ตำนาน'คนแซ่เกา'ผู้สร้างบ้านให้มนุษย์ บรรพบุรุษของเศรษฐา ทวีสิน

ตำนาน'คนแซ่เกา'ผู้สร้างบ้านให้มนุษย์ บรรพบุรุษของเศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน มาจากวงตระกูลที่ทำงานด้านค้าๆ ขายๆ มาตั้งแต่โบราณ แม้แต่บรรพบุรุษที่เป็นต้นกำเนิดแซ่ก็เป็นคนสร้างบ้าน ส่วนตัวเขาก็ทำงานด้านอสังหาริมทรัพย์

หนึ่งในเครือญาติโคตรวงศ์ของ เศรษฐา ทวีสิน คือ นายเทียน ทวีสิน ผู้ที่บันทึกประวัติของตระกูลเอาไว้ในงานเขียนชื่อ "ชีวประวัติคำกลอน ของ นายเทียน ทวีสิน" เขียนเล่าที่มาของตระกูลเอาไว้ว่า

"ต้นวงศ์ของฉันนั้นขอแจ้ง มีหลักแหล่งประจักษ์เป็นสักขี ชื่อนายเซ็กแซ่กอหน่อผู้ดี เพราะได้มีจดไว้ในสารา ตัวท่านหนอหน่อเนื้อเชื้อชาตืจีน อยู่ท้องถิ่นไหเถงไม่กังขา เป็นเขตแคว้นเจียงจิวนครา มณฑลอามอยรัฐชัชวาล ประกอบกิจการค้าทางนาเวศ ระหว่างเขตเมืองท่ามหาศาล ได้เข้ามาดำรงสืบวงศ์วาน และตั้งบ้านค้าขายอยู่ท้ายเมือง เขตอำเภอบางรักประจักษ์แจ้ง เป็นที่แหล่งการค้านานาเรื่อง ประกอบกิจพาณิชย์อยู่เนืองเนือง จนรุ่งเรืองผาสุกสิ้นทุกข์ภัย"

จากข้อเขียนนี้ทำให้เราทราบว่าต้นตระกูลทวีสินเป็นพ่อค้าชาวจีน แซ่ (นามสกุล) กอ มาจากอำเภอไหเถง เมืองเจียงจิว มณฑลอามอย ประเทศจีน ซึ่งเราต้องอธิบายเป็นข้อๆ ไป 

บรรพบุรุษแซ่กอเป็นคนสร้างบ้าน
แซ่กอ (高姓) เป็นการออกเสียงด้วยสำเนียงฮกเกี้ยน ซึ่งเป็นถิ่นฐานเดิมของตระกูลนี้ ส่วนในภาษาจีนกลางออกเสียงว่า "เกา" 

คนแซ่เกาคนแรกๆ ที่ปรากฏอยู่ในประวัติศาสตร์จีน คือ คนเผ่าเกาหรือเกาอี๋ (高夷) ซึ่งบางข้อมูลระบุว่าน่าจะเกี่ยวข้องกับชนชาติ "เกาโกวลี่" (高句丽) หรือ "โคกูรยอ" เป็นบรรบุรุษสายหนึ่งของคนเกาหลี

ในบันทึกชื่อ "หลื่อซื่อชุนชิว" กล่าวว่า ชนเผ่าเกาเป็นผู้ประดิษฐ์บ้านพักให้กับจักรพรรดิเหลืองหรือหวงตี้ (黃帝) ซึ่งเป็นบรรพบุรุษของคนจีน ดังนั้น คนเผ่าเกาจึงถือเป็คนกลุ่มแรกที่สร้างบ้านเรือนขึ้นมา และเป็นผู้ที่นำมนุษยชาติหลุดพ้นจากการอาศัยอยู่ตามป่าตามถ้ำ มาอยู่เป็นชุมชนที่มีบ้านเรือน 

แต่แซ่กอหรือเกายังมีที่มาจากเหตุการณ์อื่นๆ ด้วย และมีสาขาของวงศ์ตระกูลแตกต่างกันไป นอกจากเผ่าเกาในยุคบรรพกาลแล้ว ยังมีแซ่เกาที่ตั้งขึ้นในสมัยราชวงศ์โจว (ประมาณ 2,000 กว่าปีที่แล้ว) และมีแซ่เกาที่ตั้งขึ้นในยุคราชวงศ์เหนือใต้ (ประมาณ 1,500 ปีที่แล้ว)

