เทรนด์การบริโภคสื่อยุคใหม่ เมื่อเด็กเจนเจอเรชั่น z เสพสื่อแนวตั้งเป็นหลัก และเล็งเห็นความสามารถในการสะท้อนการเติมเต็มช่วงเวลาของชีวิตในทางของตัวเอง เพราะเชื่อใน From Gen Z, To Gen Z, By Gen Z.
ลาซาด้าชวนเด็กยุคใหม่เติมเต็มช่วงเวลาชีวิตผ่านทางเวทีประกวดภาพยนตร์สั้นแนวตั้งกับโครงการ Add to Life Project เวทีการประกวดภาพยนตร์สั้น
โดย ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่รักการทำหนังได้ร่วมแข่งขันเพื่อปล่อยไอเดียภายใต้คอนเซ็ปต์ที่ต่อยอดจาก Brand Proposition ของลาซาด้า “Add to cart, Add to life: ช้อปสิ่งที่ชอบ เพิ่มสิ่งที่ใช่ให้ชีวิต”
ทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะได้ร่วมสร้างสรรค์ผลงานภาพยนตร์สั้นแนวตั้ง (Vertical Film) ร่วมกับลาซาด้าและเต๋อ-นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ โดยผลงานจะได้รับการฉายในงานเปิดตัวภาพยนตร์ที่จัดขึ้นโดยลาซาด้าและโปรโมตผ่านโซเชียลมีเดีย ในฐานะตัวแทนของประเทศไทย ร่วมกับผลงานจากอีก 5 ประเทศอาเซียน รวมมูลค่าโปรเจกต์กว่า 1 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 12 สิงหาคนที่ผ่านมาทางลาซาล้าได้จัดเวิร์คชอป “เจาะเทรนด์การสร้างสรรค์คอนเทนท์ในยุคดิจิทัล” โดยเต๋อ นวพล และผู้เชี่ยวชาญในวงการภาพยนตร์ในการจัด Creative Film Workshop เพื่อแบ่งปันมุมมองจากประสบการณ์จริง คุณอั๋น วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร ผู้กำกับโฆษณาชื่อดังเจ้าของรางวัลมากมายที่มาแบ่งปันเทคนิคการเล่าเรื่องผ่านสื่อรูปแบบใหม่ ๆ
และคุณกอล์ฟ ยูทูปเบอร์จากช่องกอล์ฟมาเยือน ที่มาบอกเล่าเคล็ดลับในการถ่ายหนังในแนวตั้งที่คนทำหนังควรรู้ร่วมด้วยคุณพวงสร้อย อักษรสว่าง นักเขียนบทภาพยนตร์จากเรื่อง “One for the road วันสุดท้ายก่อนบายเธอ”
คุณเต๋อ นวพลได้ร่วมแชร์ข้อมูล และเทคนิคจากประสบการณ์การทำภาพยนตร์ พูดถึงปัญหาที่ทุกคนมักพบเจอในการทำงาน “เริ่มที่บทก่อนละกัน ปัญหาคือ ทำไมคนดูถึงไม่รู้สึกเท่าที่ตอนเราคิด หรือ เขียน?” ทริคที่จะแนะนำคือ การเขียนภาพและเสียงออกมาให้ได้ เช่น ความเหงา อะไรคือท่าทาง หรือบรรยากาศที่สามารถสื่อความหมายว่าตัวละครกำลังเหงา”

“คิดว่าเราเป็นคนดูละกัน เวลาเราเป็นคนดูเรามองแบบไหน สิ่งที่เราได้ยินได้เห็นก็คือภาพและเสียง ถ้าเราเริ่มได้จากตัวบทก่อนก็จะง่าย หลักง่ายๆของเราก็คือ หากจะเขียนความรู้สึกลงไปในบท อย่าเขียนว่า ฉันเหงา เราต้องแปลให้ได้ว่าฉันเหงาต้องทำท่าไหน ของเหล่านี้สามารถหาได้ในชีวิตประจำวัน” คุณเต๋อเสริม หาฉันเหงาในหลายๆเวอร์ชันได้ยิ่งดี ฝึกสังเกต มอง ฟัง จดบันทึกสิ่งแวดล้อมรอบตัวมาประยุกต์ใช้ได้
เข้าสู่ช่วงเตรียมตัวการถ่ายทำ ตัวนักแสดง แคสติ้ง โลเคชั่น และเวลาในการถ่ายทำ”เทคนิคที่แนะนำให้ใช้คือ ลองทดสอบบทตามวิธีที่เราอยากให้เขาเล่น และลองแบบที่เขาเข้าใจดู อีกส่วนคือ โลกของตัวละครที่ดูน่าสนใจ ทำให้คนดูอยากมีส่วนร่วมกับตัวละคร ทำให้ดูน่าสนใจ ตัวละครมีมิติมากยิ่งขึ้น” คุณเต๋อกล่าว

