เรื่องราวของ “อาโป ณัฐวิญญ์” ผู้ชายที่เติบโตจากนักแสดงสู่สัญลักษณ์แห่งอิทธิพลใหม่ของไทย ถ่ายทอดเสน่ห์ ความมั่นใจ และพลัง Soft Power อย่างสง่างาม
ภาพลักษณ์และอิทธิพลคือพลังของการสื่อสาร และชื่อของหนุ่มคนนี้ “อาโป ณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์” กลายเป็นหนึ่งในพลังของ Thai Soft Power ของคนรุ่นที่ชัดเจนที่สุด
อาโปเริ่มสร้างชื่อเสียงในเวทีแฟชั่นระดับโลกอย่างจริงจัง เขาได้รับแต่งตั้งให้เป็น House Ambassador ของ Dior Men ประเทศไทยและปรากฏตัวบนรันเวย์ที่ปารีสแฟชั่นวีกในลุคที่สะท้อนความเรียบโก้แบบ Modern Gentleman จากนั้นไม่นาน Piaget แบรนด์นาฬิกาและจิวเวลรีหรูจากสวิตเซอร์แลนด์ก็เลือกเขาเป็น Friend of the Maison ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในปี 2568 เส้นทางของอาโปขยับจาก Friend of the Maison ไปสู่การเป็น Global Brand Ambassador ของ Piaget อย่างเต็ม
การจับมือกับสองแบรนด์แฟชั่นระดับโลกในปีเดียวกันทำให้ชื่อ “อาโป” เริ่มถูกพูดถึงในฐานะนักแสดงชายไทยที่สามารถก้าวเข้าสู่โลกแฟชั่นลักชัวรีได้อย่างเต็มตัว ในช่วงปี 2567 มีรายงานว่าเขาสร้างมูลค่า Earned Media Value (EMV) ให้กับแบรนด์แฟชั่นหรูรวมกว่า 48 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในตัวเลขสูงสุดที่คนไทยเคยทำได้
ในขณะเดียวกัน Dior Men Thailand ยังคงให้เขารับตำแหน่ง House Ambassador อย่างต่อเนื่อง ภาพลักษณ์ของเขาที่สงบ แต่แฝงพลัง ได้กลายเป็นเครื่องหมายการค้าของชายหนุ่มยุคใหม่ในสายตาแบรนด์ เขาเป็นทั้งความหรูหราและความจริงใจในคนคนเดียว ซึ่งเป็นสิ่งที่ Dior ต้องการสื่อสารกับคนรุ่น Z และ Millennials ทั่วเอเชีย
นอกจากแบรนด์แฟชั่น ในปีนี้ยังเป็นปีที่อาโปขยายบทบาทออกไปสู่หมวด Luxury Lifestyle & Tourism เมื่อ Thailand Privilege Card (โครงการสมาชิกพิเศษของรัฐบาลไทย) แต่งตั้งเขาเป็น Global Brand Ambassador คนแรกในรอบ 22 ปี ขององค์กร การแต่งตั้งนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของภาพลักษณ์ แต่คือกลยุทธ์การตลาดที่เชื่อมพลัง Soft Power เข้ากับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “Luxury with Warm Heart – ความหรูหราที่มีหัวใจแบบไทย” ซึ่งอาโปถ่ายทอดออกมาได้อย่างพอดี
อีกด้านหนึ่งเขายังคงสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับแบรนด์สปอร์ตแฟชั่นอย่าง SKECHERS Thailand ซึ่งต่อสัญญาให้เขาเป็น Brand Ambassador ปีที่ 2 พร้อมเปิดตัวคอลเล็กชันพิเศษ “SKECHERS x APO555” ที่ได้รับเสียงตอบรับล้นหลามจากแฟนคลับในหลายประเทศ และยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอาโปในการสร้างการรับรู้ให้แบรนด์ข้ามพรมแดนระหว่างสินค้าระดับแมสและลักชัวรีได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ อาโปยังร่วมแคมเปญกับ Siamese Asset ในฐานะ Brand Presenter ของแคมเปญ “Asset of Life” และยังปรากฏตัวในกิจกรรมเปิดตัวโปรแกรม King Power POWER PASS ร่วมกับ เจฟ ซาเตอร์ อีกด้วย
หากปี 2567 เป็นช่วงเวลาที่อาโปเริ่มได้รับการยอมรับในโลกแฟชั่นระดับนานาชาติ ปี 2568 คือปีที่เขาก้าวสู่จุดสูงสุดของคำว่า “Global Ambassador” อย่างแท้จริง ไม่เพียงจำนวนแบรนด์ที่ร่วมงาน แต่รวมถึงความหลากหลายของหมวดหมู่ ตั้งแต่แฟชั่น จิวเวลรี สปอร์ต อสังหาริมทรัพย์ ไปจนถึงการท่องเที่ยวเชิงลักชัวรี ทุกหมวดต่างยืนยันตรงกันว่าเขาคือภาพแทนของคนรุ่นใหม่ที่เข้าใจทั้งความเป็นไทยและความเป็นGlobal
