SKIN เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง ที่ราคา 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 158.33% ปักธง! รายได้สิ้นปี 68 โต 10%

SKIN เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง ที่ราคา 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 158.33% ปักธง! รายได้สิ้นปี 68 โต 10%
SKIN เข้าเทรดตลาด mai วันแรกด้วยราคาเหนือจองที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 158.33% จากราคา IPO ที่ 1.20 บาท ปักธง! รายได้ปี 68 เติบโต 10% พร้อมตั้งเป้าผลงานโต 2 เท่า ภายใน 3 ปี!!

บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จํากัด (มหาชน) หรือ SKIN ผู้พัฒนาและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านความงามแบรนด์ไทยที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่ เข้าเทรดตลาด mai วันแรกด้วยราคาเหนือจองที่ 3.10 บาท เพิ่มขึ้น 1.90 บาท หรือ 158.33% จากราคา IPO ที่ 1.20 บาท 

นายชาญวิทย์ เขียวนาวาวงศ์ษา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จํากัด (มหาชน) หรือ SKIN เปิดเผยว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นวันแรก ถือว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างดี โดยเป็นอีกก้าวสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัท ซึ่งตลอดระยะเวลากว่า 12 ปี บริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของผลการดำเนินงาน และการเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค

อีกทั้งบริษัทฯ คาดรายได้ทั้งปี 68 เติบโต 10% ตอบรับแผนการดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายซึ่งเป็นไฮซีซันของธุรกิจ โดยบริษัทเตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งสกินแคร์และ Makeup Care ภายใต้แบรนด์ Skinsista และแบรนด์เวชสำอาง Dermie เพิ่มอีก 12 SKUs จากแผนทั้งปีออกผลิตภัณฑ์ใหม่ราว 20 SKUs พร้อมเจรจาดีลกับพันธมิตร 3-4 ราย เพื่อขยายช่องทางการจำหน่ายทั้งออนไลน์-ออฟไลน์ผ่านร้านค้า Beauty Store เพิ่มเติม นำร่องร้านค้าปลีกแบรนด์ Tops ราว 200-300 สาขา ภายในปีนี้ ซึ่งจะช่วยเพิ่มสัดส่วนยอดขายมากขึ้น จากปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายออนไลน์ 35% ออฟไลน์ 65% รวมถึงการขยายช่องทางจัดจำหน่ายยังช่วยสร้างการเติบโตในระยะยาว โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตมากกว่า 2 เท่าใน 3 ปี!!

นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัดหรือ APM ในฐานะที่ปรึกษาการเงิน บริษัท สกิน ลาบอราทอรี่ จํากัด (มหาชน) หรือ SKIN กล่าวว่า APM มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในความสำเร็จของ SKIN การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทสามารถดำเนินแผนธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยความพร้อมทั้งในด้านเงินทุน การขยายตลาดในเชิงรุก และความเป็นผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมความงามที่เข้าใจผู้บริโภคยุคใหม่

ทั้งนี้ SKIN จะเป็นหุ้น Growth Stock ที่มีโอกาสเติบโตอย่างมากในอนาคต เนื่องจากบริษัทอยู่ในจุดเริ่มต้นของธุรกิจด้านสกินแคร์ เวชสำอาง และ Makeup Care ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่และขยายตัวต่อเนื่องทุกปี อีกทั้งแบรนด์ภายใต้การบริหารของบริษัททั้ง Skinsista และ Dermieเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค ส่งผลให้บริษัทมีโอกาสในการขยายฐานลูกค้าได้อีกมาก จากการเพิ่มจำนวนผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าในการบำรุง ดูแล และแก้ปัญหาผิว ที่มีราคาคุ้มค่า

นายวิชา โตมานะ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ PST ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า เชื่อว่า SKIN จะได้รับความสนใจจากนักลงทุนทั้งในการซื้อขายวันแรกและช่วงต่อจากนี้ จากการกำหนดราคาเสนอขายไอพีโอที่เหมาะสม สอดคล้องกับภาพรวมการลงทุนในปัจจุบัน ประกอบกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจที่ดี ไม่มีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยทำให้บริษัทมีความพร้อมขยายธุรกิจในอุตสาหกรรมความงามที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่า SKIN จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน ทั้งในแง่ของการเติบโตและการปันผลให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งบริษัทมีนโยบายการจ่ายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ

TAGS: #SKIN #หุ้น #ไอพีโอ #IPO #mai #การลงทุน #เครื่องสำอาง #สกินแคร์