เช็กลิสต์สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อมีคนรู้จักเป็นมะเร็ง

เช็กลิสต์สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อมีคนรู้จักเป็นมะเร็ง
เช็กลิสต์สิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำเมื่อมีคนรู้จักเป็นมะเร็ง ทั้งวาจาและการกระทำที่มีทั้งง่ายและยากกว่าที่คิด

ดร.มินดี กรีนสตีน นักจิตวิทยา และผู้ป่วยเนื้องอก ผู้รอดชีวิตจากมะเร็งเต้านมมากว่า 17 ปี เผยกับไซโคโลจีทูเดย์ เรียกว่ามักจะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของมะเร็งสำหรับเพื่อน ๆ ที่มีคนรักได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคนี้อย่างกระทันหัน พวกเขามักจะถามว่า "ฉันควรพูดอะไรดี" 

กรีนสตีนแนะนำสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในตัวพวกเขาคือ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่รู้ตัว พวกเขาจะประสบความรู้สึกที่ผสมปนเประหว่างความเจ็บปวดและความกลัว แทนเพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัว ควบคู่ไปกับความวิตกกังวลเกี่ยวกับตนเอง 

ความคิดที่ว่า ถ้าเพื่อนของฉันได้รับสิ่งนี้ ฉันก็จะได้รับเช่นกัน ความคิดนี้นำไปสู่ความรู้สึกผิด ความวิตกกังวลและความรู้สึกผิดนี้ทำให้พวกเขาสร้างปมหรือทำในสิ่งตรงกันข้าม นำไปสู่การโจมตีแบบสะท้อนกลับของคำที่ "อาจดีกว่าที่จะไม่ได้พูด"

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันอันดับแรกคือ เราต้องเข้าใจว่า เหตุการณ์นี้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการทางธรรมชาติ อย่าปล่อยให้มันมาขัดขวางการเรียนรู้ "การเป็นเพื่อนที่ดีในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้" คำแนะนำจากทางกรียาตีนที่ทั้งควรและไม่ควรทำ

ควรทำ

  • ระวังรายการสิ่งที่ควรทำและไม่ควรทำ เพราะบางสิ่งที่ควรทำ กลับเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำของคนอื่นได้
  • รับรู้ว่าบางครั้ง เราจะทำในสิ่งที่ไม่ควร ไม่ว่าเราจะพยายามมากแค่ไหนก็ตาม
  • พยายามเป็นตัวของตัวเอง เราเป็นเพื่อนกันเพราะเราชอบกัน ไม่ใช่เพราะเราสามารถแก้ปัญหาของเราได้อย่างเก่งกาจ และเข้าใจดีว่ามะเร็งทำให้เราวิตกกังวลเช่นกัน ดังนั้นเราสามารถเป็นห่วงและวิตกกังวลไปในเวลาเดียวกัน
  • ในบางครั้งอาจจะลืมไปว่าเพื่อนเป็นมะเร็ง อาจจะขึ้นอยู่กับบุคลิกและสถานการณ์ของเพื่อน นั่นเพราะมันเป็นเพียงด้านเดียวของชีวิตที่โชคร้ายซึ่งเต็มไปด้วยความสนใจ พรสวรรค์ และงานอดิเรกทุกประเภทที่ควรค่าแก่การพูดถึง แต่มันทำให้รู้สึกว่ามันเป็นชีวิต

ฟัง: ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่อาจเป็นประโยชน์กับเพื่อนมากที่สุดในช่วงเวลาปัจจุบัน เมื่อมีข้อสงสัยให้ถาม หากเราร้องไห้ คำพูดของเราไม่น่าจะทรงพลังหรือเป็นประโยชน์ 
สิ่งสุดท้ายที่ควรทำคือ การฟัง

ไม่ควรทำ

  • วิจารณ์หมวกของเพื่อนโดยไม่ได้ร้องขอ
  • เริ่มการสนทนาด้วยเสียงแผ่วเบา นุ่มนวล แล้วถามว่า สบายดีไหม
  • ถามความเป็นไปเกี่ยวสภาพแวดล้อมครอบครัวของเพื่อน เพราะส่วนใหญ่แล้ว มันเป็นเพียงแค่การเปรียบเทียบปัจจัยเสี่ยงของคุณเองกับปัจจัยเสี่ยงของเพื่อนที่เป็นมะเร็ง
  • แนะนำวิธีการรักษาแบบใหม่หรือแพทย์ที่เคยได้ยิน หรือแพทย์ที่ญาติเราเคยไปรักษา เว้นแต่ว่าเราจะขอคำแนะนำจากคุณ 
  • โกรธตัวเองที่ทำผิดไป อย่ากังวล พวกเราทุกคนทำ เพราะความตายเป็นเรื่องยุ่งยาก
TAGS: #มะเร็ง