เปิดสำรับพิเศษจากวัตถุดิบสุดพรีเมียมประจำฤดูกาล ที่เตรียมเสิร์ฟจากห้องอาหารจรัส หัวหิน ไปพร้อมกับการดื่มด่ำงานศิลป์ที่ถูกถ่ายทอดลงบนจานในทุกเมนู

เป็นที่รู้กันว่า “อาหารประจำฤดูกาล” จะยิ่งเพิ่มอรรถรสในการกินมากยิ่งขึ้น และสำหรับฤดูกาลนี้ ห้องอาหาร “จรัส” ได้เตรียมสำรับสุดพิเศษใน “4-Hands Chef’s Table” ภายใต้คอนเซปต์ The Feast of Art by Jaras Hua Hin ที่นำวัตถุดิบหลักในท้องถิ่นมานำเสนอกว่า 12 เมนู 

ทุกเมนูเต็มไปด้วยเรื่องราวที่ผสมผสานระหว่างศิลปะและรสชาติ ที่ถูกรังสรรค์ด้วยฝีมือของสุดยอดเชฟระดับมิชลิน อย่าง “เชฟชุมพล แจ้งไพร” และผู้ก่อตั้งสถาบันการอาหารไทย ทีซีเอ ร่วมกับ “เชฟอิษฏ์ พันธุ์ธิช จินดาจิธาวัฒน์” เชฟประจำห้องอาหารจรัส หัวหิน และยังได้รับการถ่ายทอดกลิ่นอายของความเป็นท้องถิ่นจากหนึ่งในผู้ก่อตั้งบ้านศิลปิน หัวหิน “ทวี เกษางาม” เพื่อสะท้อนถึงเอกลักษณ์ในท้องถิ่นอย่างแท้จริง 

แต่ละจานจะค่อยๆ ทยอยเสิร์ฟ พร้อมกับเปิดต่อมรับรสด้วยเมนู Amuse Bouche ที่รวมทุกคำไว้ในจานเดียว กับ 4 เมนู 4 สไตล์ เริ่มที่ “ขนมครกคาเวียร์” เป็นการผสมผสานระหว่างขนมครกโบราณ โรยหน้าด้วยคาเวียร์แห่งหัวหิน “ส้มตำมะเขือเทศเหนือ” ที่นำเสนอรสชาติความจัดจ้านแบบล้านนาได้อย่างลงตัว “เปาะเปี๊ยะปูหัวหิน” ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นเครื่องแกงกะหรี่สูตรตำรับ ก่อนจะปิดท้ายคำสุดท้ายด้วย “หอยนางรมทอดกรอบ” ที่เพิ่มเทคนิคแป้งฟูเบา เสิร์ฟบนเปลือกหอยแบบธรรมชาติ 

ต่อด้วยเมนู Appetizers ที่เปิดด้วยหนึ่งในวัตถุดิบเจ้าถิ่น อย่าง “ปลาเก๋าหัวหินกับสับปะรดและหอยเชลล์” ที่สอดแทรกกลิ่นควันจากฟาง และรสเปรี้ยวจากสับปะรด 

“กุ้งแม่น้ำปราณสำราญจรัสรส” เมนูที่ถ่ายทอดสีสันจากธรรมชาติและสมุนไพรไทยลงบนจาน ผสมผสานทั้งรสชาติที่จัดจ้านและหวานในคราวเดียวกัน 

มาที่เมนู Soup ที่เพิ่มเสน่ห์กลิ่นควันถ่าน และกลิ่นจากสมุนไพรไทยเข้าไว้ด้วยกัน อย่าง “แกงเลียงฟักทองเผากับกั้งหัวหิน” ให้ความรู้สึกที่อบอุ่นจากเมนูสุดคลาสสิก

ต่อกันที่เมนูแกงที่เพิ่มระดับความจัดจ้านเพิ่มเข้าไปในรสชาติกับ “แกงขี้เหล็กโบราณกับเนื้อโคขุนย่างดอกเกลือเมืองเพชร” และ “กุ้งลายเสือรมควันเนื้อมะพร้าว ราดซอสฉู่ฉี่สมุนไพร” เป็นการผสมผสานความเป็นภูมิปัญญาในอดีตกับการปรุงรสแบบร่วมสมัย 

“กินคาวต้องกินหวาน”.... เสิร์ฟต่อด้วยเมนูของหวาน “เปียกปูนอ่อนกับขนมโคอบร่ำและเจลลีไวน์แดง” เป็นเมนูที่ดึงความโดดเด่นจากกลิ่นของมะลิ ถั่ว ความหวานจากน้ำตาลปราณบุรี และไวน์แดงจากเขาใหญ่ เป็นความร่วมสมัยที่เข้ากันอย่างลงตัว 

ปิดท้ายด้วยเมนู Petit Four ที่เสิร์ฟขนมขึ้นชื่อในท้องถิ่น 4 คำ บนจานเดียว ทั้ง “ขนมตาลสดเมืองเพชร, โกโก้ชุมพรเค็มทะเลสมุทรสงคราม, ถั่วตัดเม็ดมะม่วงคาราเมล และ มาการองไข่เค็มออร์แกนิก” ที่รวมเอาความเป็นท้องถิ่น และความพรีเมียมสไตล์ฝรั่งเศสมาไว้ในคำสุดท้ายของ 4-Hands Chef’s Table ในครั้งนี้ 
 
สำรับสุดพิเศษจากห้องอาหารจรัส หัวหิน ในครั้งนี้ ไม่ได้เสิร์ฟแค่เมนูที่ชูโรงวัตถุดิบจากท้องถิ่นเพียงเท่านั้น แต่ทุกจานที่เสิร์ฟยังเต็มไปด้วยงานศิลปะที่ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านการจัดจาน และรสชาติที่ถูกออกแบบมาอย่างลงตัว พร้อมเสิร์ฟให้ทุกจานแล้ว ณ ห้องอาหารจรัส ที่ตั้งอยู่ภายในโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2568