สำนักข่าว Vigor Media 《銳傳媒》ในไต้หวันเผยแพร่บทความคอลัมน์ชื่อ "อาณาจักรแห่งการฉ้อโกงออนไลน์ของกัมพูชา" ระบุว่า คนส่วนใหญ่คิดว่า นิคมอุตสาหกรรมเคเค (KK Industrial Park) ทางตอนเหนือของเมียนมาเป็นฐานการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม (สแกมเมอร์) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่ความจริงแล้วไม่ใช่เช่นนั้น เพราะความจริงก็คือ กัมพูชาคือศูนย์กลางสแกมเมอร์ที่ใหญ่ที่สุด
"กัมพูชาเป็นอาณาจักรที่มืดมนและกระหายเลือดที่สุด มีประชาชนกว่า 200,000 คนถูกล่อลวงเข้าสู่นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ในฐานะทาสโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์ โดยมีเงินไต้หวันไหลเข้ามากกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทุกสัปดาห์ สหรัฐอเมริกายิ่งเลวร้ายกว่านั้นด้วยการสูญเสียเงินมากกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อปี ผู้เกษียณอายุต้องทนทุกข์ทรมานจากความสูญเสียเหล่านี้มากที่สุด รองจากการค้ายาเสพติด ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว สิ่งนี้บีบให้สหรัฐอเมริกาต้องเข้าแทรกแซงกัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อระบอบการปกครองของฮุน เซน"
บทความนี้อ้างสถิติว่ามีฐานปฏิบัติการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมมากกว่า 20 แห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "ซึ่งมากกว่าครึ่งหนึ่งอยู่ในกัมพูชา กัมพูชามีสถานะทางการเงินที่ไม่โดดเด่นและไม่ค่อยเป็นที่รู้จัก"
ไม่เพียงเท่านั้น รัฐบาลกัมพูชายังคอบคุ้มหัวให้บกับสแกมเมอร์เหล่านี้ เพราะในขณะกลุ่มฉ้อโกงในภาคเหนือของเมียนมากำลังแพร่ระบาด ทางการจีนจึงได้เข้าแทรกแซงจับกุม บุกจับผู้ดำเนินการศูนย์ฉ้อโกง และช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกใช้งานเยี่ยงทาสในศูนย์สแกมเมอร์ในเมียนมา แต่กัมพูชาสามารถหลีกเลี่ยงสถานการณ์แบบที่เกิดขึ้นในเมียนมาได้ เพราะมี "การคุ้มครองจากทางการและการเชื่อมโยงของรัฐบาลกับกลุ่มอาชญากร"
"เมื่อเร็ว ๆ นี้ สหประชาชาติได้ดำเนินการปฏิบัติการ "ล้างทะเล" หลายระลอกในกัมพูชา กองกำลังสหประชาชาติได้เข้าตรวจค้นเครือข่ายค้าทาสและช่วยเหลือประชาชนกว่า 30,000 คน รัฐบาลกัมพูชาให้ความร่วมมือภายนอก แต่ในความเป็นจริงกลับลังเล มีคนเพียงไม่กี่คนที่รู้ว่ากัมพูชาสามารถปล่อยให้มีการฉ้อโกงที่แพร่หลายเช่นนี้ได้ เพราะนายกรัฐมนตรี ฮุน เซนเป็นผู้สนับสนุนทางการเงินเบื้องหลังเครือข่ายฉ้อโกงเหล่านี้ กัมพูชาขาดแรงกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ และต้องพึ่งพาผลกำไรจากการฉ้อโกงเพื่อสร้างความเฟื่องฟูให้กับผู้บริโภคเท่านั้น"
บทความนี้ชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเกื้อหนุนอุตสาหกรรมสแกมเมอร์กับเศรษฐกิจของกัมพูชาว่า ในช่วงสองปีที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจของกัมพูชาพุ่งสูงขึ้นจากกว่า 2 หมื่นล้าน เป็นกว่า 4 หมื่นล้าน โดยกว่า 50% ของรายได้มาจากการฉ้อโกงทางโทรคมนาคม "ประเทศเล็กๆ แห่งนี้ ยกเว้นประชากรภาคเกษตรกรรม การคัดไม้ทำลายป่าที่เกือบหมดสิ้น และปัจจุบันรายได้เพียงส่วนน้อยมาจากอุตสาหกรรมสิ่งทอ" แต่ใครจะทราบว่ารายได้ที่ใหญ่กว่านั้นมาจากเครือข่ายสแกมเมอร์กับรัฐบาลกัมพูชา
บทความนี้ยังเตือนว่า "กลุ่มอาชญากรฉ้อโกงทางโทรคมนาคมของกัมพูชาเป็นปฏิบัติการอาชญากรรมแบบบูรณาการที่ทันสมัย ครอบคลุมการค้ามนุษย์ การลักลอบขนสินค้า การฟอกเงิน การฉ้อโกง และการค้ายาเสพติด สหรัฐอเมริกา จีน และไต้หวันเป็นเหยื่อที่เปราะบางที่สุด ดังนั้นคนหนุ่มสาวที่กำลังพิจารณาทำงานในต่างประเทศจึงควรระมัดระวังเป็นพิเศษ"
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Phot - Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP