ทำไมกัมพูชาถึงดึงดันจะให้ไทยขึ้นศาลโลกให้ได้ แต่ว่า'ศาลโลก'มีบังคับไทยได้ไหม? 

ทำไมกัมพูชาถึงดึงดันจะให้ไทยขึ้นศาลโลกให้ได้ แต่ว่า'ศาลโลก'มีบังคับไทยได้ไหม? 

เบื้องหลังสถานการณ์
จนกระทั่ง ณ เวลานี้ ฝ่ายกัมพูชาทั้งภาครัฐและภาคประชาชนต่างก็เรียกร้องให้ไทยขึ้นศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) ร่วมกันเพื่อสะสางกรณีพิพาทเกี่ยวกับชายแดน โดย ณ ช่วงเวลาที่เขียนรายงานนี้ เมื่อวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา ปราก โสคน รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศ ส่งหนังสือถึงนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เพื่อเชิญชวนให้ไทยร่วมกันนำข้อพิพาทชายแดนที่เกิดขึ้นเข้าสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) จากการรายงานของ Phnom Penh Post

ปราก โสคน กล่าวว่า “เมื่อพิจารณาถึงความซับซ้อน ลักษณะทางประวัติศาสตร์ และความละเอียดอ่อนของข้อพิพาทเหล่านี้ จะเห็นได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่าการเจรจาทวิภาคีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไปที่จะนำไปสู่การแก้ปัญหาที่ครอบคลุมและยั่งยืน" และกล่าวว่า การตัดสินใจของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศซึ่งมีพื้นฐานมาจากกฎหมายระหว่างประเทศ จะทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างยุติธรรม เป็นกลาง และยั่งยืน นอกจากนี้ยังจะช่วยให้เกิดความชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับเขตแดนดินแดนของแต่ละฝ่าย

รัฐไหนบ้างที่ขึ้นกับศาลโลก?
ตามที่ระบุไว้ในมาตรา 93 ของกฎบัตรสหประชาชาติ สมาชิกสหประชาชาติ (UN) ทั้ง 193 รายของ UN จะต้องเป็นภาคีของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) หรือที่เรียกอีกอย่างว่าศาลโลกโดยอัตโนมัติ ทั้งนี้ ประเทศไทยซึ่งเป็นสมาชิกของ UN จึงเป็นภาคีของ ICJ ไปโดยปริยายเช่นกัน 

ศาลโลกมีอำนาจแค่ไหน?
อย่างไรก็ตาม ICJ ไม่ใช่ศาลที่มีเขตอำนาจศาลบังคับ ซึ่งหมายความว่ารัฐจะไม่ผูกพันตามคำตัดสินของ ICJ โดยอัตโนมัติ เว้นแต่รัฐจะยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ อย่างชัดเจนในข้อพิพาทหรือผ่านบทบัญญัติของสนธิสัญญา สรุปก็คือ คำตัดสินของ ICJ มีผลผูกพันทางกฎหมายต่อรัฐ แต่ไม่สามารถบังคับใช้ได้หากไม่ได้รับความเห็นชอบหรือปฏิบัติตามโดยรัฐ

กรณนี้คือ ประเทศไทยซึ่งเป็นภาคีของ ICJ แต่ไม่ยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ โดยที่ไทยไม่เคยรับอำนาจ ICJ ตั้งแต่ศาลก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2488 อย่างไรก็ตาม เมื่อมีกรณีเขาพระวิหารกับกัมพูชาทาง ICJ วินิจฉัยในปี 2504 ว่าไทยได้รับอำนาจศาลแล้วในปี 2493 และการยอมรับอำนาจนี้จะครบวาระ 10 ปีดังนั้นไทยจึงมีพันธกรณีที่ต้องรับอำนาจของ ICJ ในการวินิจฉัยกรณีเขาพระวิหาร และอีกครั้งหนึ่งเมื่อเกิดกรณีเขาพระวิหารรอบสองในปี 2554 ไทยก็ต้องปฏิบัติตามพันธะเพราะกรณีนี้เป็นการรื้อฟื้นคดีจากตอนที่ไทยยังยอมรับอำนาจของ ICJ ทั้งๆ ที่ไทยไม่ยอมรับอำนาจมาหลายสิบปีแล้วก็ตาม

ไม่ยอมรับอำนาจศาลจะผิดไหม?
รัฐต่างๆ สามารถเลือกที่จะยอมรับหรือปฏิเสธเขตอำนาจศาลของ ICJ และสามารถจำกัดขอบเขตของการยอมรับนั้นได้เช่นกัน โดยสรุปก็คือ เขตอำนาจศาลของ ICJ ขึ้นอยู่กับความยินยอมของรัฐที่เกี่ยวข้องในข้อพิพาทเป็นหลัก 

