หลายเดือนก่อนผมได้เห็นโพสต์ของหอสมุดรัฐสภาสหรัฐ (The Library of Congress) เผยแพร่แผนที่โบราณของไทยที่เก็บรักษาไว้ในหอสมุด ซึ่งกำหนดอายุโดยหอสมุดไว้ที่ปี ค.ศ. 1767 ถึง 1782 หรือ พ.ศ. 2310 - 2325 ตรงกับปลายกรุงศรีอยุธยาถึงต้นกรุงรัตนโกสินทร์
แผนที่ฉบับนี้มีความสำคัญมาก เพราะแผนที่โบราณของไทยถือว่าหายากมากแล้ว แต่แผนที่ที่ระบุการเดินทาง พรมแดน และชื่อบ้านนามเมืองของไทยไปจรดกัมพูชายิ่งหายากมากถึงมากที่สุด
แผนที่นี่ยังพิเศษตรงที่แผ่นด้านหน้าเขียนแผนที่ไปยังชายแดนพม่า ส่วนแผ่นด้านหลังเขียนเส้นทางไปยังกัมพูชา
แผนที่นี้กำหนดอายุระหว่าง พ.ศ. 2310 - 2325 หรือในปีที่สิ้นกรุงศรีฯ จนถึงปีสร้างกรุงเทพฯ ในช่วงเวลาก่อนและหลังปีนี้ไม่กี่ทศวรรษ กัมพูชามีสถานะเป็น 'ประเทศราช' ของไทยแล้ว โดยในตั้งแต่สมัยรัชกาลพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ เจ้าเขมรก็ทะเลาะกันรุนแรงเพื่อชิงอำนาจจนมีบางส่วนมาขอความช่วยเหลือจากกรุงศรีอยุธยา อันเป็นจุดเริ่มที่ไทยตั้งกษัตริย์เขมร (อีกครั้ง) หลังจากขาดช่วงมานาน และทำให้ไทยปฏิบัติต่อกัมพูชาเป็นประเทศราช
การปฏิบัติต่อกัมพูชาในฐานะนั้นยังคงสืบต่อมาจนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อทรงทวง 'บรรณาการ' จากเจ้าเขมร แต่เจ้าเขมรไม่ยอมรับเพราะเห็นว่าไม่ใช่เชื้อพระวงศ์เดิมของกรุงศรีอยุธยา อีอกทั้งเจ้าเขมรยังอุปถัมภ์เชื้อพระวงศ์อยุธยาเอาไว้ด้วย คือ เจ้าศรีสังข์ ทำให้สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีต้องสั่งให้กรีฑาทัพมาสั่งสอนกัมพูชา
ศึกครั้งนั้นค่อนข้างยืดเยื้อ เพราะระหว่างการบุกกัมพูชาก็เกิดจลาจลในกรุงธนบุรีเสียก่อน อีกทั้งยังมีการแทรกแซงจากเวียดนาม แต่เจ้าเขมรก็ยังทะเลาะกันเองอีกด้วย การสั่งสอนและกำราบกัมพูชามาสำเร็จเอาเมื่อหลังตั้งกรุงเทพฯ แล้วในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช
แผ่นที่นี่จึงอาจเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการกำหนดยุทธศาสตร์ทั้งกับกัมพูชาและกับการรับศึกจากพม่าที่ยังตามจองล้างของผลาญไทยต่อไปในเวลานั้น
ตัวแผนที่แสดงเส้นทางจากเมืองประจิม (ปราจีนบุรี) ลงไปยังเขตเขมร แสดงเมืองต่างๆ ของเขมร ที่น่าสังเกตคือ เมือพุทไธสมัน กับเมืองพระนครหลวง แสดงเป็นรูปปราสาท ซึ่งตรงกับสถานะของเมือง คือ พุทไธสมันคือบันทายฉมา (ป้อมแมว) มีปราสาทบันทายฉมาที่ล้อมด้วยกำแพงกว้างใหญ่ ส่วนพระนครหลวง คือ เมืองนครธมและนครวัด ใกล้ๆ กันคือ "เสียมราบ" และต่อด้วย "ทะลทร้าบ" หรือ ทะเลสาบ (โตนเลสาบ)
แล้วค่อยๆ ไล่เมืองต่างๆ ไปจนถึงทะเลอ่าวไทย ชื่อเมืองและหมายเหตุเขียนเป็นภาษาไทยทั้งหมด เพียงแต่แผนที่นี้ (ที่วาดบนผืนผ้า) วาดกลับหัวกลับหาง คือเอาใต้ขึ้นบน เอาบนลงล่าง คงเพราะความสะดวกสำหรับคนโบราณเวลาดูแผนที่เดินทางจากเมืองปราจีนของไทย
บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better