การกวาดล้างคาสิโนมาเก๊าโดยรัฐบาลจีน ทำให้‘พวกสีเทา’หนีมาหากินใกล้ๆ ประเทศไทย

การกวาดล้างคาสิโนมาเก๊าโดยรัฐบาลจีน ทำให้‘พวกสีเทา’หนีมาหากินใกล้ๆ ประเทศไทย

นับตั้งแต่ปี 2014 แล้วที่รัฐบาลจีนกวาดล้างกิจกรรมผิดกฎหมายในมาเก๊า จนกระทั่งปีที่ผ่านมาการกวาดล้างนี้ก็ยังดำเนินอยู่

และนี่คือสาเหตุสำคัญที่ทำให้พวกผิดกฎหมาย หรือ "จีนเทา" (ในที่นี้จะเรียกว่า "กลุ่มสีเทา") อพยพไปยัง "พื้นที่สีเทา" อื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ 

แม้ว่ามาเก๊าจะหากินกับอุตสาหกรรมการพนันถูกกฎหมาย ภายนอกเหมือนจะเป็นสีขาว แต่เบื้องลึกเต็มไปด้วยธุรกิจสีดำและเทา ทำให้มาเก็ากลายเป็นเป็นพื้นที่สีเทาไปด้วย

คาสิโนถูกกฎหมายถูกใช้เป็นกลไกการฟอกเงินของกลุ่มอาชญากรรมในจีนและเขตเศรษฐกิจพิเศษของจีน และยังใช้เป็นที่ "ล้างเงินผิด" ให้กลายเป็นเงินถูกต้องของพวกนักการเมืองบางคนในจีน

นี่เป็นเหตุผลที่ทำให้จีนต้องชำระล้างมาเก๊าครั้งแล้วครั้งเล่า ในแง่หนึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของรัฐบาลจีนที่ต้องการกำจัดพวกสีเทาที่ใช้ช่องโหว่จากอุตสาหกรรมถูกกฎหมาย 

แต่ในแง่หนึ่งก็บ่งบอกการกวาดล้างพวกสีเทาไม่ใช่เรื่องง่าย แม้แต่จีนซึ่งมีการตัดสินใจที่เด็ดขาดและฉับไว ยังต้องล้างบางเป็นระยะๆ ยาวนานถึง 10 ปีแล้วก็ยังล้างก็ไม่หมดจด

แล้วประเทศเทาๆ ที่พวกแก๊งอาชญากรพวกนี้หนีไปกบดานจะกวาดล้างได้ล่ะหรือในเวลาอันสั้น? แถมยังมีเจ้าหน้าที่บ้านเมืองคอยคุ้มหัวพวกนี้เสียอีก เพราะแบ่งกันรับผลประโยชน์

การกวาดล้างครั้งใหญ่ที่ธุรกิจการพนันที่มาเก๊าเมื่อปี 2021 มุ่งเป้าไปที่ junket operators

junket operators เรียกอีกอย่างว่า gaming promoters เป็นพวกที่คอยบริการแขก VIP ที่จะไปเล่นการพนันนที่มาเก๊าโดยเสนอบริการต่างๆ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้ไปเล่นที่คาสิโนแห่งนั้นๆ เช่น เสนอให้ที่พักดีๆ บริการชั้นเลิศ และที่สำคัญที่สุดคือให้เครดิตไปเล่นการพนัน (ซึ่งสำคัญมากสำหรับคนที่เล่นการพนันแบบยาๆ จนเงินสดหมดมือ) เพราะนักพนันจากจีนจะไม่ได้รับเครดิตในการเล่นพนันที่มาเก๊า

เมื่อ junket เสนอบริการชั้นเลิศเหล่านี้แล้ว ก็จะพานักพนันไปเล่นที่คาสิโนที่เตี๊ยมกันไว้ แล้วคาสิโนก็จะให้ค่านายหน้ากับ junket นี่คือรายได้สำคัญของพวกนายหน้าเหล่านี้ และความสัมพันธ์นี้เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของธุรกิจคาสิโนในมาเก๊า เพราะในปี 2014 มี  junket ที่ลงทะเบียนไว้แล้ว 235 ราย สร้างรายได้ให้กับคาสิโนของเมืองประมาณ 60%

