การรักษาเบาหวานหายได้ ไม่ต้องรับยาไปตลอดชีวิต ปรับวิถีการทานอาหาร ไลฟ์สไตล์ เพื่อให้ลดยา หรือ หยุดยาได้ยาวๆ ในอนาคต
เนื่องในวันที่ 14 พฤศจิกายนของทุกปี ถือเป็นวันเบาหวานโลก ปี 2566 ไทยมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 3 แสนคน ขณะที่มีผู้ป่วยสะสม 3.3 ล้านคน มากกว่าจากปี 2564 มากถึง 1.5 แสนคน หลายคนยังคงเข้าใจว่าการรักษาโรคเบาหวานต้องใช้ยาเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการรักษาเบาหวานที่สามารถทำให้ผู้ป่วยหยุด หรือลดการใช้ยาได้ในเวลา 6-12 เดือน
นพ. เอกพล พิศาล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลบ้านตาขุน จังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เดิมภาพของการรักษาความดัน เบาหวานคือ 3 เดือนเจาะเลือด 1 ครั้ง รับยากลับไปกิน หรือ 2 เดือนเจาะเลือด นี้คือโมเดลการรักษาเมื่อ 30 ปีที่แล้ว และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงคือการนำเทคโนโลยีเข้ามา เพื่อเข้าไปดูคนไข้ว่าแท้จริงแล้วเขาเป็นแบบไหน
ทางโรงพยาบาลเริ่มการรักษาโดยเริ่้มเมื่อคนไข้รับเครื่องเจาะเลือด คนไข้สามารถนำข้อมูลที่ได้ส่งกลับมายังโรงพยาบาล 3 แบบด้วยกันคือ 1. แบบอนาล็อก คือเขียนจดบันทึกลงในสมุดที่โรงพยาบาลจัดเตรียมให้ 2. ติดตั้งแอปพลิเคชั่น mySugar เพื่อบันทึกข้อมูลแบบอัตโนมัติ และ 3. คนไข้สามารถนำเครื่องเจาะเลือดมาที่โรงพยาบาลตามวันนัด ทางโรงพยาบาลจะดาวน์โหลดข้อมูลเอง
เมื่อได้ข้อมูลแล้วทางคุณหมอจะมีแผนการรักษาที่ได้ออกแบบมา นั่นคือ อันดับแรกจะต้องอ่านข้อมูลเพื่อที่จะออกแบบการกินยาของคนไข้ ในตัวอย่างที่นพ. เอกพลเปิด ที่เห็นได้ชัดๆ คือ ค่าน้ำตาลที่ได้จากการเจาะเลือดในตอนเช้า 136 ตกเย็น 162 แสดงว่าช่วงเย็นสูงกว่าเช้า เราจะมีการเสนอการแก้ปัญหาน้ำตาลช่วงเย็นที่สูงกว่าเช้าโดยให้ตัวเลือกคือ
1. กินข้าวเสร็จเดินเพิ่ม
2. ลดข้าวเช้าลง
3. ลดข้าวกลางวันอีก
4. เพิ่มยาตอนเช้า
นพ. เอกพลกล่าวว่า "เมื่อวิเคราะห์ผลที่ได้แล้ว จะมีตัวเลือกให้ แต่การตัดสินใจขึ้นอยู่กับคนไข้ ให้เขาได้เลือกเอง หรือเรียกว่า personalized healthcare ยกตัวอย่าง ชาวสุราษฎร์ธานีที่เป็นชาวสวนยางจะทานข้าว 2 มื้อต่อวัน แต่หากหมอสั่งให้กินยาสามมื้อ แสดงว่าคนไข้ต้องเพิ่มข้าวจากเดิมแค่สองมื้อกลายเป็นสามมื้อ เพราะฉะนั้นวิธีการนี้ไม่ใช่ personalized หมอต้องออกแบบการรักษาให้เข้ากับการใช้ชีวิตของคนไข้ ดังนั้นบนฉลากยาจะเขียนเป็นหลังอาหารมื้อที่ 1,2 แทนการเขียนเช้า เที่ยง เย็น
