สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิด Dining Experience แท้จริงไม่ใช่เรื่องอวดหรู

สิ่งที่หลายคนเข้าใจผิด Dining Experience แท้จริงไม่ใช่เรื่องอวดหรู
คงมีคนจำนวนไม่น้อย ที่ยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัฒนธรรมบนโต๊ะอาหารของ old money ที่ความจริงแล้ว เพียงเน้นเรียบง่าย แต่มีมารยาท

เมื่อพูดถึงวัฒนธรรมบนโต๊ะอาหาร หลายคนอาจจินตนาการถึงภาพความหรูหราฟุ่มเฟือย ซึ่งมีรากฐานที่ลึกซึ้งมาจากวิถีชีวิตของชนชั้นสูงและตระกูลผู้ดีเก่าในยุโรปและสหรัฐอเมริกา โต๊ะที่เต็มไปด้วยช้อนส้อมเรียงราย เครื่องเงินและแก้วคริสตัลราคาแพง พร้อมกับบรรยากาศที่ดูเคร่งครัดจนแทบไม่กล้าขยับตัว ความเป็นจริงแล้วธรรมเนียมเหล่านี้ไม่ได้มีไว้เพื่อการโอ้อวดหรือสร้างภาพลักษณ์เท่านั้น แต่กลับถูกส่งต่อถ่ายทอดสู่วัฒนธรรมอาหารในมิติอื่นๆ ในคนทุกชนชั้นด้วยเช่นกัน 

อีกทั้งทุกวันนี้ กระแส Dining Experience ยังคงมาแรงโดยเฉพาะในสังคมเมืองและคนรุ่นใหม่ นอกจากการสัมผัสประสบการณ์จากการกินอาหารที่มีเรื่องราวแล้ว การเข้าใจมารยาทบนโต๊ะอาหารจึงไม่เพียงช่วยให้เรามีความมั่นใจ แต่ยังทำให้เรา อิน ไปกับประสบการณ์การกินได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นดินเนอร์หรู ร้านอาหารไฟน์ไดนิ่ง หรือแม้แต่มื้อธรรมดาที่มีความหมายกับครอบครัว ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็คือหนึ่งในวัฒนธรรมที่ถูกส่งต่อกันมาจากอดีตนั่นเอง

วัฒนธรรมบนโต๊ะอาหารที่เรามักมองว่าเป็นเรื่องซับซ้อนนั้น แท้จริงแล้วมีรากเหง้าจากการใช้ชีวิตของชนชั้นสูงในศตวรรษที่ 19 และต้นศตวรรษที่ 20 ก่อนจะค่อย ๆ แพร่หลายและถูกยอมรับเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลผู้ดีเก่าในพื้นที่ต่าง ๆ จุดมุ่งหมายเดิมไม่ใช่เพื่อแสดงฐานะ แต่เพื่อสะท้อนถึงความประณีต ความใส่ใจ และการให้เกียรติผู้ร่วมโต๊ะ

หลายความเข้าใจผิดจึงเกิดขึ้นตลอดมา เช่น การแต่งกายที่หลายคนคิดว่าจะต้องเต็มไปด้วยความหรูหราและการประดับประดาราคาแพง แต่ในความจริง สิ่งที่สำคัญกว่าคือ ความสุภาพ เรียบง่าย และการแต่งกายที่เหมาะสมกับกาลเทศะ เช่นเดียวกับเรื่องการใช้ช้อนส้อมที่ถูกเข้าใจผิดบ่อย ๆ ว่าต้องใช้ให้ครบทุกชิ้น ทั้งที่จริงแล้วเน้นเพียงการใช้ให้ถูกเวลาและเหมาะสม ไม่ใช่การแสดงออกว่ารู้จักใช้ทุกอย่างบนโต๊ะ

ระหว่างมื้ออาหารในอดีต บทสนทนาก็ไม่ได้มุ่งไปที่การโอ้อวดหรือการพูดคุยเรื่องธุรกิจ แต่เป็นพื้นที่สำหรับครอบครัวและมิตรภาพ เป็นเวลาที่ทุกคนได้พูดคุย แบ่งปันและสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายร่วมกัน แม้กระทั่งเรื่องไวน์ที่มักถูกมองว่าเป็นสิ่งจำเป็น ก็ไม่ใช่สิ่งที่ต้องมีทุกมื้อ หากแต่เสิร์ฟเฉพาะในโอกาสพิเศษ เช่น ดินเนอร์หรืองานเลี้ยงเพื่อเพิ่มความสง่างาม ขณะที่มื้ออาหารตามปกติในชีวิตครอบครัว เครื่องดื่มที่ปรากฏก็อาจเป็นเพียงน้ำเปล่า น้ำชา หรือน้ำผลไม้เท่านั้น

สิ่งที่น่าสนใจกว่านั้นคือ ธรรมเนียมเหล่านี้ไม่ได้หยุดอยู่เพียงบนโต๊ะอาหารของชนชั้นสูง แต่ค่อย ๆ หลอมรวมเข้ากับวิถีชีวิตของคนทั่วไปจนกลายเป็นมาตรฐานสากลที่เราใช้กันในทุกวันนี้ การใช้ช้อนส้อมซึ่งครั้งหนึ่งเป็นสัญลักษณ์ของผู้ดีเก่า กลายเป็นวิธีการรับประทานอาหารตะวันตกที่แพร่หลายไปทั่วโลก การเสิร์ฟอาหารเป็นลำดับคอร์สที่เคยสงวนไว้สำหรับงานเลี้ยงหรู ก็ถูกปรับมาเป็นเมนู Set Lunch หรือดินเนอร์ตามร้านอาหารทั่วไป หรือแม้แต่การแต่งกายสุภาพเมื่อไปดินเนอร์กับครอบครัว เพื่อน หรือแม้กระทั่งลูกค้า ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกคนถือปฏิบัติ

เมื่อมองย้อนกลับไป จะเห็นได้ว่าวัฒนธรรมบนโต๊ะอาหารที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นสิ่งที่ถูกจำกัดไว้เพียงแค่สังคมผู้ดีเก่า แต่ปัจจุบันได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตประจำวันของคนทั่วไปโดยแทบไม่รู้ตัว สิ่งนี้ไม่ใช่กฎเกณฑ์ที่ตายตัวหรือเครื่องหมายแห่งความหรูหรา หากแต่คือแนวทางที่ให้ความสำคัญกับความสุภาพ ความเรียบง่าย และการสร้างบรรยากาศที่ทำให้ทุกคนรอบโต๊ะรู้สึกสบายใจที่สุด และนั่นคือเสน่ห์ที่แท้จริงของวัฒนธรรมที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ก่อนจะหลอมรวมเข้ากับโลกการกินในแบบที่เราสัมผัสได้ทุกวันนี้

TAGS: #OldMoney #Dinner #มารยาทบนโต๊ะอาหาร