หลายคนไม่รู้... ขนมปังแม้ไม่เค็ม แต่แอบซ่อนโซเดียมเสี่ยงโรคไต

หลายคนไม่รู้... ขนมปังแม้ไม่เค็ม แต่แอบซ่อนโซเดียมเสี่ยงโรคไต
หลายคนไม่รู้ว่าอาหารไม่เค็มก็มีโซเดียมสูง ขนมปัง เบเกอรี่ และชานมไข่มุก กินมากเสี่ยงโรคไต เผยวิธีลดโซเดียมป้องกันไตเสื่อม

หลายคนอาจคิดว่า หากไม่ติดรสเค็มก็ไม่ต้องกังวลเรื่องโรคไต แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย เพราะ “โซเดียม” ซึ่งเป็นตัวการสำคัญที่ทำร้ายไต แอบซ่อนอยู่ในอาหารที่เราไม่ทันระวัง ไม่ว่าจะเป็นขนมปัง เบเกอรี่ กุนเชียง ชานมไข่มุก ไปจนถึงเยลลี่และน้ำผลไม้กล่อง อาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้แม้จะไม่รู้สึกเค็ม แต่กลับมีส่วนผสมของโซเดียมในรูปแบบต่าง ๆ ที่เรามองไม่เห็นและไม่รู้ตัว

ขนมปังและเบเกอรี่: ใส่ผงฟูหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต

องค์การอนามัยโลกแนะนำว่าผู้ใหญ่ไม่ควรได้รับโซเดียมเกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม แต่การศึกษาพบว่าคนไทยส่วนใหญ่กลับบริโภคโซเดียมเฉลี่ยสูงถึง 3,600–3,700 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเกือบเท่าตัวจากที่กำหนด ความไม่รู้และความเคยชินกับอาหารเหล่านี้ ทำให้หลายคนสะสมความเสี่ยงโรคไตอย่างเงียบ ๆ และกว่าจะรู้ตัว ก็มักอยู่ในระยะที่รุนแรงจนรักษาได้ยากแล้ว

โรคไตคือภาวะที่ไตทำงานผิดปกติ โดยอาจตรวจพบความผิดปกติของไตโดยตรง เช่น นิ่ว ถุงน้ำ หรือโปรตีนรั่วในปัสสาวะ หรือพบว่าค่า eGFR ต่ำกว่า 60 ต่อเนื่องเกิน 3 เดือน ซึ่งสะท้อนว่าไตกรองของเสียได้น้อยลง เมื่อร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินไป จะทำให้ความดันโลหิตสูง เลือดเสียสมดุล และไตต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้หน่วยกรองไตเสื่อมลงเรื่อย ๆ

อาหารแปรรูป เช่น ไส้กรอก กุนเชียง: ใช้โซเดียมไนไตรท์ถนอมอาหาร
 

อาการของโรคไตแบ่งได้เป็น 5 ระยะ ตั้งแต่ระยะต้นที่แทบไม่แสดงอาการ จนถึงระยะรุนแรงที่ไตเสียหายถาวรและผู้ป่วยเสี่ยงภาวะหัวใจวายหรือเส้นเลือดสมองแตก ความน่ากลัวคือในช่วงแรก ๆ เรามักไม่รู้เลยว่ากำลังป่วยอยู่ เพราะสัญญาณเตือน เช่น ปัสสาวะมีฟองมากขึ้น ตื่นมาปัสสาวะบ่อยกลางคืน หรือมีอาการบวมที่หน้าและขา มักถูกมองข้ามว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย

ของหวานและเครื่องดื่ม เช่น ชานมไข่มุก เยลลี่: มีโซเดียมอัลจิเนตเพิ่มความหนืด

แม้อาหารรสเค็มจัดจะถูกมองว่าเป็นตัวการหลัก แต่ในความจริงแล้ว โซเดียมยังซ่อนอยู่ในเมนูใกล้ตัวที่เราคาดไม่ถึง เช่น ขนมปังที่ใส่ผงฟูหรือโซเดียมไบคาร์บอเนต อาหารแปรรูปอย่างไส้กรอกและกุนเชียงที่ใช้โซเดียมไนไตรท์เพื่อถนอมอาหาร ของหวานอย่างชานมไข่มุกหรือเยลลี่ที่มีโซเดียมอัลจิเนตเพิ่มความหนืด รวมถึงอาหารกระป๋องและน้ำผลไม้กล่องที่มักใช้โซเดียมเบนโซเอตเป็นสารกันบูด เหล่านี้ล้วนทำให้ร่างกายได้รับโซเดียมมากเกินโดยไม่รู้ตัว

ผู้ที่ควรระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ คนที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคไต ผู้ป่วยเบาหวานและความดันโลหิตสูง เด็กและวัยรุ่นที่นิยมขนมและฟาสต์ฟู้ด รวมถึงผู้สูงอายุที่ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้ช้าลงและมักมีโรคร่วม หากไม่ใส่ใจ อาจเสี่ยงเข้าสู่ภาวะโรคไตโดยไม่ทันตั้งตัว

ทางออกที่ดีที่สุดคือการปรับพฤติกรรมง่าย ๆ ในชีวิตประจำวัน เช่น เลี่ยงการเติมเครื่องปรุงเกินจำเป็น ไม่ซดน้ำซุปจนหมด เลือกอาหารสดแทนอาหารแปรรูป ดื่มน้ำให้เพียงพอ และตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเช็กค่าไตอย่างสม่ำเสมอ เพราะแม้การฟอกไตหรือการปลูกถ่ายไตจะเป็นวิธีรักษาในระยะรุนแรง แต่หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ โรคไตก็ยังสามารถควบคุมและรักษาได้

ท้ายที่สุด การรู้เท่าทันว่าแม้ “ขนมปังธรรมดา” ก็อาจซ่อนโซเดียมไว้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องเล็ก ๆ อีกต่อไป การใส่ใจเลือกอาหารและลดโซเดียมตั้งแต่วันนี้ คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยปกป้องไตและสุขภาพระยะยาวของเราได้อย่างแท้จริง

TAGS: #โรคไต #อาหารเสี่ยงโรคไต #ฟอกไต #ไตเรื้อรัง #สุขภาพ