PADI และ Klook นำกิจกรรมดำน้ำทั่วโลกกว่า 7,200 รายการ เปิดให้จองบนแพลตฟอร์ม Klook ทุกหลักสูตรตั้งแต่สมัครเล่นไปถึงมืออาชีพ ชวนคนรุ่นใหม่ร่วมกิจกรรมบนโซเชียลแจกฟรีคอร์สดำน้ำ
มานูเอล เครเมอร์ รองประธานฝ่ายพัฒนาธุรกิจของ PADI Worldwide องค์กรสำหรับสอนการดำน้ำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เปิดเผยว่า PADI และ Klook แพลตฟอร์มด้านการท่องเที่ยว ในเอเชียแปซิฟิกที่เป็นพันธมิตรอย่างเป็นทางการ ลงนามความร่วมมือใต้น้ำอย่างเป็นทางการ ที่เมืองชาร์มเอลชีค ประเทศอียิปต์ ในการอำนวยความสะดวกให้กับนักดำน้ำ หรือผู้ที่สนใจกิจกรรมการดำน้ำจากทั่วโลกสามารถจองประสบการณ์ดำน้ำได้
โดยครอบคลุมกิจกรรมดำน้ำ ทั้งใน อินโดนีเซีย ไทย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน และสิงคโปร์ ผ่านช่องทางแพลตฟอร์ม Klook รวมถึงจะเพิ่มจุดหมายปลายทางอื่นๆ ที่น่าสนใจอย่างต่อเนื่องในอนาคต สามารถค้นหากิจกรรมดำน้ำบน Klook ได้ที่ https://www.klook.com/th/tetris/promo/padisg/
ด้วยในทุกปี จะมีนักดำน้ำหรือผู้ที่สนใจในกิจกรรมดำน้ำกว่า 1 ล้านคน วางแผนทริปดำน้ำ ค้นหาหลักสูตรที่น่าสนใจ เพื่อให้ได้รับใบประกาศนียบัตร ซึ่งขั้นตอนดังกล่าวต้องใช้เวลาในการวางแผนยาวนาน รวมถึงในรายละเอียดต่างๆ ตั้งแต่การเลือกสถานที่ดำน้ำให้ตรงกับความต้องการของแต่ละคน การต่อรองราคาแพคเกจดำน้ำ และการประสานงานการเดินทาง
ทั้งนี้ จากการรวบรวมผลิตภัณฑ์ดำน้ำต่างๆ ไว้ในช่องทางเดียวบนแพลตฟอร์ม Klook ผ่าน API หรือการเชื่อมต่อระบบสู่ระบบ จะช่วยลดขั้นตอนการจองลงเหลือเพียงไม่ถึง 5 นาที โดยลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคา ตรวจสอบตารางและวันเวลาดำน้ำ อ่านรีวิว จอง และได้รับการยืนยันทันทีอย่างง่ายดายบนแพลตฟอร์มเดียว
“การเป็นพันธมิตรกับ Klook จะทำให้คุณเป็นนักดำน้ำแบบมืออาชีพที่ได้รับรองจาก PADI ได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงวางแผน ทริปดำน้ำของคุณได้อย่างง่ายดายและคุ้มค่ามากขึ้น” มานูเอล กล่าว
พร้อมเสริมว่า ศูนย์ดำน้ำและรีสอร์ทของ PADI มีกว่า 6,600 แห่งใน 184 ประเทศทั่วโลก และยังมีผลิตภัณฑ์ที่สามารถจองออนไลน์ได้มากกว่า 7,200 รายการบน PADI.com และด้วยการร่วมมือกันในครั้งนี้ ได้นำกิจกรรมและคอร์สเรียนดำน้ำที่ถูกคัดเลือกออกมาพร้อมให้บริการจองบน Klook เพื่อให้ผู้สนใจสามารถแสวงหาการผจญภัย ออกไปสัมผัสและอนุรักษ์โลกใต้น้ำได้สาะดวก
จากการสำรวจตลาดการท่องเที่ยวด้านการดำน้ำ พบว่า นักเดินทางวัยรุ่นเต็มใจที่จะใช้เวลามากขึ้นไปกับการสัมผัสประสบการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะกิจกรรมด้านธรรมชาติและกิจกรรมกลางแจ้ง นักเดินทางรุ่นใหม่ชาวเอเชียต้องการใช้เวลาช่วงวันหยุดให้คุ้มค่าที่สุด และพยายามรวมประสบการณ์ต่างๆ เช่น การดำน้ำลึกเข้าไปในแผนการเดินทางของพวกเขา