เนื่องจากลูกค้าของ junket ส่วนใหญ่เป็นลูกค้า VIP ดังนั้นรายได้ของธุรกิจพนันในมาเก๊าจึงมาจากลูกค้ากลุ่มนี้ไปด้วย

ปัญหาคือลูกค้า VIP มักมีแหล่งที่มาของเงินที่คลุมเครือ ถูกตั้งข้อสงสัยจากทางการว่าอาจนำมาฟอกผ่านการเล่นการพนัน เช่น พวกข้าราชการคอร์รัปชั่นในจีนนำเงินฉ้อราษฎร์บังหลวงมาฟอกที่นี่ โดยมี junket operators ทำหน้าที่ช่วยประสานงานฟอกเงิน ดังนั้นจึงนำไปสู่การที่รัฐบาลจีนต้องกวาดล้างธุรกิจนี้

จากตัวเลขเดือนมกราคม 2024 อย่างไรก็ตาม จำนวน junket ลดลงเหลือเพียง 18 รายเท่านั้น และตัวบิ๊กของธุรกิจนี้ถูกจับกุมและคุมขังไปเรียบร้อยแล้ว

พวกที่รอดการกวาดล้าง หายไปจากมาเก๊า แต่ไปโผล่ที่อื่นแทนในรูปแบบที่เลวร้ายกว่าเดิมเสียด้วย 

เมื่อเดือนมกราคม 2024 สำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เผยรายงานเรื่อง "คาสิโน การฟอกเงิน ธนาคารใต้ดิน และกลุ่มอาชญากรข้ามชาติในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้: ภัยคุกคามที่ซ่อนเร้นและทวีความรุนแรงมากขึ้น" 

เนื้อหาของรายงานน้นการแพร่กระจายของพวกสีเทามายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยกล่าวถึงความเป็นในมาเก๊าเอาไว้ว่า  "ก่อนหน้านี้ ผู้ประกอบการ  junket operator รายใหญ่ที่สุดของเขตบริหารพิเศษมาเก๊าทำกำไรมหาศาลเมื่อเทียบกับคาสิโนที่ได้รับอนุญาต เนื่องจากความเชื่อมโยงที่ใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนานระหว่าง junket ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ให้สินเชื่อแก่ลูกค้าที่ต้องการหลีกเลี่ยงการควบคุมเงินทุนและโควตา กับกลุ่มอาชญากรซึ่งโดยปกติจะให้บริการทวงหนี้ที่เกี่ยวข้อง กำไรเหล่านี้จึงสนับสนุนองค์กรอาชญากรรมอื่นๆ ที่ต้องการบริการฟอกเงินหรือโอนเงิน รวมถึงการลงทุนที่ดูเหมือนถูกต้องตามกฎหมาย ในช่วงกลางทศวรรษ 2000 ผู้ประกอบการ junket ที่มีแนวคิดก้าวหน้าเริ่มขยายธุรกิจไปสู่การพนันออนไลน์ ขยายตลาด และเพิ่มรายได้และกำไร"

รายงานชี้ให้เห็นถึงการขยายตัวที่เชื่อมโยงกันระหว่างพวกสีเทากับธุรกิจคาสิโนว่าเกี่ยวข้องกับการที่จีนเข้มงวดกับคาสิโนที่มาเก๊ามากขึ้น โดย "ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมคาสิโนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลุ่มแม่น้ำโขง เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีคาสิโนบนบกที่ได้รับใบอนุญาตและไม่มีใบอนุญาตรวมกว่า 340 แห่งภายในต้นปี 2022 ซึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาการบังคับใช้กฎหมายและกฎระเบียบต่างๆ ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า (SAR) ซึ่งส่วนหนึ่งเกิดจากความพยายามแก้ไขปัญหาการไหลออกของเงินทุนที่ผิดกฎหมาย การทุจริต และการฟอกเงิน ระหว่างปี 2019 ถึง 2023 มาตรการเหล่านี้ส่งผลให้มีการจับกุมและตัดสินลงโทษเจ้าพ่อจั๊งเก็ตในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ได้แก่ อัลวิน ชาว (Alvin Chau) จาก Suncity และเลโว ชาน (Levo Chan) จาก Tak Chun ซึ่งเป็น  junket operator ที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2 ราย แม้ว่าพวกเขาจะถูกตัดสินจำคุก 18 ปีและ 14 ปีในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มอาชญากรและการพนันผิดกฎหมาย แต่ธุรกิจนี้มีขนาดใหญ่กว่าชายสองคนนี้และธุรกิจของพวกเขามาก และผู้ประกอบการและผู้เล่นจำนวนมากได้ย้ายถิ่นฐานไปยังพื้นที่ในและรอบ ๆ เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ที่ได้รับการควบคุมอย่างหลวม ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งแสดงให้เห็นได้จากการลดลงอย่างมากของ junket ที่มีใบอนุญาตในเขตบริหารพิเศษมาเก๊า ซึ่งลดลงจากสูงสุด 235 รายในปี 2014 เหลือเพียงในปี 2023 โดยปัจจุบันมี junket  ประมาณ 12 รายที่ยังคงเปิดให้บริการอยู่

