SuperAgers แก่แต่ตัว แต่สมองยังเจ๋ง

SuperAgers แก่แต่ตัว แต่สมองยังเจ๋ง
SuperAgers ใช้เพื่ออธิบายกลุ่มคนเล็กๆ ที่มีความเสื่อมถอยของสมอง รวมทั้งความรู้สวนทางกับอายุ แม้อายุจะมากขึ้นแต่สมองของพวกเขาไม่ได้ถดถอยตาม

ริชาร์ด ซีมา เผยในคอลัมน์ วอชิงตันโพสต์ เดือนเมษายน พ.ศ. 2566 อธิบายว่าคำว่า "SuperAgers" นี้ได้รับการประกาศเกียรติคุณจากนักวิจัยที่ สำนักวิชาแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยนอร์ทเวสต์เทิร์น เมื่อประมาณ 15 ปีที่แล้ว 

โดยคำว่า SuperAgers ใช้เพื่ออธิบายกลุ่มคนเล็กๆ ที่มีความเสื่อมถอยของสมอง รวมทั้งความรู้ไม่ได้ถดถอยสวนทางกับอายุ แม้อายุจะมากขึ้นแต่สมองของพวกเขายังไม่แย่ตาม นักวิจัยชาวสเปนพบปริมาณสมองที่สูงขึ้นในกลุ่มที่มีลักษณะเฉพาะซึ่งมีความทรงจำที่ดีกว่าเพื่อน ๆ ในรุ่นเดียวกัน

ในขณะที่นักวิจัยคนอื่นๆ สังเกตเห็นการเชื่อมต่อที่ดีขึ้นในบริเวณสมองของ SuperAgers ไม่ว่าในกรณีใด SuperAgers ดูเหมือนจะเอาชนะอายุที่มีผลต่อกราลดลงของความรู้ความเข้าใจเมื่อโตขึ้น

คนเหล่านี้มีอยู่จริง หากเราดูจากบรรทัดฐานการทดสอบไอคิวและความจำที่ใช้บ่อยที่สุด เราจะเห็นว่า 15% แรกในกลุ่มอายุ 85-90 ปี จะมีพฤติกรรมเหมือนกับคนทั่วไปในช่วงต้นถึงกลางปี 60 หรือพูดง่ายๆคือ เมื่อ SuperAgers อายุ 85-90 ปี แต่อายุสมองของพวกเขาเท่ากับคนอายุ 60 ต้นๆ

ในส่วนผู้ที่อายุ 80 ปีขึ้นไป 2% แรกคือ SuperAgers ที่แท้จริง เพราะพวกเขาทำคะแนนได้สูงกว่าค่าเฉลี่ยสำหรับผู้ที่อายุน้อยกว่า 25 ถึง 30 ปี กล่าวอีกนัยหนึ่ง คนเหล่านี้ยังคงฉลาด รวดเร็ว และมีความสามารถพอๆ กับรุ่นน้องอายุ 25 ปี

นั่นอาจจะเป็นที่มาว่า เหตุใดอายุของผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจึงไม่สำคัญเท่าไหร่

มีการตั้งข้อสังเกตถึงประธานาธิบดีโจ ไบเดนว่าอาจจะเป็น SuperAgers โดยกล่าวถึงการวิจัยที่ครอบคลุมเกี่ยวกับการป้องกันภาวะสมองเสื่อม 

เริ่มจากการไม่สูบบุหรี่ ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และรักษาระดับความดันโลหิต น้ำตาลในเลือด และคอเลสเตอรอลให้เป็นปกติ ไบเดนถือว่าให้ผ่านข้อเหล่านี้ทั้งหมด ทั้งยังไม่มีน้ำหนักเกิน ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 

ในส่วนของไบเดนเองยังใช้ CPAP (continuous positive airway pressure: แรงดันทางเดินหายใจเป็นบวกต่อเนื่อง) เป็นประจำ เขาได้รับอากาศเข้าสู่ปอดอย่างเพียงพอและรับออกซิเจนไปยังสมอง เลี่ยงการเกิดโรคหัวใจ หรือ สโตรกได้อีกด้วย

