เว็บไซต์ China Military เผยแพร่บทวิเคราะห์ของผู้เชี่ยวชาญเรื่องความขัดแย้งไทย-กัมพูชา โดยชี้ว่าตระกูลฮุนเซนและกองทัพไทยคือผู้ชนะที่แท้จริงในความขัดแย้งนี้ เพราะความขัดแย้งนี้ คือบททดสอบการเปลี่ยนผ่านอำนาจ และเรื่องนี้เพียงแต่เกี่ยวข้องกับภูมิรัฐศาสตร์เท่านั้น แต่ยังทดสอบความสามารถในการปรับตัวของ "การเมืองครอบครัว" ในความวุ่นวายระดับภูมิภาคอีกด้วย
บทความชี้ว่า ความขัดแย้งที่ทวีความรุนแรงขึ้นอีกครั้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่เพียงแต่เกิดจากข้อพิพาทเรื่องดินแดนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการพัฒนาทรัพยากร การส่งกำลังทหาร และกระแสชาตินิยมที่กลับมาอีกครั้ง และเกิดขึ้นในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านอำนาจในกัมพูชา หลังจาก ฮุน เซนได้ก้าวลงจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ส่งมอบอำนาจให้กับฮุน มาเนต บุตรชายคนโต บทความชี่้ว่ากรณีนี้นับเป็นจุดเริ่มต้นของ "ยุคตระกูลฮุน 2.0" ในกัมพูชา
แต่การที่ตระกูลฮุนจะสามารถรักษาเสถียรภาพท่ามกลางแรงกดดันทั้งภายในและภายนอกประเทศ หรือเป็นเพียงเบี้ยในเกมหมากรุกขนาดใหญ่ ขึ้นอยู่กับการปรับโครงสร้างอำนาจภายในประเทศของกัมพูชา ตรรกะที่เชื่อมโยงการเมืองครอบครัว และการสร้างสมดุลทางการทูตท่ามกลางความขัดแย้งระหว่างจีนและสหรัฐฯ และความสัมพันธ์อาเซียน
ที่ผ่านมา กัมพูชาถือเป็นพันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์สำคัญของจีนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ในยุคของ ฮุน มาเนต เขากลับได้พบปะกับผู้แทนจากอาเซียนและสหรัฐอเมริกาบ่อยครั้ง แสดงให้เห็นถึงจุดยืนทางการทูตที่เป็นอิสระและกระตือรือร้นมากกว่าบิดาของเขาที่ถูกมองว่าพึ่งพาจีน และฮุน มาเนต ยังมุ่งมั่นที่จะสร้างภาพลักษณ์ทางการทูตที่ยืดหยุ่นกว่าบิดาของเขา
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าตระกูลฮุนจะยังกุมอำนาจต่อไป แต่ก็มีปัญหารุมเร้ามากมาย ทั้งการคอร์รัปชัน ความเฉยเมยทางการเมืองในหมู่คนหนุ่มสาว และการพึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศในระดับสูง นักวิเคราะห์ชี้ว่า "ในวิกฤตกึ่งทหารอย่างความขัดแย้งไทย-กัมพูชา การตัดสินใจที่ไม่สอดคล้องกันและความไม่สมดุลของข้อมูลสามารถก่อให้เกิดความเสี่ยงเชิงระบบได้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง แม้ว่าตระกูลฮุนเซนดูเหมือนจะอยู่ในสถานะที่รุ่งเรือง แต่ทุกห่วงโซ่แห่งอำนาจต้องเชื่อมโยงกันอย่างแน่นหนา มิฉะนั้นจะมีความเสี่ยงที่จะสูญเสียการควบคุม"
"ในขณะนี้ ตระกูลฮุนเซนยังคงมั่นคงดุจสุนัขแก่ แต่ทุกย่างก้าวไม่อาจพลาดพลั้งได้ โครงสร้างอำนาจของพวกเขาเปรียบเสมือนบ้านเก่าที่กำลังบูรณะใหม่ ผนังภายนอกอาจทาสีใหม่หมดจด แต่รากฐานยังคงตั้งอยู่บนคานเดิม แผ่นดินไหวภายนอกเพียงครั้งเดียวอาจก่อให้เกิดหายนะ หากต้องเผชิญกับภัยคุกคามสามประการ ได้แก่ วิกฤตการณ์ชายแดน การเปลี่ยนผ่านอำนาจ และกลยุทธ์ระหว่างประเทศ หากตระกูลฮุนเซนยังคงรักษาเสถียรภาพด้วยแนวทาง “นุ่มนวลแต่หนักแน่น” “รูปแบบการปกครองแบบครอบครัว” ของพวกเขาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะกลายเป็นรูปแบบการดำเนินงานทางการเมืองที่แหวกแนว อย่างไรก็ตาม หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งสูญเสียการควบคุม ไม่เพียงแต่ชายแดนไทย-กัมพูชาเท่านั้น แต่ภูมิทัศน์อาเซียนทั้งหมดก็จะถูกปรับเปลี่ยน โลกกำลังเปลี่ยนแปลง กระดานหมากรุกกำลังเปลี่ยน และครอบครัวฮุนเซนยืนอยู่บนกระดานหมากรุกอันยิ่งใหญ่ที่ไร้ทางออก" บทวิเคราะห์ กล่าว
รายงานโดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - ประชาชนถือรูปของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ขณะเข้าร่วมการเดินขบวนแสดงความสามัคคีซึ่งจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการกระทำของรัฐบาลกัมพูชาในกรณีพิพาทชายแดนกับไทยเมื่อเร็วๆ นี้ ในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2568 (ภาพโดย TANG CHHIN Sothy / AFP)
