พระสิริกิติ์แห่งสยาม ราชินีผู้ปรากฏบนปกนิตยสารระดับโลกในยุค The Golden Age

พระสิริกิติ์แห่งสยาม ราชินีผู้ปรากฏบนปกนิตยสารระดับโลกในยุค The Golden Age
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ราชินีแห่งยุค The Golden Age ผู้ทรงสะกดสายตาโลกด้วยพระสิริโฉม พระปรีชาด้านศิลปะ และรสนิยมอันวิจิตร จนปรากฏบนปกนิตยสารระดับโลกอย่าง TIME, VOGUE และ LIFE

ในช่วงทศวรรษ 1950s ถึง 1960s โลกกำลังโอบรับยุคใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ยุคที่ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจและกระแสศิลปะสมัยใหม่เบ่งบาน

มหานครอย่างปารีส ลอนดอน และนิวยอร์ก กลายเป็นศูนย์กลางของแฟชั่น ความหรูหรา และวัฒนธรรมภาพยนตร์จากฮอลลีวูด หญิงสาวทั่วโลกเริ่มค้นหานิยามใหม่ของความงามและความเป็นผู้หญิง ผ่านบุคคลอย่าง Audrey Hepburn, Grace Kelly, และ Jacqueline Kennedy และในห้วงเวลานั้นเองสยามได้ปรากฏ “สมเด็จพระราชินี” ผู้สะกดทุกสายตาแห่งโลกตะวันตก นั่นก็คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปยังต่างประเทศเคียงคู่กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดลุยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยพระสิริโฉมอันสง่างาม พระปรีชาด้านศิลปะ และรสนิยมอันวิจิตร จนได้รับการขนานนามว่าทรงเป็นพระราชินีผู้ทำให้โลกทั้งใบหันกลับมามองสยาม ด้วยความชื่นชม และยกย่องให้เป็นสัญลักษณ์แห่งความงามและวัฒนธรรมจากตะวันออก พระองค์คือหญิงไทยเพียงหนึ่งเดียวในเวลานั้น ที่ได้รับการยกย่องจากสื่อตะวันตกว่าเป็น “The Most Beautiful Queen in the World.” แต่ความงดงามของพระองค์ไม่หยุดอยู่แค่รูปลักษณ์ หากยังสะท้อนพระปรีชาด้านศิลปะ วัฒนธรรม และรสนิยมที่ลึกซึ้ง ทรงเป็นมากกว่าราชินีแห่งประเทศไทย แต่คือ Soft Power ของชาติไทย ที่เผยให้โลกเห็น “ภาพลักษณ์ใหม่ของหญิงไทยที่สง่างาม อ่อนโยน และมั่นใจในคุณค่าของตนเอง การที่พระองค์ได้รับการยกย่องจากนานาชาตินั่นเอง จึงทำให้ช่วงเวลานั้นพระฉายาลักษณ์ของพระองค์จึงได้ปรากฏอยู่บนนิตยสารระดับโลกหลากหลายฉบับ โดยทาง Account Pinterest ชื่อ Stack Magazine ได้เผยแพร่ไว้ เช่น 

TIME Magazine (27 พฤษภาคม 1966)
พระองค์พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ได้รับเชิญขึ้นปก TIME Magazine ภายใต้คำโปรย “King Bhumibol and Queen Sirikit — Strength of a Kingdom.” ภาพนั้นไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ของราชวงศ์ไทย แต่คือการยอมรับจากนานาชาติถึงพระราชกรณียกิจของราชินีผู้ทรงเป็นศูนย์รวมใจของประชาชน

VOGUE (August 1960 / July 1962)
ภาพถ่ายโดยช่างภาพแฟชั่นระดับตำนาน Henry Clarke และ Horst P. Horst ถ่ายทอดพระสิริกิติ์ในมุมของ modern royal woman ผู้เปี่ยมศิลปะการแต่งกาย ผสมผสาน “ชุดไทย” กับ haute couture ได้อย่างสง่างาม ในยุคนั้น “Sirikit of Siam” คือชื่อที่วงการแฟชั่นโลกเอ่ยถึงเคียงข้าง Grace Kelly และ Jackie Kennedy

LIFE Magazine (1960)
เมื่อครั้งเสด็จเยือนสหรัฐอเมริกา LIFE Magazine ได้บันทึกภาพพระองค์ในชุดไทยพระราชทาน พร้อมตีพิมพ์เรื่องราว “The Royal Couple from the Land of Smiles.” ภาพเหล่านี้ทำให้ประชาคมโลกได้รู้จักประเทศไทย ผ่านรอยยิ้มอันอ่อนโยนและพระอิริยาบถที่เปี่ยมเมตตา

BUNTE & Neue Post (Germany, 1967–1980)
นิตยสารยุโรปเหล่านี้พร้อมใจยกย่องพระองค์ว่าเป็น “The Most Beautiful Queen in the World.” ฉลองพระองค์ผ้าไหมไทยที่พระองค์ทรงสวมกลายเป็นสัญลักษณ์ของรสนิยม ศิลปะ และความสง่างามแบบเอเชีย

IDUN Magazine (Sweden, 1960s)
ในระหว่างเสด็จเยือนยุโรป นิตยสาร IDUN ของสวีเดนได้ตีพิมพ์ภาพพระองค์ในแง่ชีวิตส่วนพระองค์ พร้อมคำบรรยายว่า “A Queen with the Heart of an Artist” ราชินีผู้มีหัวใจของศิลปิน

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง  มิได้ทรงเป็นเพียง “ราชินีผู้ครองความงาม” หากแต่ทรงใช้ศิลปะ แฟชั่น และวัฒนธรรม เป็นภาษาสื่อสาร เชื่อมประเทศไทยเข้ากับนานาประเทศ พระองค์ทรงเป็นผู้นำในการฟื้นฟูและส่งเสริม “ผ้าไหมไทย” ให้กลายเป็นมรดกที่คนทั่วโลกรู้จัก และยังทรงสร้างแรงบันดาลใจให้หญิงไทยรุ่นหลัง เชื่อมั่นในคุณค่าของความเป็นตัวเอง

พระองค์จึงมิได้เพียงเปลี่ยนภาพลักษณ์ของหญิงไทย แต่ทรงสร้างยุคแห่งความงดงาม ความมั่นใจ และศักดิ์ศรีของผู้หญิงไทยบนเวทีโลก

TAGS: #สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์พระบรมราชชนนีพันปีหลวง #สมเด็จพระราชินีสิริกิติ์ #พระพันปีหลวง #สวรรคต #พระราชินีแห่งสยาม