ล่อลวง-ค้ากามเด็ก ต่างชาติตีแผ่ไทย เฟื่องฟูเพราะสังคมเหลื่อมล้ำ
ประเทศไทย "มีชื่อเสีย" ในต่างประเทศอยู่เรื่องหนึ่ง คือเรื่องเป็นแหล่งกระทำ ซื้อขาย และค้ามนุษย์เพื่อมาทำอนาจารทางเพศกับผู้เยาว์ นี่คือภาพลักษณ์ที่เลวร้ายมากของไทยในสายตาชาวโลก มักถูกเอ่ยถึงในรายงานด้านสิทธิมนุษยชน หรือแม้แต่ถูกล้อเป็นมีมอยู่บ่อยๆ ในต่างประเทศ ว่าถ้าผู้ชายวัยกลางคนมาเที่ยวเมืองไทยคนเดียว มักถูกมองว่า "มาเที่ยวเองอย่างว่า"
FairPlane สื่อมวลชนด้านสิทธิมนุษยชน เผยแพร่บทความเกี่ยวกับปัญหาดังกล่าวในไทย เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2566 ชื่อเรื่อง "แม้จะมีข้อห้าม แต่การค้าประเวณีเด็กยังคงเฟื่องฟูในประเทศไทย" ผู้เขียนบทความได้ตั้งข้อสังเกตว่า "แม้ว่างานบริการทางเพศจะถูกห้ามตามกฎหมายในประเทศไทย แต่กฎหมายนี้ก็มีความคลุมเครือและบังคับใช้อย่างหลวมๆ บริการทางเพศ รวมถึงบริการที่เกี่ยวข้องกับผู้เยาว์สามารถเข้าถึงได้ง่ายในย่านแสงสีแดงที่โดดเด่น เช่น พัฒน์พงศ์ในกรุงเทพฯ และร้านนวด บาร์อะโกโก้ หรือบาร์คาราโอเกะที่เน้นเรื่องเพศ"
สื่อรายนี้ยังตั้งข้อสังเกตุเกี่ยวกับการค้าประเวณีเด็กในไทยเอาไว้อีกว่า "การค้าประเวณีเด็กทำผลกำไรมากกว่าอุตสาหกรรมบริการทางเพศสำหรับผู้ใหญ่ และเนื่องจากประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความเหลื่อมล้ำที่สุดในโลกในด้านช่องว่างรายได้และความมั่งคั่ง ครอบครัวไทยบางครอบครัวจึงหันไปใช้การค้าประเวณีลูกๆ เพื่อหาเงินเลี้ยงชีพ"
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าว ABC ของออสเตรเลียมีรายงานพิเศษเรื่อง "เด็กสาววัยรุ่นถูก 'ขายเพียง 2 ดอลลาร์' ซึ่งเป็นเรื่องราวของเยาวชนที่ถูกขายเป็นเหยื่อทางเพศในไทย ผู้เขียนได้เล่าเรื่องราวที่น่าสะเทือนใจเอาไว้ตอนหนึ่งว่า
"ฉันเพิ่งทราบว่ามีเด็กหญิงอายุ 13 ปีสองคนที่ถูกหลอกให้ออกจากหมู่บ้านไปทำงานในร้านอาหาร แต่กลับถูกลักพาตัวและข่มขืนอย่างรุนแรงจนถูกส่งกลับ แทนที่จะถูกขาย เรื่องราวนั้นทำให้ฉันแตกสลาย ฉันไม่สามารถเข้าใจได้ว่ามีผู้หญิงเหล่านี้กี่คน ซึ่งหลายคนอายุเพียง 15 ปีและเลิกอาชีพค้าประเวณีมาหลายปีแล้ว จะสามารถพบกับความสงบ ความสุข และความมั่นใจที่เพิ่มขึ้นอีกครั้ง
นี่คือความจริงเกี่ยวกับประเทศไทยที่หลายคนในไทยรู้สึกเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันทำให้ชีวิตของเยาวชนหญิงมากมายเหมือนตกนรกทั้งเป็น และยังทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศไทยเสียหายอย่างร้ายแรง
ในรายงานเมื่อเดือน 3 ตุลาคม 2563 ของสถาบันประชาชนด้านภูมิรัฐศาสตร์ (Institut du Genre en Géopolitique) ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ชี้ว่า "การค้าประเวณีบุคคลที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะในประเทศไทย คือผลที่ตามมาของการท่องเที่ยวทางเพศในระดับอุตสาหกรรม"
รายงานระบุว่า "มีรายงานว่าเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปีจำนวน 60,000 คนมีส่วนร่วมในระบบการค้าประเวณี ซึ่งเทียบเท่ากับ 40% ของบุคคลที่ค้าประเวณีในประเทศ (ไทย) ในบางภูมิภาค เช่น พัทยา ภูเก็ต หรือแม้แต่ภาคเหนือของประเทศไทย เด็กๆ และโดยเฉพาะผู้ที่มาจากชนกลุ่มน้อยมีความเสี่ยง เด็กข้างถนนเป็นผู้จัดการเป้าหมายหลักและผู้ผลิตสื่อลามกอนาจารเด็ก ในเมืองพัทยาเมื่อปี 2015 เด็กข้างถนน 90% จากทั้งหมด 200 คนตกเป็นเหยื่อของการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ โดยส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชายอายุระหว่าง 12 ถึง 17 ปี"
รายงานระบุว่า การค้าประเวณีเด็กทำรายได้มากกว่าผู้ใหญ่ ด้วยเหตุนี้บางครอบครัวจึงค้าประเวณีลูกเพื่อตอบสนองความต้องการของพ่อแม่ แต่ดูเหมือนว่าเด็กหรือวัยรุ่นบางคนตัดสินใจค้าประเวณีด้วยตัวเองโดยไม่มีใครบังคับ เพื่อที่จะนำเงินมาซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคให้ตัวเอง เพราะถ้าไม่ทำแบบนั้นก็จะไม่มีเงินมาเลี้ยงตัวเองได้ หรือที่ค้าประเวณีเพื่อชำระค่าเล่าเรียนสำหรับมหาวิทยาลัยก็มี
Photo by Romeo GACAD and Romeo GACAD / AFP