คุณเต๋อยังแนะนำเรื่องการหาโลเคชั่นในการถ่ายทำที่ต้องมีความเกี่ยวข้องกับตัวละคร เช่นฐานะ อาชีพ และคาเรกเตอร์ เพื่อทำให้ใกล้เคียงกับความจริง “ทำรีเสิร์ชมากๆ อย่าคิดเอง ออกมาข้างนอก ออกมาหาเพื่อนบ้าง”
สำหรับการถ่ายทำ เวลาที่เรามีไม่พอในการถ่ายทำ ”การทำหนังเราอาจคิดว่ามันคือศิลปะ แต่ศิลปะจะเกิดขึ้นได้ อีกครึ่งหนึ่งเกิดจากการบริหารเวลา สิ่งที่เราต้องถ่ายได้ดี การที่เราจัดการบริหารเวลาสิ่งที่เราต้องถ่าย ทำให้เราได้งานที่ดีขึ้น ทำให้เราวางแผนให้ดีรู้ว่าช็อตไหนควรถ่ายเท่าไหร่ หรือปรับวิธีการถ่ายอย่างไรให้ช็อตอื่นที่สำคัญมีจำนวนถ่ายเทคที่มากขึ้นได้”
สิ่งสำคัญคือการพักผ่อน “การหยุดพักคือ 1 ในกระบวนการการทำงาน เช่นเราตัดต่อมา 5 วันหนังเริ่มดูไม่รู้เรื่องแล้วลองกลับไปนอนแล้วกลับมาดูใหม่ จะรู้ว่าไม่รู้เรื่องละ การพักคือการลืมแล้วกลับมาเป็นคนดูใหม่ มาเช็คว่าดีหรือยังเข้าใจอย่างที่เราคิดหรือไม่” คุณเต๋อกล่าว
คุณอั๋น วุฒิศักดิ์ อนรรฆพร ผู้กำกับโฆษณา กล่าวในหัวข้อองค์ประกอบที่สำคัญของการเล่าเรื่อง “จริงๆ ถ้าให้พูดถึงไอเดียที่น่าสนใจคืออะไรคือ การแนกไม่ออกมาว่าอะไรคือไอเดียที่น่าสนใจ เด็กฟ จะชอบเลือกสิ่งที่เราอยากจะเล่า ที่เราสนใจ แต่เราจินตนาการถึงคนพูดและคนฟัง ในชีวิวิตจริงมันมีคนที่อยากจะพูด และคนที่ไม่อยากจะฟัง”

“ปัจจุบันความอดทนของคนไม่เหมือนเมื่อก่อน เราอยากเล่าเรื่องตัวละครนึงโตมาอย่างไร ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้ได้ คนดูก็ไปหมดละ ยิ่งยุคนี้คนชินกับการดูคอนเทนท์เร็วๆ สังเกตดูหนังมาร์เวลที่เปิดเรื่องก็ตีกันเลย เพราะเกริ่นไม่พออีกแล้ว ต้องไปหาวิธีเล่าเอาว่าตัวร้ายเกิดจากอะไร”
รวมทั้งการปรับมุมมองการเล่าเรื่อใหม่ หรือการหา Point of view แทนที่จะเป็นตัวเอกเดินเรื่อง ลองปรับให้คนอื่นเดินเรื่อง หรือเล่าสตอรี่ผ่านตัวละครอื่นแทน
คุณกอล์ฟ ยูทูปเบอร์จากช่องกอล์ฟมาเยือน ที่มาบอกเล่าเคล็ดลับในการถ่ายหนังในแนวตั้งที่คนทำหนังควรรู้ “ต้นคลิปจะต้องเสนอไอเดียที่น่าสนใจ มันอาจเป็นประโยคที่ได้ยินบ่อย คือ เอาคนดูให้อยู่ภายใน สามวิ ซึ่งเป็นเรื่องจริงต่อให้เราตัดต่อมาดีแค่ไหน สามวิแรกคนไม่สนใจก็จบ”
ร่วมทั้งสัดส่วนภาพที่ปัจจุบันลูกค้าต้องการเป็นแนวตั้งด้วย แต่เราถ่ายมาเป็นแนวนอน เราจึงต้องใช้สัดส่วน 4:5 เผื่อครอปจะได้สัดส่วนที่ยังโอเคอยู่ในการปรับ รวมทั้งการทำเทคนิคจากเทรนด์มาประยุกต์ใช้กับงานรีวิวในปัจจุบัน

โดยโครงการฯ ได้เปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ ที่มีอายุไม่เกิน 25 ปี ให้ส่งโครงเรื่องขยาย (Treatment) เพื่อบอกเล่าคอนเซ็ปต์ดังกล่าวในมุมมองของตนเอง ตั้งแต่วันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยมีผู้ส่งผลงานเข้าประกวดทั้งสิ้น 282 ทีม รวมกว่า 800 คน และเพื่อเป็นการจุดประกายและเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้พัฒนาทักษะในการสร้างสรรค์
ในขั้นต่อไป โครงการฯ จะคัดเลือกผู้ผ่านเข้ารอบ จำนวน 5 ทีม ที่จะได้สิทธิ์ในการร่วม intensive workshop อย่างใกล้ชิดกับเต๋อ นวพลเพื่อพัฒนาและต่อยอด Treatment ในวันอาทิตย์ที่ 13 สิงหาคม 2566 ก่อนจะคัดเลือกผู้ชนะ 1 ทีมที่จะได้ถ่ายทำภาพยนตร์สั้นต่อไป ซึ่งจะมีการประกาศผลในวันที่ 20 สิงหาคม 2566 ผ่านทางโซเชียลมีเดียของลาซาด้าประเทศไทย
