากรการพนันออนไลน์ข้ามชาติฉาวโฉ่" ที่สร้างรายได้ผิดกฎหมายถึง 5 พันล้านหยวน 

การปราบปราม Prince Holding Group ของรัฐบาลจีนเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2563 โดยสำนักงานตำรวจปักกิ่งจัดตั้งหน่วยเฉพาะกิจเพื่อสืบสวนกลุ่มนี้ นับแต่นั้นมา ศาลในอย่างน้อย 7 มณฑลของจีนได้ตัดสินลงโทษพนักงานของ Prince Holding Group และผู้ใต้บังคับบัญชาในข้อหาการพนันและฟอกเงิน

พูดง่ายๆ ก็คือ รัฐบาลกัมพูชาอุ้ม Prince Holding Group และ เฉินจื้อ ส่วนรัฐบาลจีนต้องการกวาดล้าง Prince Holding Group 

ใครที่บอกว่ารัฐบาลจีนอุ้มจีนเทา ก็ควรเปลี่ยนความคิดเสียใหม่ เพราะหากไม่มีรัฐบาลจีนคอยจ้ำจี้จ้ำไช ป่านนี้สแกมโบเดียแผลงฤทธิ์ยิ่งกว่านี้อีก

แต่ทำไม เฉินจื้อ และบริษัทของเขาจึงยังไม่ถูกล้างบางให้หมดสิ้น?

นั่นก็เพราะรัฐบาลกัมพูชาตคอยคุ้มหัวให้อยู่นั่นเอง แม้ว่ารัฐบาลกัมพูชาจะ "กวาดล้าง" สแกมเมอร์และทุนเทาในประเทศ แต่ก็ไม่จริงจัง 

เช่นในปี 2019 ฮุนเซน ได้ประกาศปราบปรามการพนันออนไลน์ โดยอ้างถึงปัญหาอาชญากรรมที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ RFA ชี้ว่าน่าจะเป็นเพราะรัฐบาลจีนกดดันมายัง ฮุน เซน ให้กวาดล้าง "จีนเทา"  

การกวาดล้างนี้ส่งผลกระทบทันทีต่อเมืองสีหนุวิลล์ โดยมีแรงงานและผู้ประกอบการชาวจีนกว่า 200,000 คนอพยพออกจากเมือง และอีกหลายพันคนต้องติดค้างเนื่องจากขาดแคลนเงินทุนและไม่สามารถกลับบ้านได้

กระนั้นก็ตาม พวกทุนเทากลับกระจายตัวไปยังพื้นที่อื่นๆ และหลังจากทั่วโลกฟื้นจากการระบาดใหญ่ สแกมเมอร์ในกัมพูชายิ่งเติบโตอย่างรวดเร็ว จนส่งกระทบอย่างหนักต่อจีนอีกครั้ง และเป็นอีกครั้งที่กัมพูชา "เล่นละคร" ด้วยการทำทีเป็นกวาดล้างสแกมเมอร์

แต่มันเป็นแค่เรื่องตบตาและล่าช้ามากจนกระทั่งสื่อเกาหลีใต้ก็ยังเปิดเผยความไม่เอาไหนของกัมพูชาในเรื่องนี้จากการณีการตายของนายพัค

แต่สำหรับคนไทย เรารู้ว่านี่ไม่ใช่ความล่าช้าโดยระบบ แต่เป็นความล่าช้าโดยตั้งใจ เพื่อที่จะคอยปกป้องคนผิดไม่ให้เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม

โดยเฉพาะกรณีของ เฉินจื้อ นั้นยังมีนัยที่ซับซ้อนเข้าไปอีก

เพราะ RFA ชี้ว่า "พวกของ เฉินจื้อ นั้น "ฝังรากลึกอยู่ในเครือข่ายการเมืองกัมพูชา และกัมพูชาเป็นพันธมิตรระดับภูมิภาคที่เชื่อถือได้ที่สุดของจีน"

และ "ดังนั้น การกล่าวหา เฉิน โดยตรงย่อมส่งผลกระทบต่อเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายระดับสูงของกัมพูชาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และสร้างปัญหาให้กับนายกรัฐมนตรีทั้งในอดีตและปัจจุบัน (เพราะ) รัฐบาลปักกิ่งได้ทุ่มเทความพยายามทางการทูตและงบประมาณหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อเปลี่ยนตระกูลฮุนให้กลายเป็นมิตรที่เหนียวแน่นที่สุดของจีน"

นี่กระมัง ที่ทำให้แม้จีนจะพยายามกวาดล้างพวกทุนเทาในกัมพูชา แต่ก็ติด "ตอ" ตรงที่ผู้ที่อุปถัมภ์พวกทุนเทาคือตระกูลฮุน ซึ่งป็น "การลงทุนทางการเมือง" ของจีน 

มันกลายเป็นความอิหลักอิเหลื่อทางการเมืองที่แก้ไขได้ยาก แต่หากไม่รีบหาทางออก ภาพลักษณ์ของทางการจีนในฐานะผู้นำและผู้เร่งปราบปรามทุนเทา จะแปดเปื้อนไปเพราะตระกูลฮุน

บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - เฉินจื้อ กับ ฮุนเซน ภาพจาก WeChat