บ้านเดิมของแซ่กอแห่งสยาม
ในเวลาต่อมา อำเภอไหเถง  มีคนแซ่กอคนหนึ่งชื่อว่า "เซ็ก" อำเภอไหเถง (ออกเสียงแบบจีนกลางว่าไห่เฉิง) มณฑลฮกเกี้ยน (ฝูเจี้ยน) พื้นที่แห่งนี้เป็นท่าเรือสำคัญทั้ง 4 แห่งของมณฑลฮกเกี้ยนใช้ติดต่อค้าขายกับต่างประเทศ 

ที่นี่คือจุดค้าขายสำคัญทั้งธุรกิจบนดินและใต้ดิน เป็นจุดที่ "เงิน" หลั่งไหลเข้าจีน นั่นคือแร่เงินที่จีนนำเข้าจากฟิลิปปินส์ และฟิลิปปินส์นำเข้าจากลาตินอเมริกา เพราะในเวลานั้นจักรวรรดิสเปนที่ครอบครองฟิลิปปินส์และอเมริกาใต้ มี "ขุมเงิน" ในกำมือ เรื่องนี้แสดงว่าไหเถงมั่งคั่งมากแค่ไหน

ในประวัติของตระกูลกอบอกว่าพวกเขาอยู่ที่มณฑลอามอย คำว่าอามอยก็คือชื่อเมืองเซี่ยเหมิน ไม่ใช่มณฑล แต่มีความสำคัญอย่างมากต่อมณฑลฮกเกี้ยน ซึ่งเป็นหนึ่งในท่าเรือที่ติดต่อกับประเทศสยามด้วย

"ประวัติสกุลทวีสิน" ในหนังสืออนุสรณ์นายเทียน ทวีสิน ระบุว่า นายเซ็ก แซ่กอ ได้เดินทางมายังกรุงเทพฯ เมื่อปี พ.ศ. 2375 แล้วตั้งหลักที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตำบลคอกควาย อำเภอบางรัก หรือหลังตลาดบางรัก นายเซ็กได้สมรสกับบุตรสาวของชาวญวนคนหนึ่งชื่อ นางหว่าง "นายเซ็กคนนี้เป็นผู้ต้นวงศ์ตระกูลทวีสิน"

จากแซ่กอสู่ตระกูลทวีสิน
"คนแซ่กอ" จากเมืองไหเถงที่กลายเป็นคนสยามเหล่านี้ ต่อมาจะได้รับนามสกุลว่า "ทวีสิน" โดยนายฮี้ แซ่กอ หรือ ขุนเชาวสารสิทธิกร ซึ่งเป็นข้าราชการได้รับนามสกุลจากเจ้าพระยาวงษานุประพัทธ์ (หม่อมราชวงศ์สท้าน สนิทวงศ์) เสนาบดีกระทรวงคมนาคม โดยให้เหตุผลของการตั้งนามสกุลว่า "เห็นว่าวงศ์ตระกูลเดิมของท่านอันเป็นเทือกเถาที่ประกอบด้วยวิริยความเพียรซึ่งนำมาแห่งโภคทรัพย์ทั้งหลาย"

หมายความว่าตระกูลคนแซ่กอในสยาม ทำอาชีพค้าขายจนมั่งมีมีสินทรัพย์ทวีคูณ จึงควรจะได้รับนามสกุลว่า "ทวีสิน" นั่นเอง

เส้นทางของคนแซ่กอในสยาม ไล่เรียงมาแบบนี้ เริ่มจากนายเซ็กเป็นบรรพบุรุษของนายกิมเซง นายกิมเซงเป็นบิดานายกีกุ่ย นายกีกุ่ยเป็นบิดานายเอี๊ยง (นายฮี้ แซ่กอ หรือ ขุนเชาวสารสิทธิกรเป็นน้องชายของนายกีกุ่ย) นายเอี๊ยงเป็นบิดานายอำนวย และนายอำนวยคือบิดาของนายเศรษฐา ทวีสิน

จนกระทั่งวันนี้ ประเทศไทยได้นายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เป็นลูกหลานของคนแซ่กอและตระกูลทวีสิน ยังมีชื่อเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ ว่า "เศรษฐา" ที่แปลว่า "ดีเลิศ" แต่มีความหมายที่ใช้ปัจจุบันเกี่ยวกับเรื่องเงินทอง ความมั่งมี อย่างเช่นในคำว่า เศรษฐีและเศรษฐกิจ

แต่เศรษฐา ทวีสิน ยังมีเรื่องเงินๆ ทองๆ คือข้อกล่าวหาเรื่องภาษีของบริษัทแสนสิริฯ ที่เขาเป็นผู้บริหาร และอาจทำให้เขาต้องอยู่บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรีด้วยความวิตกกังวลอยู่สักหน่อย

เรื่องโดย กรกิจ ดิษฐาน

TAGS: #เศรษฐาทวีสิน #เพื่อไทย