การศึกษาทั่วโลกพบว่าผู้หญิงมากกว่า 1 ใน 4 ในช่วงชีวิตต้องเผชิญกับความรุนแรงในครอบครัว ตอกย้ำสังคมชายเป็นใหญ่
ผลการศึกษา The Lancet ในปี 2022 เปิดเผยว่า มากกว่า 1 ใน 4 เคยประสบความรุนแรงในครอบครัวจากคู่ครองที่เป็นผู้ชายอย่างน้อยหนึ่งครั้งในชีวิต
นั่นคือประมาณ 1 ใน 4 ของผู้หญิง และการละเมิดเริ่มต้นตั้งแต่เด็ก โดยร้อยละ 24 ของเด็กอายุ 15 ถึง 19 ปีเคยเผชิญกับความรุนแรง
โดยใช้ข้อมูลทั่วโลกจากองค์การอนามัยโลกตรวจสอบจำนวนเหตุการณ์ของการใช้ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงก่อนการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาปี 2000-2018
รายงานเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นมากที่สุดในภูมิภาคโอเชียเนีย รวมถึงออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และแปซิฟิก (ร้อยละ 49)
รีเบกกา ฮิตเชน หัวหน้าฝ่ายนโยบายของกลุ่มพันธมิตรยุติความรุนแรงต่อสตรี กล่าวกับเดอะวอชิงตันโพสต์ว่า “ข้อมูลดังกล่าวเน้นย้ำถึงสิ่งที่เรารู้มานานแล้ว นั่นคือ ความรุนแรงต่อผู้หญิงและเด็กผู้หญิงแพร่หลายทั่วโลก”
ฮิตเชนกล่าวเสริมว่า “จากการตีตราและการกล่าวโทษเหยื่อ ซึ่งแทบจะเป็นเรื่องสากลสำหรับผู้รอดชีวิต เรารู้ว่าความแพร่หลายและขนาดที่แท้จริงนั้นมีแนวโน้มที่จะใหญ่มากกว่านี้ เนื่องจากหลายคนไม่สามารถหรือรู้สึกว่าไม่สามารถเปิดเผยประสบการณ์ของพวกเขาได้”
NEW—Over 1 in 4 women have experienced intimate partner violence in their lifetimes, study finds.
— The Lancet (@TheLancet) February 17, 2022
Authors highlight urgent need to strengthen the public health response in post-COVID-19 reconstruction efforts. https://t.co/yZ61fqIZlV pic.twitter.com/AeMSicRUY0
เจส ฮิลล์ นักข่าวสืบสวนสอบสวนชาวออสเตรเลียกล่าวว่า การปกครองแบบปิตาธิปไตยที่ดำเนินมาเป็นเวลาหลายพันปีได้วางรากฐานที่ดีสำหรับการทารุณกรรมในครอบครัว ไม่นานนักที่ภรรยาถือเป็นทรัพย์สินของสามีและไม่มีสิทธิ์ตามกฎหมายใดๆ
เฉพาะในทศวรรษ 1980 เท่านั้นที่กฎหมายใหม่ป้องกันการข่มขืนโดยคู่สมรสยอมรับว่าผู้ชายไม่มีสิทธิ์เรียกร้องทางเพศกับภรรยาทุกเวลาที่ต้องการ ก่อนหน้านั้นถือว่าได้รับความยินยอมในวันแต่งงานและไม่เคยเพิกถอน
ฮิลล์กล่าวเสริมว่า “ผู้ชายไม่ล่วงละเมิดผู้หญิงเพราะสังคมบอกว่าไม่เป็นไร ผู้ชายทำร้ายผู้หญิงเพราะสังคมบอกว่าพวกเขามีสิทธิ์ที่จะควบคุม”