อนาคตการรักษากระดูกและประสาท S Spine & Joint Hospital และ S Nerve Hospital

อนาคตการรักษากระดูกและประสาท S Spine & Joint Hospital และ S Nerve Hospital
โรงพยาบาลเอส สไปน์ ก้าวสู่ปีที่ 9 เดินหน้าสู่การเป็นศูนย์กลางการรักษาโรคกระดูกสันหลังและข้อระดับเอเชีย พร้อมเปิดตัวโรงพยาบาลใหม่และปรับภาพลักษณ์โรงพยาบาลเดิม

ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุตั้งแต่ปี 2548 โดยในขณะนั้นมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไปประมาณ 6.3 ล้านคน หรือคิดเป็น 10% ของประชากรทั้งหมด ปัจจุบัน จำนวนผู้สูงอายุเพิ่มขึ้นเป็น 14 ล้านคน คิดเป็น 20% ของประชากรทั้งหมด คาดว่าในปี 2565 ประเทศไทยจะก้าวเข้าสู่สังคมสูงอายุอย่างสมบูรณ์ (Aged Society) โดยมีสัดส่วนประชากรสูงอายุถึง 14% และในอีก 9 ปีข้างหน้า จะกลายเป็นสังคมสูงอายุระดับสุดยอด (Hyper-Aged Society) โดยมีสัดส่วนประชากรสูงอายุถึง 20%

การเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทยส่งผลให้โรคเกี่ยวกับกระดูกและข้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากข้อมูลในปี 2564 พบว่ามีผู้ป่วยโรคกระดูกและข้อในประเทศไทยมากกว่า 6 ล้านคน โดยข้อที่เสื่อมมากที่สุดคือข้อเข่า การเพิ่มขึ้นของประชากรผู้สูงอายุทำให้ความต้องการบริการทางการแพทย์และการดูแลสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคกระดูกและข้อเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณสุขและเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้น การเตรียมความพร้อมในการดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุและการส่งเสริมการป้องกันโรคกระดูกและข้อจึงเป็นสิ่งสำคัญ

โรงพยาบาลเอส สไปน์ ศูนย์กลางการรักษากระดูกสันหลังและข้อแห่งแรกของไทย ก่อตั้งขึ้นในปี 2018 โดย นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล ด้วยวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นแนวโน้มของสังคมผู้สูงอายุและผลกระทบต่อโรคกระดูกสันหลังและข้อ ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โรงพยาบาลมีอัตราการเติบโตของผู้ป่วยเพิ่มขึ้น 3 เท่า โดยปัจจุบันพบว่า โรคกระดูกสันหลังส่วนคอมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น จากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น โรงพยาบาลเอส สไปน์เตรียมขยายบริการด้านกระดูกและข้อ พร้อมนำเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยเข้ามาเสริมศักยภาพการรักษา และยกระดับมาตรฐานสู่การเป็น Medical Hub ของไทย

เปิดตัวโรงพยาบาลใหม่ “S Spine & Joint Hospital” ใน ไตรมาส 3 ปี 2025 โรงพยาบาลเอส สไปน์ เตรียมเปิดโรงพยาบาลใหม่ภายใต้ชื่อ “โรงพยาบาลเอส โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังและข้อ” (S Spine & Joint Hospital) ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยได้มากขึ้น 4 เท่า และนำเสนอเทคโนโลยีการรักษาที่ครบวงจร

จุดเด่นของ S Spine & Joint Hospital

การผ่าตัดส่องกล้อง Endoscope ครบวงจร โรงพยาบาลเอส ให้บริการผ่าตัดส่องกล้อง Endoscopic Spine Surgery แบบครบวงจร ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและช่วยให้การรักษาโรคกระดูกสันหลังมีประสิทธิภาพมากขึ้น การผ่าตัดแบบนี้ช่วยลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อโดยรอบ ลดอาการปวดหลังผ่าตัด และทำให้ฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิดแบบดั้งเดิม ผู้ป่วยสามารถกลับบ้านได้ภายใน 1 วันและสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้เร็วขึ้น

Minimally Invasive Surgery (MIS) – ผ่าตัดแผลเล็ก ลดภาวะแทรกซ้อน การผ่าตัดแบบ Minimally Invasive Surgery (MIS) เป็นเทคนิคที่ลดขนาดของแผลผ่าตัดให้เล็กลง ช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็ว ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อน และลดโอกาสเกิดพังผืดหลังการผ่าตัด ซึ่งเหมาะสำหรับการรักษา เช่น การเปลี่ยนข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถกลับมาเคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น