มีกรณีที่น่าสนใจคือ ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้ยอมรับเขตอำนาจศาลบังคับของศาลเมื่อก่อตั้งในปี 1946 แต่ในปี 1984 หลังจาก"คดีนิการากัว" (Nicaragua v. United States) สหรัฐฯ ได้ถอนการยอมรับอำนาจศาลของ ICJ หลังจากศาลมีคำพิพากษาที่เรียกร้องให้สหรัฐฯ "หยุดและงดเว้น" จาก "การใช้กำลังที่ผิดกฎหมาย" ต่อรัฐบาลนิการากัว ศาล ICJ ได้ตัดสิน (โดยมีเพียงผู้พิพากษาสหรัฐฯ ที่ไม่เห็นด้วย) ว่าสหรัฐฯ "ละเมิดพันธกรณีภายใต้สนธิสัญญามิตรภาพกับนิการากัวในการไม่ใช้กำลังกับนิการากัว" และสั่งให้สหรัฐฯ จ่ายค่าปฏิกรรมสงคราม

ถ้ารับคำตัดสินแล้วไม่ปฏิบัติ?
มาตรา 94 ของกฎบัตรสหประชาชาติกำหนดหน้าที่ของสมาชิกสหประชาชาติทั้งหมดที่จะต้องปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลที่เกี่ยวข้องกักตน หากคู่กรณีไม่ปฏิบัติตาม ประเด็นดังกล่าวอาจถูกนำไปยังคณะมนตรีความมั่นคงเพื่อดำเนินการบังคับใช้

อย่างไรก็ตาม มีปัญหาอยู่ว่าหากคำพิพากษาเป็นปฏิปักษ์ต่อสมาชิกถาวรทั้งห้าประเทศของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหรือพันธมิตร สมาชิกดังกล่าวอาจใช้สิทธิ์ยับยั้งมติเกี่ยวกับการบังคับใช้ได้ ตัวอย่างเช่น หลังจาก "คดีนิการากัว" (Nicaragua v. United States) เมื่อนิการากัวนำประเด็นการไม่ปฏิบัติตามคำตัดสินของศาลของสหรัฐฯ ขึ้นสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นสมาชิกถาวรทั้งห้าประเทศของคณะมนตรีความมั่นคง ก็ใช้สิทธิ์ทำการยับยั้ง

ขึ้นศาลโลกช่วยแก้ปัญหาได้ไหม?
ICJ ถูกกล่าวหาว่าใช้ดุลยพินิจในทางตุลาการเป็นหลัก โดยไม่สามารถแก้ไขข้อพิพาทพื้นฐานระหว่างทั้งสองฝ่ายได้ ดังนั้นจึงมีแนวโน้มที่ความขัดแย้งระหว่างรัฐจะถูกยกระดับให้รุนแรงยิ่งขึ้น และสุดท้ายก็ต้องไปสู่ตัดสินโดยคณะมนตรีความมั่นคงโดยอัตโนมัติ

เนื่องจากเขตอำนาจศาลของ ICJ ไม่มีผลผูกมัดในตัวเอง ในหลายกรณี กรณีของการรุกรานระหว่างรัฐจะถูกตัดสินโดยคณะมนตรีความมั่นคงโดยการลงมติ ดังนั้น จึงมีความเป็นไปได้ที่รัฐสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงจะหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบทางกฎหมายที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหยิบยกขึ้นมา ดังที่แสดงไว้ในตัวอย่างของนิการากัวกับสหรัฐอเมริกา 

คำตัดสิน ICJ ลำเอียงได้หรือไม่?
ตามหลักการแล้ว ICJ ประกอบด้วยคณะผู้พิพากษา 15 คน ซึ่งได้รับการเลือกตั้งจากสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติและคณะมนตรีความมั่นคง โดยดำรงตำแหน่งวาระละ 9 ปี โดยคณะผู้พิพากษาโดยรวมจะต้องสะท้อนถึงอารยธรรมและระบบกฎหมายหลักของโลก ปัจจุบันมีตัวแทนจากแอฟริกา 3 คน ละตินอเมริกาและแคริบเบียน 2 คน เอเชีย 3 คน ยุโรปตะวันตก 5 คน และยุโรปตะวันออก 2 คน

