ชาวปักกิ่งแสดงความเฉยเมยและยังแสดงท่าทีท้าทายด้วยซ้ำเมื่อสำนักข่าว AFP ถามถึงการคุกคามล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ที่จะกำหนดอัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่รุนแรงอย่างมากต่อจีน

เมื่อวันศุกร์ ทรัมป์ประกาศอย่างกะทันหันว่าสหรัฐฯ จะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนทั้งหมด 100% ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน "หรือเร็วกว่านั้น" และยังตั้งคำแสดงท่าทีไม่แน่นอนต่อการประชุมกับประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ว่าจะเกิดขึ้นจริงหรือไม่

ทางการจีนยังไม่ได้ออกมาตอบโต้ต่อภัยคุกคามดังกล่าว ซึ่งทรัมป์กล่าวว่าเป็นการตอบโต้มาตรการควบคุมการส่งออกใหม่ของรัฐบาลจีนในภาคอุตสาหกรรมแร่หายากเชิงยุทธศาสตร์

กระทรวงการต่างประเทศและพาณิชย์ของจีนไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดๆ เมื่อสำนักข่าว AFP สอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อวันเสาร์

แต่ AFP ได้สัมภาษณ์ความเห็นของคนจีนในปักกิ่ง ซึ่งแสดงจุดยืนไม่ต่างกันนัก

“ผมไม่รู้สึกอะไรเมื่อเห็นข่าวครั้งแรก” หลิวหมิง พนักงานบริษัทซอฟต์แวร์วัย 48 ปี กล่าวที่หน้าห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ในปักกิ่ง

“ทรัมป์มักจะมีนโยบายแบบเด็กอมมือ หรือเอาแต่ใจแบบนี้เสมอ” หลิวกล่าว
 
“จีนไม่กลัวมาตรการคว่ำบาตรหรือนโยบายใดๆ ของสหรัฐฯ ที่มุ่งจำกัดเรา เรามีความมั่นใจและมีความสามารถที่จะทำตัวให้ดีขึ้น”

'วุ่นวายเหลือเกิน'
เช่นเดียวกับคนอื่นๆ ที่สำนักข่าว AFP สัมภาษณ์บนท้องถนนในกรุงปักกิ่งเมื่อวันเสาร์ หลิวมองว่าทรัมป์เป็นคนเอาแน่เอานอนไม่ได้

“จากมุมมองของชาวจีน เขาเป็นคนที่ไม่ค่อยน่าเชื่อถือ” เขากล่าว

"เขาเปลี่ยนนโยบายนี้ไปนโยบายนั้นอยู่เสมอ ก่อให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วโลก

"มันไม่มั่นคงเอาเลย"

ไอรีน หวัง พนักงานประกันภัยวัยสามสิบกว่าๆ เห็นด้วยกับความรู้สึกนี้

"วันนี้เขาพูดอย่างหนึ่ง แต่บางทีหลังจากงีบหลับสักพัก เขาอาจจะเปลี่ยนใจอีกครั้งก็ได้" หวังพูดติดตลก

"คนในวัยของเขา (79 ปี) เขาน่าจะใจเย็นกว่านี้อีกหน่อย!"

เธอเชื่อว่าภาษีศุลกากรที่สูงลิ่วที่ทรัมป์ขู่ไว้อาจส่งผลเสีย

"สำหรับชาวอเมริกัน มันอาจส่งผลกระทบ" เธอกล่าว เนื่องจากภาษีศุลกากรสินค้าจีนอาจทำให้ราคาสินค้าในสหรัฐฯ พุ่งสูงขึ้น

สำหรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คนที่อาศัยอยู่ในจีน หวังยอมรับว่าเธอไม่สามารถเพิกเฉยต่อข่าวนี้ได้ทั้งหมด

"พูดตามตรง นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ดังนั้นเราคงต้องรอดูกันต่อไปว่าสถานการณ์จะเป็นอย่างไร"

หวังว่าจะเป็น 'ปกติ'
ชาวเมืองหลวงของจีนบางคนบอกกับ AFP ว่าคาดว่าจะมีผลกระทบเพียงเล็กน้อยต่อเศรษฐกิจของประเทศ หากการค้า สงครามกับรัฐบาลวอชิงตันทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้ง

“ภาคการนำเข้า-ส่งออก โดยเฉพาะธุรกิจเหล่านั้น จะได้รับผลกระทบในระดับหนึ่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” เจสิกา หยู วัย 40 ปี กล่าว

แต่ “สำหรับคนทั่วไปในจีน ในอนาคตอันใกล้นี้ ฉันคิดว่าชีวิตประจำวันของพวกเขาคงไม่เปลี่ยนแปลงไปมากนัก” เธอกล่าว

หยูยังคร่ำครวญถึงความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างปักกิ่งและวอชิงตัน

“ยิ่งสถานการณ์สงบสุขมากเท่าไหร่ การพัฒนาเศรษฐกิจก็จะยิ่งเกิดขึ้นมากขึ้นเท่านั้น” เธอกล่าว

“เราหวังว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ”

ลิซ่า หลิว เพื่อนร่วมงานของหยู ซึ่งอยู่ในวัยสามสิบกว่าๆ กล่าวว่าเธอเห็นข้อดีอย่างหนึ่งในแนวทางการบริหารประเทศที่คาดเดาไม่ได้ของทรัมป์

“เขาช่วยให้เรามีเรื่องพูดคุยกันมากมายบนโต๊ะอาหาร” เธอกล่าว

Agence France-Presse

Photo - ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / VARIOUS SOURCES / AFP