ยังไม่รวมถึงภาพลักษณ์ภายนอกที่ไบเดนดูแลตลอดเวลา การควบคุมอารมณ์ ปฏิสัมพันธ์ต่อเพื่อนร่วมงาน รวมทั้งความสัมพันธ์ในครอบครัว โดยภาพรวมแล้ว โจ ไบเดนถือว่าเป็น SuperAgers หรือไม่? ก่อนการเลือกตั้ง 2020 นักวิเคระห์กล่าวว่า 

"แม้ว่าฉันไม่มีความรู้โดยตรง แต่ประสบการณ์ 45 ปีในการฝึกประสาทจิตวิทยาแนะนำว่า 'ใช่' ฉันก็รู้สึกดีกับประธานาธิบดีวัย 80 ที่ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ มีนิสัยไม่ดีเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีเลย และได้รับการดูแลสุขภาพที่ดีเยี่ยม โดยสรุปแล้ว ฉันไม่คิดว่าไบเดนเป็น'โจ'ธรรมดาๆ"

นิสัยทั่วไปของ SuperAgers
1. SuperAgers ใช้ชีวิตอย่างกระฉับกระเฉง

การออกกำลังกายเป็นหนึ่งในสิ่งที่ดีที่สุดที่คุณสามารถทำได้เมื่ออายุมากขึ้น การออกกำลังกายส่งผลให้ได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยให้ร่างกายของคุณทำงานได้ดีที่สุด การออกกำลังกายช่วยให้หัวใจแข็งแรง และการออกกำลังกายที่เสริมสร้างกล้ามเนื้อจะช่วยลดความเสี่ยงในการหกล้มได้

2. SuperAgers ท้าทายตัวเองตลอดเวลา

กิจกรรมทางจิตมีความสำคัญเท่ากับการออกกำลังกาย กิจกรรมทางจิตมีหลายรูปแบบ แม้แต่การลองอ่านบทความเกี่ยวกับเรื่องที่คุณไม่คุ้นเคย หรือเรียนวิชาที่ทำให้คุณไม่เคยรู้จักมาก่อน สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นและเป็นการกระตุ้นสมองด้วยวิธีใหม่ๆ

3. SuperAgers ชอบเข้าสังคม

"มันไม่ง่ายเหมือนการพูดว่า 'ถ้าคุณมีโซเชียลเน็ตเวิร์กที่แข็งแกร่ง คุณจะไม่มีวันเป็นโรคอัลไซเมอร์'" ดร.เอมิลี่ โรกัลสกี้ นักประสาทวิทยา ผู้นำในการศึกษา SuperAging ที่ Northwestern University ในชิคาโกกล่าว "หากมีรายการทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพที่เราสามารถทำได้ เช่น การรับประทานอาหารบางอย่างและไม่สูบบุหรี่ การรักษาเครือข่ายทางสังคมที่แข็งแกร่งอาจเป็นสิ่งสำคัญในรายการนั้น"

4. SuperAgers ปล่อยตัวปล่อยใจ

SuperAgers ของ ดร.เอมิลี่ โรกัลสกี้ ยังรวมถึงผู้ที่ชอบออกกำลังกายและผู้ที่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอนทุกเย็น ผู้ที่ดื่มในระดับปานกลางมีโอกาสเกิดโรคอัลไซเมอร์หรือสัญญาณของปัญหาความจำน้อยกว่าผู้ที่ไม่ดื่มถึงร้อยละ 23

กุญแจสำคัญที่นี่คือการกลั่นกรอง สิ่งสำคัญพอๆ กันคือ การดื่มเกินปริมาณที่แนะนำจะถือเป็นปัจจัยเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์

TAGS: #SuperAger #โจ #ไบเดน