สำนักข่าวไฉซิน (财新 หรือ Caixin) สื่อด้านเศรษฐกิจของจีนรายงานว่า รายได้ไตรมาสที่สองของบริษัทพินตัวตัว (拼多多 หรือ Pinduoduo) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Temu เพิ่มขึ้น 85.65% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นครั้งแรกที่อัตราการเติบโตชะลอตัวลงนับตั้งแต่การก่อตั้งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซข้ามพรมแดน Temu เมื่อไตรมาสที่สี่ของปี 2022
รายได้ของพินตัวตัวในไตรมาสนี้อยู่ที่ 97,060 ล้านหยวน โดยมีกำไรจากการดำเนินงานที่ปรับแล้วอยู่ที่ 34,990 ล้านหยวน และกำไรสุทธิที่ปรับแล้วที่เป็นของผู้ถือหุ้นสามัญอยู่ที่ 34,430 ล้านหยวน
อย่างไรก็ตาม ตลาดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ารายได้ของพินตัวตัว จะอยู่ที่ 99,985 ล้านหยวน
และแม้จะดูเหมือนเป็นการขยายตัวมากถึง 85% กว่าๆ แต่เมื่อเทียบกับตั้งแต่ไตรมาสที่สามของปี 2023 ถึงไตรมาสแรกของปี 2024 อัตราการเติบโตของรายได้ของ บริษัทพินตัวตัวสูงกว่า 90% ที่ 94%, 123% และ 131% ตามลำดับ
อย่างไรก็ตาม รายได้บริการธุรกรรมของพินตัวตัวที่เพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจาก Temu ซึ่งกำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในตลาดต่างประเทศ สวนทางกับอัตราการเติบโตของบริการการตลาดออนไลน์และรายได้อื่นๆ ของพินตัวตัวที่ชะลอตัวลงเหลือ 29% เทียบกับอัตราการเติบโตสามไตรมาสก่อนหน้าอยู่ที่ 39%, 57% และ 56% ตามลำดับ
ด้วยรายได้ที่ต่ำกว่าคาดทำให้ราคาหุ้นของพินตัวตัวในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงถึง 30% ณ ช่วงหนึ่งของการซื้อขายเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม
บริษัท Goldman Sachs วิเคราะห์ว่า ระบุว่าอัตราราคาตลาดต่อหุ้นปัจจุบันของพินตัวตัวต่ำกว่า 10 เท่า ซึ่งสะท้อนถึงความกังวลของนักลงทุนเกี่ยวกับการแข่งขันภายในประเทศจีนที่เข้มข้นขึ้นและความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ของ Temu (จากการที่ Temu ถูกตรวจสอบจากหลายประเทศและถูกต่อต้านจากบางประเทศ)
แต่โมเมนตัมการเติบโตของ Temu ยังคงดำเนินต่อไป และพินตัวตัวก็ยังคงเป็นหนึ่งในบริษัทที่เติบโตเร็วที่สุดในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตของจีนในไตรมาสที่สอง และกลยุทธ์/การลงทุนของบริษัทจะขับเคลื่อนการเติบโตในอนาคต
ทั้งนี้ เหลียนเหอ เจ่าเป้า (联合早报 หรือ Lianhe Zaobao) สื่อของสิงคโปร์ตั้งข้อสังเกตว่า "พินตัวตัวลงทุนมหาศาลใน Temu เพื่อขยายธุรกิจทั่วโลกและหลีกหนีจากภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในจีน ในขณะที่การแข่งขันรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ผู้บริหารก็ไม่ยอมเปิดเผยเกี่ยวกับผลงานของบริษัทลูกในต่างประเทศแห่งนี้ (หมายถึง Temu) ส่วน เฉินเหล่ย ผู้ก่อตั้งร่วมของพินตัวตัวกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า พินตัวตัวจำเป็นต้องเพิ่มการลงทุนเพื่อสนับสนุนพ่อค้าแม่ค้า"
Photo - ภาพประกอบข่าวภาพนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2018 ระหว่างที่ โคลิน หวง ผู้ก่อตั้งบริษัทอีคอมเมิร์ซ Temu หรือที่รู้จักกันในชื่อพินตัวตัว (Pinduoduo) กำลังกล่าวสุนทรพจน์ระหว่างการเปิดตัวการเสนอขายหุ้นต่อสาธารณะครั้งแรกของบริษัทในเซี่ยงไฮ้ โคลิน หวง เจ้าพ่ออีคอมเมิร์ซ กลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในจีน จากข้อมูลเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2024 โดยที่เว็บไซต์ชอปปิ้ง Temu ของเขาสามารถดึงดูดผู้บริโภคได้ด้วยสินค้าราคาต่ำและอัลกอริทึมอันทรงพลัง (ภาพโดย CNS / AFP) / CHINA OUT
