NUT ก้าวสำคัญสู่การเติบโต ลุยตบเท้าเข้าเทรด 11 มิ.ย. 68 นี้

NUT ก้าวสำคัญสู่การเติบโต ลุยตบเท้าเข้าเทรด 11 มิ.ย. 68 นี้
NUT ก้าวสำคัญสู่การเติบโตในตลาดหลักทรัพย์ mai พร้อมซื้อขายวันแรก 11 มิ.ย. 68 นี้ ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค

บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT ผู้ด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและเครื่องสำอาง ก่อตั้งขึ้นในปี 2556 ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท โดยเริ่มต้นจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เสริมอาหารให้กับคลินิกเสริมความงาม ก่อนจะเริ่มสร้างผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ของตัวเองภายในปี 2557 จนกระทั่งในปี 2561 ได้เซ็นสัญญากับคู่ค้าเพื่อจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางโทรทัศน์ พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 5 ล้านบาท และปลายปี 2562 ได้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 40 ล้านบาท เพื่อชำระหนี้เงินกู้ยืมกรรมการและใช้เป็นทุนหมุนเวียน

อีกทั้งในปี 2564 บริษัทฯ ได้ขยายฐานการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและย้ายคลังสินค้าไปยังโครงการทิพย์ 9 จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 2 และในปี 2565 ได้เพิ่มฐานการผลิตสำหรับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง โดยแยกไปที่โครงการมินิแฟคตอรี่ทรัพย์รุ่งเรือง ซึ่งเป็นโรงงานแห่งที่ 3 พร้อมเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 40 ล้านบาท เป็น 41.5 ล้านบาท ในปี 2567 

รวมถึงบริษัทฯ ได้เปลี่ยนชื่อและแปรสภาพเป็น "บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน)" เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งล่าสุดบริษัทฯ ได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไป (IPO)ในราคา 6.80 บาทต่อหุ้น โดยจะเสนอขายหุ้นจำนวน 37 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาทต่อหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 30.83% ของจำนวนหุ้นสามัญที่จำหน่ายแล้วทั้งหมดของบริษัท 

โดยบริษัทฯ เปิดให้จองซื้อหุ้นระหว่างวันที่ 4-6 มิ.ย.2568 และจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 11 มิ.ย.2568 ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยมี บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป  (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) พร้อมผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายอีก 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด 

ส่วนวัตถุประสงค์ของการใช้เงินทุนจากการเสนอขายหุ้น IPO จะนำไปใช้ลงทุนประชาสัมพันธ์ การผลิตคอนเทนต์ และการว่าจ้างพรีเซ็นเตอร์-อินฟลูเอนเซอร์ สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ของบริษัทฯ โดยแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว และ ผลิตภัณฑ์ดูแลส่วนบุคคล ส่วนที่เหลือนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

นายภาคิณ กิตติภานุวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นูทริชั่น โปรเฟส จำกัด (มหาชน) หรือ NUT กล่าวว่า“บริษัทฯ มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจเสริมอาหารและเครื่องสำอางให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีการนำเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ในกระบวนการผลิต พร้อมคิดค้นสูตรและพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงปัจจุบันผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และได้รับการรับรองมาตรฐานโรงงานต่างๆ อาทิ GMP FDA 420, HACCP&GHPs, ISO 22000:2018 และมาตรฐานฮาลาล อีกด้วย”

สำหรับผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปี (ปี 2565-2567) บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 870.14 ล้านบาท ,1,187.67 ล้านบาท และ 1,165.45 ล้านบาท ตามลำดับ โดยแบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากช่องทางออนไลน์ 44.26% ,59.27% และ 69.43% และออฟไลน์ 45.88% ,35.81% และ 23.40% ตามลำดับ สะท้อนถึงการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญของช่องทางออนไลน์ 

ในขณะเดียวกันในปี 2567 บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยอยู่ที่ 82.41% เพิ่มขึ้นจากการออกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารใหม่ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยอยู่ที่ 5.00% อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ในปี 2567 อยู่ที่ 0.77 เท่า ซึ่งเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อนเนื่องจากผลประกอบการมีกำไรลดลง แต่ยังจ่ายเงินปันผลอย่างสม่ำเสมอ ส่งผลต่อกำไรสะสมของบริษัทฯ 

ทั้งนี้บริษัทฯ มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย ในปี 2564 มีการจ่ายเงินปันผล 0.23 บาทต่อหุ้น, ปี 2565 จ่าย 0.25 บาทต่อหุ้น, ปี 2566 จ่ายรวม 0.35 บาทต่อหุ้น และปี 2567 จ่ายรวม 0.62 บาทต่อหุ้น

TAGS: #NUT #นูทริชั่นโปรเฟส #TheBetter #TheBetterNews