แต่ศาล ICJ ถูกกล่าวหาว่าแสดงอคติทางการเมือง โดยงานวิจัยในอดีตพบ "หลักฐานอันหนักแน่น" ว่าผู้พิพากษาในศาลยุติธรรมระหว่างประเทศลำเอียง "ชอบรัฐที่แต่งตั้งพวกเขา" และ "ชอบรัฐที่มีระดับความมั่งคั่งใกล้เคียงกับรัฐของผู้พิพากษาเอง" และ "ชอบรัฐที่มีระบบการเมืองคล้ายกับรัฐของผู้พิพากษาเอง"

ทำไมกัมพูชาถึงดึงดันจะไป ICJ
นับตั้งแต่คดีนิการากัวในปี 1986 เป็นต้นมา คำประกาศยอมรับขอบเขตอำนาจศาลของ ICJ ในหมู่ประเทศกำลังพัฒนาได้เพิ่มขึ้น ซึ่งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นใน ICJ โดยเฉพาะในหมู่ประเทศเล็ก และภาพที่ชัดเจนคือคำกล่าวของ เลนนาร์ต เมอริ ประธานาธิบดีเอสโตเนียในช่วงปลายทศวรรษ 1990 ที่บอกว่า “อาวุธนิวเคลียร์ของรัฐขนาดเล็กคือกฎหมายระหว่างประเทศ” เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ให้สิทธิ์และเสียงของประเทศเล็กเท่ากับประเทศใหญ่

ปัจจุบันนี้ มีจำนวนรัฐที่กำลังดำเนินการกับศาล ICJ มากขึ้น หนึ่งในนั้นคือความพยายามของกัมพูชา (บทวิเคราะห์เสริม - หากตัดเรื่องกระบวนการยุติธรรมออกไป เราสามารถวิเคราะห์ได้ว่า การที่กัมพูชาเลือกใช้บริการจาก ICJ ก็เพราะนี่เป็นพื้นที่เดียวที่ประเทศเล็กๆ ที่ขาดพลังทางการเมืองด้วย จะมีพื้นที่แสดงตัวจนและพลังได้เท่าเทียมกับประเทศใหญ่กว่า ซึ่งในกรณีนี้คือประเทศไทย) 

ประเทศเล็กชอบ ประเทศใหญ่ไม่
อย่างไรก็ตาม ICJ และคณะมนตรีความมั่นคงฯ ล้วนแต่อยู่ใต้อิทธิพลการเมือง และประเทศพัฒนาแล้วหรือประเทศใหญ่มักจะหรือยกเลิกคำประกาศยอมรับขอบเขตอำนาจศาลทั้งหมด ตัวอย่างที่ชัดเจนได้แก่ สหรัฐอเมริกาในคดีนิการากัว และออสเตรเลีย ซึ่งแก้ไขคำประกาศของตนในปี 2002 เพื่อยกเว้นข้อพิพาทเรื่องเขตแดนทางทะเล คาดว่าเพื่อป้องกันการท้าทายจากติมอร์ตะวันออก ซึ่งอยู่ใกล้กับออสตรเลียและเพิ่งจะได้รับเอกราช 

อีกกรณีคือ เมื่อปี 2022 ยูเครนร้องเรียนต่อ ICJ กรณีที่รัสเซียกรณีละเมิดอนุสัญญาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ปี 1948 ซึ่งยูเครนและรัสเซียเป็นภาคี และขอให้มีมาตรการชั่วคราวเร่งด่วนเพื่อสั่งให้รัสเซียหยุดการรุก ตัวแทนของรัสเซียปฏิเสธที่จะปรากฏตัวต่อ ICJ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ICJ สั่งให้รัสเซีย "ระงับการปฏิบัติการทางทหารทันที" โดยมีมติ 13 ต่อ 2 เสียง โดยมีผู้พิพากษาชาวรัสเซียและจีนเป็นฝ่ายค้าน คำสั่งดังกล่าวมีผลผูกพันต่อรัสเซีย แต่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศไม่สามารถบังคับใช้ได้

ปัจจุบันรัสเซียก็ยังคงรุกรานยูเครนอย่างต่อเนื่อง

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - (ภาพประกอบข่าว) เธียรี เซง ทนายความและนักเคลื่อนไหวสัญชาติอเมริกัน-กัมพูชา ซึ่งถูกกล่าวหาว่าก่อกบฏและยุยงปลุกปั่น กำลังเดินอยู่บนถนนหน้าศาลเทศบาลกรุงพนมเปญ ก่อนที่จะมีการพิจารณาคดีในกรุงพนมเปญ เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2022 (ภาพโดย TANG CHHIN Sothy / AFP)

TAGS: #กัมพูชา #เขมร #ชายแดน