โดยในปี 2023 มีนักดำน้ำใหม่จาก จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ได้รับการรับรองจาก PADI มากที่สุดในเอเชีย และคาดการณ์ว่าภายในปี 2024 อุตสาหกรรมดำน้ำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเติบโตขึ้นสูงกว่าปี 2019 นอกจากนั้นยังมีการคาดการณ์เพิ่มเติมว่า ขนาดธุรกิจการดำน้ำในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกจะเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตต่อปี 12.2% ตั้งแต่ปี 2022-2030
ด้าน ชวน เชง (ซี.เอส.) ซูง รองประธานฝ่ายพัฒนาองค์กร Klook กล่าวว่า ความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ PADI รวมถึงทำให้การจองแผนการเดินทางดำน้ำเป็นเรื่องง่าย จะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักดำน้ำได้เป็นอย่างดี ซึ่ง Klook มองเห็นโอกาสการเติบโต และความต้องการรวมทั้งความทุ่มเทของกลุ่มนักดำน้ำที่เติบโตขึ้น พร้อมข้อเสนอที่น่าสนใจบนแพลตฟอร์ม Klook เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าตื่นเต้น ไม่เหมือนใคร โดยความร่วมมือในครั้งนี้เป็นโอกาสอันดีในการขยายกลุ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ ที่หลงใหลในความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเล” .
ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับภารกิจของ PADI ในการสำรวจและปกป้องโลกใต้ทะเล และเป้าหมายของ Klook ที่จะทำให้โลกอยู่ใกล้กันมากขึ้น PADI และ Klook พร้อมเปิดตัวโครงการ UNIVER-SEA-TY ซึ่งเป็นโครงการนำร่องเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้นักดำน้ำหน้าใหม่
โดยการมอบประสบการณ์การเรียนดำน้ำเพื่อเป็นเครื่องมือในการสำรวจโลกใต้ทะเล ให้กับผู้โชคดีจำนวน 33 คน ที่จะมีโอกาสได้รับใบรับรองหลักสูตร Open Water Diver จาก PADI ในสถานที่ดำน้ำที่พวกเขาเลือก
มีช่องทางการเข้าร่วมกิจกรรม 3 ช่องทาง ดังนี้
- ช่องทาง Tik Tok - ถ่ายวีดิโอตัวคุณเอง โดยใช้ฟิลเตอร์การดำน้ำ “Let’s Dive” แล้วบอกว่าคุณต้องการดำน้ำมากแค่ไหน
- ช่องทาง Intragram - แสดงความคิดเห็นในโพสต์ของ Klook และแบ่งปันว่าทำไมคุณถึงอยากดำน้ำและแท็กเพื่อน 3 คน
- ช่องทาง Facebook - แสดงความคิดเห็นในโพสต์ของ Klook และแบ่งปันว่าทำไมคุณถึงอยากดำน้ำและแท็กเพื่อน 3 คน
ผู้ชนะจะประกาศผลในเดือนธันวาคม 2023 ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียที่เกี่ยวข้อง และสามารถรับบัตรของขวัญอิเล็กทรอนิกส์เพื่อจองใบรับรองการดำน้ำ Open Water Dive ซึ่งสามารถแลกซื้อคอร์สเรียนดำน้ำที่กำหนดได้ภายใน 1 ปี
