'Man Mums' ธุรกิจใหม่ในจีน เมื่อความรักมันแพงไป จ่ายค่ากอดคลายเหงาง่ายกว่า

'Man Mums' ธุรกิจใหม่ในจีน เมื่อความรักมันแพงไป จ่ายค่ากอดคลายเหงาง่ายกว่า

ในยุคที่ความเหงาไม่ได้แค่ซ่อนอยู่ในห้องเงียบๆ แต่กลายเป็นปัญหาระดับใหญ่ระดับชาติไปแล้วสำหรับในประเทศจีน ที่ตอนนี้ผู้คนกำลังตกอยู่ในภาวะเครียด และมีหนุ่มสาวจำนวนไม่น้อยเลยที่กำลังเลือกวิธีคลายเหงาด้วยบริการที่เรียกว่า "Man Mums" หรือผู้ชายที่ให้บริการกอดเชิงปลอบโยน โดยมีราคาประมาณ 20-50 หยวน หรือราว 100-250 บาท ต่อการกอด 5 นาที


"Man Mums" ไม่ใช่บริการเชิงชู้สาว แต่คือการกอดอย่างมีขอบเขตเพื่อให้ความอบอุ่นใจ ปลอดภัย แต่ไม่มีเงื่อนไขผูกพัน ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นวัยทำงานหรือวัยเรียนที่รู้สึกโดดเดี่ยว ต้องการสัมผัสที่ปลอบโยน โดยสามารถนัดพบในพื้นที่สาธารณะ เช่น สวนสาธารณะ หรือร้านกาแฟ การบริการจะถูกจัดให้มีกติกาและข้อตกลงชัดเจน โดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว


ทั้งนี้จากข้อมูลจากงานวิจัยหลายแห่งสนับสนุนว่า ความเหงาและความเครียดในกลุ่มเยาวชนจีนกำลังเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่ากังวล

 

  • งานวิจัยจากวารสาร Globalization and Health พบว่าช่วงโควิด-19 มีความรู้สึกโดดเดี่ยวแพร่กระจายอย่างชัดเจนในจีน โดยสัมพันธ์กับความต้องการเข้าถึงบริการด้านสุขภาพจิต
  • รายงาน Mental Health of Chinese Students ระบุว่าเยาวชนจีนต้องเผชิญแรงกดดันจากระบบการศึกษา ส่งผลให้ภาวะซึมเศร้าและความเครียดเพิ่มสูงขึ้น
  • มากกว่า 10% ของวัยรุ่นจีนประสบภาวะซึมเศร้า โดย 33% ของกรณีการฆ่าตัวตายเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในครอบครัว และ 22% มาจากแรงกดดันด้านการเรียน
  • การวิจัยจาก Cambridge–Fudan ชี้ว่าความเหงามีผลต่อสุขภาพกาย เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด
  • อัตราว่างงานในกลุ่มวัย 16–24 ปี เคยสูงกว่า 20% ซึ่งสร้างความรู้สึกไร้ทิศทางในหมู่คนรุ่นใหม่

แม้จะมีคำถามว่าทำไมถึงเลือกกอดจากคนแปลกหน้ามากกว่าจะมีความสัมพันธ์ระยะยาว คำตอบกลับซับซ้อนและเกี่ยวพันกับหลายปัจจัย ทั้งในเรื่องของสภาพเศรษฐกิจ สภาพแวดล้อมที่มีความกดดัน รวมถึงคนรุ่นใหม่ยุคนี้ชอบที่จะมีอิสระมากกว่าการมีครอบครัว ซึ่งมีสถิติออกมาดังนี้

 

  • คนรุ่นใหม่จีนจำนวนมากเลือกโสดโดยสมัครใจ มากกว่า 50% ของกลุ่มอายุ 25–29 ยังไม่แต่งงาน และ 42% ของ Gen Z ระบุว่า "เลือกโสด" ด้วยเหตุผลส่วนตัวและความต้องการอิสระ
  • แรงกดดันจากการศึกษาที่เข้มข้นและการทำงานหนักในระบบ "996" (ทำงาน 9 โมงเช้าถึง 3 ทุ่ม 6 วันต่อสัปดาห์) ทำให้คนจำนวนมากไม่มีเวลาและพลังสำหรับการมีแฟน
  • ปัจจัยทางเศรษฐกิจ เช่น ราคาบ้านสูง ค่าเลี้ยงดูบุตร และหน้าที่ดูแลพ่อแม่ ทำให้การสร้างครอบครัวเป็นภาระมากกว่าความสุข
  • แนวคิด "Tang ping" หรือการ "นอนราบ" เป็นค่านิยมที่เติบโตขึ้นในคนรุ่นใหม่จีน ที่เลือกปฏิเสธการแข่งขันทางสังคมและใช้ชีวิตเรียบง่าย
  • บางคนมองว่าการมีแฟนหรือแต่งงานคือการลงทุนทางใจที่เสี่ยงและเหนื่อย เมื่อเทียบกับการได้รับความอบอุ่นจากบริการกอดที่ไม่มีภาระผูกพัน

Man Mums จึงไม่ใช่ธุรกิจแปลกใหม่ แต่เป็นการตอบสนองต่อภาวะทางอารมณ์ของสังคมยุคใหม่อย่างตรงไปตรงมาและกลายเป็นทางเลือกที่ช่วยให้คนรุ่นใหม่รู้สึกว่าคนเราไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งคนเดียวเสมอไป ภายใต้ขอบเขตที่ชัดเจนและปลอดภัย


แม้จะมีข้อถกเถียงในเรื่องศีลธรรมและความเสี่ยงหากไม่มีการควบคุมอย่างเข้มงวด แต่ในอีกแง่มุมหนึ่ง บริการเช่นนี้สะท้อนสังคมที่โหยหาความเข้าใจ และกำลังมองหาวิธีใหม่ๆ ในการเยียวยาจิตใจ เพราะบางครั้ง "แค่กอด" ก็อาจเป็นสิ่งที่คนคนหนึ่งต้องการมากที่สุดในวันที่เปราะบางที่สุดเท่านั้นเอง