“กาแฟดำ” ที่มีรสชาติขมปี๋ บางคนก็คลั่งไคล้ บางคนก็หันหน้าหนี แต่รู้หรือไม่ ในอดีตกาแฟดำเคยถูกนิยมใช้เป็นยาบรรเทาอาการโรคต่างๆ มาตั้งแต่ยุคอดีต ก่อนจะกลายเป็นเหมือนวัฒนธรรมการดื่มในยุคนี้
Black Coffee เป็นอีกชื่อของ “กาแฟดำ” ที่ฟังดูพรีเมียมขึ้นมาหน่อย หนึ่งในเมนูกาแฟที่กรรมวิธีแสนง่าย โดยไม่ต้องเติมแต่งกลิ่นหรือส่วนผสมใดๆ ลงไป ไม่ว่าจะเป็น น้ำตาล นม หรือครีมเทียม ทำให้รสชาติที่ได้จึงไม่ได้ถูกปากทุกคนได้ลิ้มลอง แต่จะเป็นที่ชื่นชอบอย่างมากสำหรับผู้ที่ชอบดื่มกาแฟแบบเข้มข้น
แม้ผู้ที่เป็น Black Coffee Lover จะทราบดีอยู่แล้วว่า กาแฟดำมีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งการกระตุ้นระบบประสาท สำหรับใครที่อยากตื่นตัวและมีสมาธิดี หรือใครที่อยากจะลดน้ำหนัก หลายคนก็เลือกที่จะดื่มกาแฟดำ ซึ่งส่วนใหญ่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ หรือแม้แต่เป็นเมล็ดพันธ์ุที่สามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้ ทั้งโรคหัวใจ และช่วยขยายหลอดเลือดให้มีระบบไหลเวียนที่ดีขึ้นได้
หรือแม้แต่โรคซึมเศร้าเอง ก็มีงานวิจัยที่พบว่า “คาเฟอีน” ที่อยู่ในกาแฟ สามารถลดความเสี่ยงให้เกิดโรคนี้ได้เช่นกัน
แม้กาแฟดำจะเป็นที่นิยมดื่มกันอย่างแพร่หลายในช่วงหลังๆ ที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น แต่จริงๆ แล้ว ชื่อเสียงในด้านสรรพคุณของกาแฟดำ ได้ล่องลอยผ่านกาลเวลามาตั้งแต่ยุคอดีต ไล่เรียงตั้งแต่ ปี 1000 กาแฟสุกที่ผสมเข้ากับไขมันสัตว์ ถูกใช้เพื่อสร้างพลังงานให้กับร่างกายของชาวเผ่ากัลลาแห่งเอธิโอเปีย
ปี 1100 พ่อค้าชาวอาหรับ พบว่า การต้มกาแฟดื่มกับน้ำ กลายเป็นยาบุงร่างกาย และกระตุ้นความตื่นตัวและสมาธิได้ดี
ปี 1025 แพทย์โบราณ “อวิเซนนา” ได้ระบุไว้ใน “Canon of Medicine” เป็นหนังสือเล่มแรกที่ยอมรับว่า กาแฟเป็นยารักษาโรคที่มีศักยภาพ
ยังมีหลักฐานที่ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุไปในทางเดียวกันว่า กาแฟมีสรรพคุณในการรักษาโรค อย่าง หนังสือ Rauwolf's Travels โดย Leonhard Rauwolf นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน ที่ตีพิมพ์ในปี 1582 ว่า เขาได้ประทับใจกับเครื่องดื่มของชาวพื้นเมืองในซีเรีย เป็นเครื่องดื่มสีดำ และช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับกระเพาะอาหารได้
หนังสือ De Plantis Aegypti โดย Prospero Alpini ศาสตราจารย์ด้านพฤกษศาสตร์ชาวอิตาลี ที่ถูกตีพิมพ์ในปี 1592 มีการกล่าวถึง สรรพคุณทางเภสัชวิทยาของกาแฟต่อสุขภาพไว้มากมาย หรือ หนังสือของ Nicolas de Blegny แพทย์และเภสัชกรในสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 แห่งฝรั่งเศส ที่ตีพิมพ์ไว้ในปี 1687 ได้อธิบายกี่ยวกับวิธีการใช้กาแฟอย่างถูกวิธีเพื่อรักษาโรค
แต่ถึงจะมีประโยชน์มากแค่ไหน หากดื่มมากไป ก็ส่งผลเสียต่อร่างกายได้เช่นกัน ดังนั้นหากใครที่อยากจะเริ่มซึมซับกับกาแฟดำควรศึกษาเรื่องปริมาณการบริโภคที่เหมาะสม รวมถึงสังเกตการตอบสนองของร่างกายตัวเองอยู่เสมอ เพื่อให้ได้ประโยชน์จากกาแฟในแบบที่ปลอดภัยและยั่งยืน
พูดได้เต็มปากว่า กาแฟดำอาจไม่ใช่เครื่องดื่มที่ถูกใจทุกคนในคำแรกที่ได้ลิ้มลอง แต่กลับซ่อนพลังของการบำรุงร่างกาย และประวัติศาสตร์ทางการแพทย์เอาไว้มากมาย จนกลายเป็นวัฒนธรรมการดื่มของคนในยุคนี้
SOURCE :
https://nutrition2.anamai.moph.go.th/th/rrhlnews/209471
https://trungnguyenlegend.com/the-role-of-coffee-in-ancient-to-modern-medicine/?lang=en&utm_source=chatgpt.com