ทั้งนี้ เขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) ที่กลายเป็นที่รองรับการไหลบ่าของพวกสีเทาและธุรกิจคาสิโนสีเทาที่หนีมาจากมาเก๊า เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษสีหนุวิลล์  (SSEZ) ในประเทศกัมพูชา, เขตเศรษฐกิจพิเศษสามเหลี่ยมทองคำ (GTSEZ) ที่เมืองต้นผึ้ง แขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว และเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ชเวโกะโก ในเมืองเมียว ประเทศเมียนมา เป็นต้น 

รายงานระบุว่า "การเคลื่อนย้าย (จากมาเก๊า) และการเติบโตที่ตามมาของอุตสาหกรรมคาสิโนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เห็นได้ชัดโดยเฉพาะในภูมิภาคแม่น้ำโขง ซึ่งปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อมที่ดึงดูดคาสิโนและกลุ่มอาชญากรมาบรรจบกัน ปัจจัยเหล่านี้รวมถึงการมีเขตปกครองตนเอง (SR) ในเมียนมา ซึ่งมีลักษณะเฉพาะคือไม่มีการควบคุมของรัฐบาลและหลักนิติธรรม รวมถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษที่ไม่ได้รับการควบคุมอย่างเพียงพอจำนวนมาก และพรมแดนที่ห่างไกลและมีรูพรุนซึ่งช่วยให้การเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนของผู้คนและสินค้าโภคภัณฑ์เป็นไปได้สะดวก การแปลงเป็นดิจิทัลอย่างรวดเร็ว และเศรษฐกิจผิดกฎหมายขนาดใหญ่"

ผลก็คือ "เอเชียตะวันออกเฉียงใต้เผชิญกับความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากกลุ่มอาชญากรข้ามชาติและเศรษฐกิจผิดกฎหมาย และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้กลายเป็นพื้นที่ทดสอบเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งสังเกตได้ชัดเจนที่สุดจากการเปลี่ยนไปสู่การผลิตยาเสพติดสังเคราะห์ โดยเฉพาะเมทแอมเฟตามีน โดยมีปริมาณการผลิตเพิ่มขึ้นถึงระดับสูงสุดปีแล้วปีเล่าในสามเหลี่ยมทองคำและโดยเฉพาะรัฐฉานของเมียนมา อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นควบคู่กันซึ่งมองเห็นได้น้อยกว่านั้นเกิดขึ้นในธุรกิจธนาคารใต้ดินและการฟอกเงินในภูมิภาค" 

วิธีการที่ junket ฟอกเงินและเป็นนายทุนให้พวกสีเทา คือวิธีการเดียวกับที่ทำในมาเก๊า คือการสร้างเครือข่ายฟอกเงินเป็นชั้นๆ โดยการสมรู้ร่วมคิดกันของทุกฝ่าย รายงานระบุว่า "คาสิโนออนไลน์ที่ใช้การฟอกเงินใต้ดินและเครือข่ายธนาคาร รวมถึงกลุ่มที่เรียกว่า 'การรันแต้ม' หรือ "การวิ่งแต้ม" (跑分) ทีม "ขบวนรถ" (車隊) ของม้าเงิน และผู้ให้บริการชำระเงินบุคคลที่สามและที่สี่ ซึ่งบางครั้งเรียกว่าแพลตฟอร์มและกลุ่มรันแต้ม ณ ปี 2020 รัฐบาลจีนประเมินว่ามีผู้เข้าร่วมในอุตสาหกรรมใต้ดินนี้อย่างน้อย 5 ล้านคน โดยรวมมูลค่าเงินทุนที่ไหลออกจากจีนประมาณ 157,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้ระบุว่าเป็นผลมาจากการพนันออนไลน์ที่ผิดกฎหมายและการฉ้อโกงทางโทรคมนาคมที่เพิ่มขึ้น"