เครื่อง MRI แบบยืน (Standing MRI) – วินิจฉัยโรคได้อย่างแม่นยำและครอบคลุมมากขึ้น โรงพยาบาลเอส นำเข้าเครื่อง MRI แบบยืน (Standing MRI) เครื่องแรกของประเทศไทย ซึ่งช่วยให้แพทย์สามารถตรวจวินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้นกว่าการตรวจ MRI แบบเดิม เนื่องจากสามารถประเมินการทำงานของกระดูกสันหลังในท่าทางที่ใกล้เคียงกับการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นท่ายืน นั่ง หรือก้มเงย ทำให้สามารถตรวจพบปัญหาเกี่ยวกับหมอนรองกระดูกสันหลังที่อาจไม่แสดงอาการในขณะนอนตรวจแบบเดิม

ศูนย์กายภาพบำบัดครบวงจร โรงพยาบาลเอส มีศูนย์กายภาพบำบัดที่ทันสมัย รองรับการฟื้นฟูผู้ป่วยหลังการผ่าตัดกระดูกสันหลังและข้อ รวมถึงผู้ที่มีอาการปวดจากโรคกล้ามเนื้อและกระดูก โดยมีบริการที่ครอบคลุม เช่น การฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายหลังผ่าตัด กายภาพบำบัด โดยใช้เทคนิค Shockwave Therapy, Hydrotherapy และ High-intensity Laser Therapy การฝึกเดินด้วยระบบหุ่นยนต์ (Robotic Gait Training) สำหรับผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการเดิน

ศูนย์อุปกรณ์และสินค้าเพื่อสุขภาพ เพื่อช่วยให้ผู้ป่วยสามารถดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงพยาบาลเอส ได้จัดตั้งศูนย์อุปกรณ์และสินค้าเพื่อสุขภาพ ที่รวบรวมอุปกรณ์ทางการแพทย์คุณภาพสูง เช่น อุปกรณ์พยุงหลัง ข้อเข่า ข้อสะโพก หมอนและที่นอนเพื่อสุขภาพที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงกดทับ ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับกระดูกและข้อที่ผ่านการรับรองทางการแพทย์

ทำเลที่เดินทางสะดวก โรงพยาบาลเอส ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย ใกล้ทางลงทางด่วนลาดพร้าว พร้อมที่จอดรถรองรับกว่า 500 คัน และใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง สถานีลาดพร้าว 71

S Nerve Hospital โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านระบบประสาทและรักษาความพิการ โรงพยาบาลเอส สไปน์ (สาขาเดิม) จะเปลี่ยนชื่อเป็น “โรงพยาบาล เอส โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านระบบประสาทและรักษาความพิการ” (S Nerve Hospital) ซึ่งจะมุ่งเน้นการดูแลโรคทาง ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ที่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิต จุดเด่นของ S Nerve Hospital จะเป็นศูนย์เฉพาะทางด้านระบบประสาทและสมอง ผ่าตัดรักษาความพิการระดับสูง มีเพียงไม่กี่แห่งในโลกที่ทำได้ มีกายภาพบำบัดขั้นสูง ที่ช่วยฟื้นฟูสมรรถภาพสำหรับผู้ป่วยระบบประสาทและสมอง

ก้าวสู่ Group of Specialty Hospital เพื่อการรักษาระดับสากล

โรงพยาบาล เอส (S Spine & Joint Hospital และ S Nerve Hospital) มุ่งสู่การเป็น กลุ่มโรงพยาบาลเฉพาะทาง (Group of Specialty Hospital) พร้อมพัฒนาศูนย์เฉพาะทางใหม่ๆ เพื่อคืนคุณภาพชีวิตให้ผู้ป่วยด้วยแนวคิด “Bring Back Quality Time” คืนเวลาแห่งความสุขให้มากขึ้น เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่การรักษา แต่ต้องการให้ผู้ป่วยกลับไปใช้ชีวิตได้เต็มที่ ยกระดับมาตรฐานสู่ระดับสากล ISO 9001 และ AACI

นอกจากนี้ ยังมี S Academy ศูนย์วิชาการเฉพาะทาง เพื่อพัฒนาองค์ความรู้ด้านระบบประสาท กระดูกสันหลัง และข้อ นายแพทย์ดิตถพงษ์ บุญอำพล กล่าวปิดท้ายว่า "เราไม่ต้องการเป็นเพียงแค่โรงพยาบาล แต่ต้องการเป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยให้คนไทยดูแลสุขภาพของตนเองได้อย่างถูกต้อง ไม่ต้องมารักษากับผมก็ได้ แต่ขอให้ได้นำความรู้จากเว็บไซต์ของเราไปใช้ เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพของตัวเอง"

โรงพยาบาลเอส พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการรักษาโรคกระดูกสันหลัง ข้อ และระบบประสาทในเอเชียเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลที่ดีที่สุด และสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มคุณค่า โรงพยาบาลเอส สไปน์ โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านกระดูกสันหลังปรึกษา โทร 02 034 0808

TAGS: #เอสสไปน์ #กระดูกสันหลัง