"แค้นของพ่อข้าขอชำระ" เผิงเต๋อเหริน ขุนศึกโกกั้งผู้เอาชนะทหารเมียนมา

ในปี 2552 และ 2558 กองทหารเมียนมาต่อสู้อย่างดุเดือดกับกองทัพโกกั้ง (MNDAA) ในช่วงเวลานั้น MNDAA มีผู้บัญชาการคือ เผิงเจียเซิง 

แต่เกิดการชิงอำนาจแลทรยศกันขึ้นในกองทัพโกกั้ง ลูกน้องของ เผิงเจียเซิง หักหลังเขาและสมคบกับทหารเมียนมา ร่วมกันเข้าควบคุมโกกั้งและแบ่งปันอำนาจกัน เรื่องนี้เกิดขึ้นในปี  2552 

หลังจากนั้นโกกั้งก็เกิด "สี่ตระกูลใหญ่แห่งโกกั้ง" ซึ่งประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่เคยเป็นลูกน้อง (และลูกน้องของลูกน้องของเผิงเจียเซิง) คุมผลประโยชน์ของดินแดนนี้ ผลประโยชน์ที่ว่านั่นค่อยๆ กลายสภาพจากอุตสาหกรรมการพนัน กลายมาเป็นธุรกิจฉ้อโกงออนไลน์ หรือ "ธุรกิจจีนเทา"

หลังจากเสียอำนาจไป เผิงเจียเซิง มีข่าวลือว่าเขาต้องหนีไป และถูกออกหมายจับจากกลุ่มอำนาจใหม่ในโกกั้ง กรณีนี้คือ กรณีโกกั้ง (Kokang incident)

เผิงเจียเซิง ปรากฏตัวอีกครั้งในการให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Global Times ของจีนในเดือนธันวาคม 2557 เขาประกาศคำมั่นที่จะยึดอำนาจการปกครองโกกั้งคืนจากกองทัพเมียนมา 

และในที่สุด ก็เกิดสงครามขึ้นอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 ระหว่างกองทหารของเผิงเจียเซิง คือกองทัพ MNDAA  กับกองทัพเมียนมา กรณีนี้เรียกว่า "การรุกโกกั้ง" (Kokang offensive) โดยกองกำลังที่ภักดีกับเผิงเจียเซิง เข้าโจมตีฐานที่มั่นของกองกำลังโกกั้งเดิมที่เคยภักดีต่อเขาแล้วแปรพักตร์ไปเข้ากับกองทัพเมียนมา 

การรบครั้งนั้นทำให้เกิดแนวร่วมสำคัญที่กำลังจะพลิกประวัติศาสตร์ของเมียนมาในเวลานี้ นั่นคือ พันธมิตรของ MNDAA เข้าร่วมรบด้วย นั่นคือ กองทัพอาระกัน (AA) และกองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง (TNLA) ทั้งสามกองกำลังนี้ต่อมาจะรวมตัวกันเป็นกลุ่ม "พันธมิตรภราดรภาพ" หรือ "พันธมิตสามพี่น้อง" 

อีกเรื่องหนึ่งซึ่งจะส่งผลสะเมือนมาถึงสถานการณ์ในเวลานี้ ก็คือ กองทัพเมียนมากล่าวหาว่าจีนให้การหนุนหลัง MNDAA 

ในตอนนั้น รัฐมนตรีกระทรวงสารสนเทศของพม่า คือ เย ทุต เรียกร้องให้รัฐบาลจีนควบคุมเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นของจีนที่อาจช่วยเหลือ MNDAA เพราะตามรายงานข่าวกรองทางทหารของเมียนมาร์ กองกำลัง MNDAA ได้รับการสนับสนุนจากอดีตทหารจีนที่ปลดระวางของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนซึ่งคัดเลือกมาเป็นทหารรับจ้าง อย่างไรก็ตาม รัฐบาลจีนระบุว่าไม่ได้ให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ MNDAA  

แม้ว่าจะมีข่าวลือเรื่องแบ็คอัพที่ทรงพลังอย่างจีน แต่ "การรุกโกกั้ง" เมื่อปี 2558 จบลงด้วยการที่ MNDAA ถูกไล่ตีจนถูกกองทัพเมียนมายึดฐานที่มั่นสุดท้ายได้ จน MNDAA ต้องยอมหยุดยิงแต่ฝ่ายเดียว กินเวลาการรบทั้งสิ้น 4 เดือน

เผิงเจียเซิง ต้องกลับไปเลียแผลอีกครั้ง ลือกันว่าเขากลับไปกบดานเงียบๆ ที่จีน ซึ่งอยู่แค่ฝั่งตรงข้ามกับดินแดนโกกั้งนั่นเอง

จนกระทั่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 อายุได้ 91 ปี นับเป็นขุนศึกกลุ่มชาติพันธุ์ที่อายุยืนที่สุดคนหนึ่งในเมียนมา 

แต่ MNDAA ไม่ได้จบสิ้นไปพร้อมกับ เผิงเจียเซิง เพราะเขามีทายาทที่สืบทอดเจตนารมณ์ทวงคืนดินแดนโกกั้ง นั่นคือลูกชายคนโตที่ชื่อ เผิงต้าซุ่น หรือบางครั้งเรียกว่า เผิงเต๋อเหริน ผู้รับหน้าที่เป็นผู้บัญชาการของ MNDAA