"การวิ่งแต้ม" (跑分) หมายถึงอาชญากรที่สร้างแพลตฟอร์มของตัวเองขึ้นมา และใช้บัตรธนาคารของผู้ใช้ทั่วไปหรือบัญชีจ่ายชำระเงิน (ในจีน เช่น WeChat, Alipay ฯลฯ) ในการโอนและเรียกเก็บเงินให้ผู้อื่น รวมถึงเปิดช่องทางสำหรับการโอนเงินผิดกฎหมายสำหรับการพนันออนไลน์ การฉ้อโกงทางโทรคมนาคม และกิจกรรมผิดกฎหมายและเป็นอาชญากรรมอื่นๆ และช่วยเหลืออาชญากรในการดำเนินกิจกรรมฟอกเงิน

วิธีการก็คือ อาชญากรจะพัฒนาแอปหรือแพลตฟอร์มการชำระเงินผ่านเว็บผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินของบุคคลที่สาม ในนามของ "งานพาร์ทไทม์/ซื้อของแทนคนอื่น/ทำคะแนน" อาชญากรจะได้รับรหัส QR และบัญชีส่วนตัวของผู้ใช้พาร์ทไทม์ และใช้เทคนิคในการชำระเงินอัตโนมัติ ส่งผลให้เงินของอาชญากรถูกหักจนเหลือศูนย์และกระจายไปยังบัญชีชำระเงิน ส่งผลให้เงินของอาชญากรถูกโอนเข้าบัญชีเล็กน้อย ส่วนพวก "ขบวนรถ" (車隊) ก็คือคนที่ถูกเสนอข้อแลกเปลี่ยนเพื่อมอบบัญชีให้แก๊งเหล่านี้เอาไปใช้ฟอกเงิน หรือที่เรียกในไทยว่า "บัญชีม้า"

เมื่อแก๊งพวกนี้อพยพมาจากมาเก๊ามายังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ "คาสิโนและผู้ประกอบการ junket ในเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิกยังให้บริการธุรกรรมที่เรียกว่า 'ตู้เซฟเก็บเงิน' (safekeeping) ซึ่งผู้เล่น รวมถึงผู้ที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มอาชญากรอย่างชัดเจน ได้รับอนุญาตให้ฝากชิปคาสิโนเพื่อรักษาความปลอดภัยกับแผนกการเงินของคาสิโนที่เกี่ยวข้อง และถอนเงินในภายหลัง ระบบนี้ได้พัฒนาไปเป็นสิ่งที่เรียกว่าข้อตกลง 'การลงทุน' กับผู้ประกอบการ junket  รายใหญ่ ซึ่ง 'นักลงทุน' สามารถรับผลตอบแทนได้ระหว่าง 5 ถึง 7% ต่อเดือนจากเงินที่ฝากไว้กับ junket"

"โดยพื้นฐานแล้ว การขยายตัวของเศรษฐกิจผิดกฎหมายได้ก่อให้เกิดการปฏิวัติในระบบธนาคารใต้ดินของภูมิภาค อุตสาหกรรมคาสิโนที่เฟื่องฟูของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามด้วยกลุ่มอาชญากรที่เชื่อมต่อกัน จากนั้นจึงเป็นคาสิโนออนไลน์ กลุ่ม e-junkets และการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ผิดกฎหมายและไม่ได้รับการควบคุมมากขึ้นเรื่อยๆ ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างการธนาคารที่ใช้โดยกลุ่มอาชญากร คาสิโนและธุรกิจที่เกี่ยวข้องได้พิสูจน์แล้วว่ามีความสามารถและมีประสิทธิภาพในการเคลื่อนย้ายและฟอกเงินเฟียต (เงินที่จับต้องได้) ที่รัฐหนุนหลังในปริมาณมหาศาล รวมถึงสกุลเงินดิจิทัลที่ไม่ถูกตรวจพบ การสร้างช่องทางในการบูรณาการรายได้จากการก่ออาชญากรรมนับพันล้านเข้าสู่ระบบการเงินอย่างเป็นทางการอย่างมีประสิทธิผล"