"ความรู้ที่ล้าสมัยอย่างการต้องรับประทานอาหาร สามมื้อ เป็นความรู้ล้าหลังที่ไม่สามารถรักษาคนไข้ได้ เราต้องดูข้อมูลก่อน กลับมาที่ตัวอย่างเมื่อคนไข้เลือกวิธีรักษาแล้วว่าจะใช้วิธีใด เมื่อดูกราฟอีกครั้งจะเห็นว่าช่วงวันจันทร์ค่าน้ำตาลจะสูงมาก แต่วันอังคารกลับต่ำสุด เกิดจากอะไร และเมื่อเทียบกับการที่หมอสั่งจ่ายยาที่เหมือนกันทุกวัน ดังนั้นจะต้องถามกิจวัตรของคนไข้ว่าวันจันทร์ทำอะไร อังคารทำอะไร" นพ. เอกพลกล่าวต่อ
นพ. เอกพลกล่าวสรุปว่า "อย่างคนไข้รายนี้ วันจันทร์คือวันหยุดของเขา ดังนั้นอาจจะมีมื้อพิเศษที่ทำให้ระดับน้ำตาลสูงกว่าวันอื่นในสัปดาห์ หมอจะมีตัวเลือกให้ จะปรับยา หรือลองปรับพฤติกรรม วันจันทร์อาจจะต้องกินยาเพิ่ม เมื่อเราเห็นไลฟ์สไตล์ของคนไข้เราจะรักษาแต่ละคนต่างกัน ไม่ใช่ออกแบบเหมือนเสื้อฟรีไซส์ "
ดังนั้นเป้าหมายของเราคือ “ไม่ได้ให้คนไข้กินยาตลอดชีวิต แต่จะออกแบบแผนการรักษาที่เหมาะสมในแต่ละคน เพื่อให้คนไข้หาย และสามารถหยุด หรือลดยาได้”
สำหรับวันอังคารที่น้ำตาลลดลง คนไข้บอกว่าเกิดจากไปวิ่ง หมอจะต่อรองว่าหากคนไข้สามารถทำแบบนี้ได้ทุกวัน หมอจะลดยาให้ได้ตอนนี้เลย ซึ่งหากเราไม่รับรู้ข้อมูลเหล่านี้ ให้คนไข้กินยาเท่าเดิมทุกวันอาจจะเกิดอันตรายได้ อาจเป็นลมเข้าห้องฉุกเฉินแทน ดังนั้นข้อมูลเหล่านี้สามารถทำให้เรารับรู้ข้อมูลวิกฤตได้
ยกเว้นเบาหวานชนิดที่ 1 ที่ไม่สามารถหยุดได้ แต่เบาหวานชนิดที่ 2 คือต้องค่อยๆ ให้ตับอ่อนฟื้นสภาพ ดังนั้นการลดพุงลดโรคจึงสำคัญเราต้องเชื่อมั่นว่ามนุษย์เรียนรู้ได้ ต้องให้เขาค่อยๆ ทำความเข้าใจ ปรับพฤติกรรมการกินการขยับตัวเพราะกว่าจะเป็นก็ใช้เวลาสิบปี ถึงจะรู้ว่าเป็นเบาหวาน ดังนั้นการจะทำให้ตับอ่อนกลับมาได้ ก็ต้องใช้เวลาเช่นกัน เบาหวานจึงเป็นโรคของยุคสมัยใหม่
หากมองดูคนที่อายุถึงร้อยปี ในช่วงชีวิตเขาไม่รู้จักการวิ่งมาราธอน หรือปั่นจักรยาน เขาใช้ชีวิตปกติขยับตัวทำงาน กินข้าวซ้อมมือ ผักปลูกเอง สัดส่วนการรับประทานอาหารที่ดีที่สุดคือ 2:1:1 หากทานได้อย่างนี้สามมื้อต่อวัน เป็นเวลา 1 สัปดาห์ น้ำหนักจะลดไป สามกิโลกรัม สัดส่วน 2:1:1 คือ ผัก 2 ส่วน โปรตีน 1 ส่วน ข้าวกล้อง 1 ส่วน เมื่อพลังงานติดลบ เบาหวานจะลง พุงจะลด หากได้ข้าวกล้องน้ำตาลต่ำยิ่งดี
@thebetter.th เคล็ดลับไกลโรค หายจากเบาหวาน พุงยุบในเวลาแค่เพียง 1 สัปดาห์แบบไม่ต้องออกกำลังกาย จากนพ.เอกพล พิศาล ผอ.โรงพยาบาลบ้านตาขุน ที่ได้สร้างคลินิก Smart NCD รักษาผู้ป่วยเบาหวานให้หยุดยาได้กว่า 300 รายภายใน 3 ปีที่ผ่านมา #thebetter #thebetterhealth #NCD #loseweigth ♬ All the Fun We Had Together - Official Sound Studio
สำหรับคนที่ใช้วิธีการออกกำลังกายเพื่อทดแทนมื้อที่เรากินเละเทะ หรือกินเฮลตี้เพื่อชดเชย คุณหมอกล่าวว่า “การกินมีพาวเวอร์ มากกว่า การขยับตัว” คุณไม่ต้องทำอะไรอย่างที่ผมบอก แต่ก็ต้องไม่กินชาเย็นน้ำหวานอื่นๆ น้ำหนักลดแน่นอน หากไม่มีเวลาก็ให้ใช้พวกอาหารผงฉีกซองผสมน้ำ ก็สามารถทดแทนกันได้