พวกเขารอเวลาจนกระทั่งสถานการณ์สุกงอมเมื่อจีนเริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของพวก "จีนเทา" ที่กลุ่มอำนาจใหม่ในโกกั้งเลี้ยงเอาไว้ดูดทรัพย์คนจีน ล่อลวงคนจีน และทำร้ยคนจีน 

"ตระกูลใหญ่ทั้งสี่แห่งโกกั้ง" มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจจีนเทาอย่างโจ่งแจ้ง ทั้งๆ ที่มันทำร้ายคนจีนและจีนก็เตือนแล้วให้รามือซะแต่คนพวกนี้ก็ยังไม่ยอม ส่วนกองทัพเมียนมาแต่ก็ทำเป็นทองไม่รู้ร้อน จนกระทั่งจีนติงมาก็ยังไม่ยอมกระดิก ปล่อยพวกกลุ่มอำนาจใหม่ในโกกั้งเสพสุขกับธุรกิจจีนเทา

จู่ๆ ในเดือนตุลาคม กองกำลัง MNDAA กองกำลัง AA และกองกำลัง TNLA ก็จับมือกันรบอีกครั้ง คราวนี้ชูธงในชื่อ "พันธมิตรภราดรภาพ" ทำการรุกตีฐานที่่มั่นของกองทัพเมียนมาโดยรอบโกกั้ง จนกระทั่งผ่านมาหนึ่งเดือนก็เข้ายึดเมืองเมืองเอกของโกกั้งได้สำเร็จ

พวกจีนเทาและตระกูลใหญ่ทั้งสี่ ถ้าหากไม่หนีไปก็ถูกจับ หากไม่ฆ่าตัวตายก็ตายระหว่างหนี

หลิวอาเป่า ที่เป็นหนึ่งในสี่เจ้าพ่อแห่งสี่ตระกูลใหญ่ในโกกั้ง เคยเป็นลูกน้องระดับมือขวาของ เผิงเจียเซิง พอ ไป๋สั่วเฉิง ลูกน้องอีกคนของ เผิงเจียเซิง ทรยศลูกพี่ อาเป่าก็ร่วมวงด้วย 

ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับครอบครัวไป๋สั่วเฉิง ลูกชายคนที่สองของคือไป๋อิงชาง ลูกสาวคิอไป๋อิงหลัน ลูกเขย เฉาเฉียงลี่ และคนอื่นๆ ถูกโจมตีด้วยระเบิดขณะหลบหนีด้วยเฮลิคอปเตอร์ ทุกคนบนเครื่องเสียชีวิต แต่ไม่ทราบว่า ไป๋สั่วเฉิง ผู้นำตระกูลไป๋อยู่บนเฮลิคอปเตอร์ด้วยหรือไม่

หลิวอาเป่า มีข่าวลือว่ายอมแพ้ ส่วน หมิงเสวียชาง หนึ่งในผู้นำตระกูลใหญ่ รายนี้ฆ่าตัวตาย

เมืองเล่าก่ายก์ เมืองเอกของโกกั้งเคยเป็นของตระกูลเผิงก่อนจะถูกยึดอำนาจจนต้องหนีเข้าป่าเข้าดอย วันนี้  เผิงเต๋อเหริน หวนกลับมาอีกครั้งอย่างผู้ชนะ ล้างแค้นแทนพ่อได้สำเร็จ

ส่วนกองทัพเมียนมาระส่ำหนัก เพราะแพ้จนไม่รู้จักคำว่า "ชนะ" มานานถึงหนึ่งเดือน จนกระทั่งต้องระดมพลรักษาการเทืองหลวงและเมืองเอก พร้อมกับยอมรับว่าสถานการณ์เสี่ยงที่ประเทศจะแยกเป็นเสี่ยงๆ 

นี่คือการเอาคืนแบบสายฟ้าแลบของ MNDAA ภายใต้การนำของ เผิงเต๋อเหริน ซึ่งไม่ใช่แค่ไล่ตีพวกที่หักหลังพ่อเขาจนแตกพ่ายไม่เป็นขบวน แต่ยังทำกองทัพเมียนมาที่เคยบดขยี้พวกเขามาก่อน ต้องระส่ำระสายอย่างหนัก

ไม่มีใครรู้ว่า "ชาติมหาอำนาจ" เกี่ยวข้องกับชนะของ MNDAA และพันธมิตรแค่ไหน แต่เรารู้ว่าในโลกออนไลน์ของประเทศใหญ่บางประเทศ เผิงเต๋อเหริน ได้รับเสียงเชียร์กระหึ่ม เพราะสงครามของเขาไม่ใช่แค่การล้างแคนแทนตระกูลเผิง หรือการกู้ศักดิ์ศรีของพ่อ แต่มันยังเป็นการทำลายรังของจีนเทาที่ทำให้ผู้คนหวาดกลัวมาตลอดทั้งปีนี้

นี่คือความฝันที่ MNDAA รอมานานแสนนาน สื่อภาษาจีนบางแห่งบรรยายได้ตรงเผงอย่างยิ่งว่า

"พวกเขาอดทนกับมันมาเป็นเวลา 14 ปี และคราวนี้ พวกเขามุ่งมั่นที่จะกอบกู้ทุกสิ่งที่พวกเขาสูญเสียไปกลับคืนมา"

รายงานพิเศษโดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better