พัฒนาการของระบบดิจิทัลทำให้พวกสีเทาเหล่านี้ทำงานแบบข้ามชาติได้ง่ายขึ้น "โดยเฉพาะในลุ่มแม่น้ำโขง สร้างโอกาสให้กับผู้ที่ยึดพื้นที่เป็นฐานปฏิบัติการในภูมิภาคนี้ ส่งผลให้เครือข่ายอาชญากร ผู้ริเริ่มนวัตกรรม และผู้ให้บริการเข้ามาสนับสนุนและใช้ประโยชน์จากตลาดผิดกฎหมายต่างๆ ในภูมิภาคนี้" ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกสีเทาเลือกพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโขงนั้นรายงานระบุว่า "กลุ่มอาชญากรได้เริ่มย้ายการปฏิบัติการไปยังพื้นที่ของกลุ่มติดอาวุธที่เข้าถึงไม่ได้และปกครองตนเอง รวมถึงพื้นที่อื่นๆ ของอาชญากรรมในและรอบๆ สามเหลี่ยมทองคำ แรงกดดันอย่างต่อเนื่อง (จากหน่วยงานรัฐประเทศตางๆ) มีแนวโน้มที่จะผลักดันให้กลุ่มอาชญากรคิดค้นสิ่งใหม่ๆ และเคลื่อนตัวเข้าไปในเงามืดมากขึ้น"

การพนันออนไลน์เป็นส่วนสำคัญของธุรกิจพวกสีเทา และอนาคตของมันกำลังสดใสอย่างมาก รายงานระบุว่า "ตลาดการพนันออนไลน์อย่างเป็นทางการคาดว่าจะเติบโตถึงมากกว่า 205 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2030 โดยภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมีส่วนแบ่งการเติบโตของตลาดสูงสุดระหว่างปี 2022 ถึง 2026 ที่คาดการณ์ไว้ที่ 37% ที่น่ากังวลคือ การเติบโตของอุตสาหกรรมคาสิโนออนไลน์ "นอกชายฝั่ง" (รวมถึงการพนันกีฬาออนไลน์) ในเขตการปกครองที่มีความเสี่ยงสูงหลายแห่งในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งภูมิภาคแม่น้ำโขง ได้รับรายงานว่าเป็นความท้าทายที่สำคัญและเพิ่มมากขึ้นที่ทางการต้องเผชิญในภูมิภาคและนอกภูมิภาค ผู้ประกอบการ junket ในเขตบริหารพิเศษมาเก๊าและผู้เกี่ยวข้องทางอาชญากรรมที่ใกล้ชิดเป็นแรงผลักดันหลักของแนวโน้มนี้"

ดังนั้นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของพวกสีเมทาในภูมิภาคนี้เกี่ยวข้องกับบริการผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคาสิโนถูกกฎหมายแล้วกลายสภาพมาเป็นการพนันออนไลน์ เงินที่หมุนเวียนผ่าน junket ที่กลายมาป็นธนาคารใต้ดินและผู้ให้บริการฟอกเงินแบบดิจิทัลเป็นพลังสำคัญของธุรกิจสีเทาในลุ่มแม่น้ำโขง

แต่รายงานยังเผยให้เห็นข้อมูลที่น่าสนใจด้วยว่า "ขนาดที่เติบโตอย่างมหาศาลของอุตสาหกรรมยังดึงดูดคนหนุ่มสาวจำนวนมากอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อนเข้ามาหางานในภาคส่วนนี้ โดยมีโอกาสสำหรับบางคน แต่มีความเสี่ยงสำหรับคนอื่นๆ ที่เชื่อมโยงกับการฉ้อโกงในการรับสมัครงานและการค้ามนุษย์เพื่อก่ออาชญากรรม"

จากข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่า คนธรรมดาที่เข้าไปมีส่วนร่วมทำงานให้กับพวกสีเทา ไม่ใช่แค่กลุ่มที่ถูกหลอกลวงมาเท่านั้น แต่ยังมีพวกที่เต็มใจมาทำงานงานเพราะธุรกิจสีเทากำลังเฟื่องฟู

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo by Eduardo Leal / AFP

TAGS: #จีนเทา