ISC มองอนาคตการใช้เงินสดในไทยมีปริมาณสูง เป็นโอกาสสินค้าเครื่องนับเงินอัตโนมัติ ดึงจุดเด่นงานบริการขยายงาน ‘เอาท์ซอร์ส-ซอร์สซิง’ เจาะลูกค้าธุรกิจ หนุนรายได้ปี’67 โตเท่าตัว
สนิท ศักดิ์เสรี ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อินติเกรต ซิสเต้ม (ไทยแลนด์) จำกัด หรือ ไอเอสซี (ISC) ผู้ดำเนินธุรกิจโซลูชันอุปกรณ์ไอทีและงานบริการครบวงจรตัวช่วยระบบอุปกรณ์จัดการเงินสด (Cash management) กล่าวว่าปัจจุบันบริษัทดำเนินธุรกิจครบ 35 ปี มีจุดเด่นความเชี่ยวชาญงานบริการก่อนและหลังการขายแบบครบวงจรในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์การจัดการเงินสด อาทิ เครื่องนับเงินสดธนบัตร, เหรียญ และสินค้าไอที,นวัตกรรมธุรกิจธนาคาร กระทั่งเป็นผู้นำในตลาดกลุ่มนี้ด้วยยอดขายมากกว่า 200 ล้านบาทต่อปี
โดย บริษัทฯ มองว่าในอีก 5-10 ปีนับจากนี้ การใช้เงินสดยังมีปริมาณหมุนเวียนสูงอย่างต่อเนื่อง ตามแผนการผลิตธนบัตรและเหรียญเพื่อเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)ที่วางไว้ ซึ่งเงินสดทั้ง2รูปแบบจะยังกระจายไปในช่องทางต่างๆ อาทิ ธนาคารพาณิชย์ ห้าง/ร้านค้าปลีก ธุรกิจรับแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่มีสาขากระจายทั่วประเทศ ไปจนถึงธุรกิจขนาดกลางย่อม กลุ่มร้านค้าสะดวกซัก ตู้กดสินค้าอัตโนมัติ ฯลฯ รวมไปถึงธุรกิจอื่น ๆ ที่ยังต้องการรับเงินสด เป็นหลักมากกว่าบริการรับ/โอนเงิน ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ
“ในช่วงที่ผ่านมาแม้จะมีความตื่นตัวการเข้าสู่สังคมไร้เงินสดโดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ แต่จากสถานการณ์ปัจจุบันพบว่าการใช้เงินสดยังมีอยู่ในตลาดไม่ได้ลดหายไปไหน ซึ่งอีก10 ปีข้างหน้าตลาดนี้จะยังไม่เปลี่ยนแปลง เป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้สินค้าออโตเมชันธนาคาร และกลุ่มเครื่องนับเงินยังเติบโตอยู่” สนิท กล่าว
ด้าน ศลีนา ศักดิ์เสรี ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (ซีโอโอ) ISC กล่าวว่า ล่าสุดบริษัทฯ เตรียมจัดงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเงินสดในยุคดิจิทัล (INTEGRATED BUSINESS GROWTH SOLUTION 2024) ภายใต้แนวคิด ‘พาร์ทเนอร์คู่คิด อัพลิมิตให้ธุรกิจคุณ’ โดยรวมสินค้าและบริการสำหรับธุรกิจธนาคาร ร้านค้า ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า หน่วยงานราชการ และธุรกิจที่ต้องการจัดการเงินสด ในวันที่ 21 ก.พ.นี้ ที่ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ
โดยในปีนี้ บริษัทฯ ยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องนับเงินธนบัตร 2 รุ่นใหม่ คือ รุ่น KR 10, KRC10 และรุ่น KD 100 วางระดับราคา 600,000-800,000 บาทต่อรุ่น ด้วยฟีเจอร์เด่นทั้งด้านความรวดเร็วในการนับเงิน และระบบรักษาความปลอดภัยจากการเก็บเงินสดที่บรรจุอยู่ภายในเครื่อง พร้อมบันทึกข้อมูลจำนวนเงินที่อยู่ในเครื่องนับเงินได้อย่างแม่นยำ เพื่อป้องกันการผิดพลาดอันเกิดจากมนุษย์ (human error) ได้ก่อนที่บริษัทคนกลางจะมารับเงินสดเพื่อส่งยังปลายทางต่อไป
ทั้งนี้ จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญกว่า 30 ปีในธุรกิจบริการดังกล่าว บริษัทยังได้ต่อยอดขยายอีก 2 ธุรกิจใหม่ คือ
1. การบริการจัดหาสินค้าจากทั้งในและต่างประเทศ (Sourcing Specialist) วางรูปแบบธุรกิจให้บริการจัดหาสินค้าจากทั่วโลกโดยนำเข้าตรงจากโรงงานโดยไม่ผ่านตัวแทนการค้า ทั้งในกลุ่มสินค้าอุปกรณ์ไอที และ นอน-ไอที เช่น อุปกรณ์สำนักงานทั่วไป และอื่น ๆ เพื่อรองรับทุกความต้องการลูกค้าธุรกิจต่อธุรกิจ (B2B) ทั้งที่เป็นฐานลูกค้ารายเดิมและรายใหม่
2. การบริการดูแลรักษา และซ่อมแซมเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้อยู่ในองค์กร (Service And Maintenance Contract) ทั้งในส่วนของงานซ่อมบำรุงเดิมของบริษัทฯ จากธุรกิจอุปกรณ์จัดการเงินสด ธุรกิจสินค้าไอที นวัตกรรมสำหรับองค์กร พร้อมขยายไปยังตลาดใหม่ บริการรับซ่อมบำรุงสินค้าที่ ISC ไม่ได้เป็นผู้จำหน่าย อาทิ เครื่องซักผ้า อบผ้า จากร้านซักอบรีด ตู้เวนดิง แมชชีน เป็นต้น รวมถึงบริการรับจ้างเก็บเงิน นำส่งเงินเข้าธนาคาร บริการคอลเซ็นเตอร์ 24 ชั่วโมง ในการรับแจ้งเหตุหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในส่วนของหน้าร้านจากผู้ที่ขายแฟรนไชส์ในธุรกิจประเภทดังกล่าว
จากแผนงานที่วางไว้ บริษัทวางเป้าหมายรายได้ในปี 2567 อยู่ที่ 400 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนราว 70% มาจากกลุ่มลูกค้าธนาคาร และ 30% ในกลุ่มไม่ใช่ลูกค้าธนาคาร ที่จะมาจากทั้ง 4 หน่วยธุรกิจของบริษัท อุปกรณ์การจัดการเงินสด, สินค้าไอทีและนวัตกรรม, บริการจัดหาสินค้า และ บริการท์ซอร์ส/ซ่อมบำรุงหลังการขาย โดยเติบโตเท่าตัวหรือ 100% จากในปี 2566 มีรายได้กว่า 200 ล้านบาท