สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ได้เปิดเผยเอกสารข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรอบข้อตกลงการค้าแบบต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้ 

การส่งมอบการค้าต่างตอบแทน: ประธานาธิบดีโดนัลด์ เจ. ทรัมป์ ประกาศข้อตกลงการค้าที่จะทำให้ชาวอเมริกันเข้าถึงตลาดได้ในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน สหรัฐอเมริกาและราชอาณาจักรไทย (ประเทศไทย) ได้ตกลงร่วมกันในกรอบข้อตกลงการค้าต่างตอบแทน ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ทวิภาคีและเปิดโอกาสให้ผู้ส่งออกชาวอเมริกันเข้าถึงตลาดของไทย พร้อมกับเสริมสร้างความมั่นคงของชาติและเศรษฐกิจของสหรัฐฯ

เงื่อนไขสำคัญของข้อตกลงการค้าต่างตอบแทนระหว่างสหรัฐอเมริกาและไทย ประกอบด้วย:

ภาษีศุลกากร:
o ประเทศไทยจะยกเลิกภาษีสินค้า 99% ครอบคลุมสินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และเกษตรกรรมของสหรัฐฯ ทุกประเภท
o สหรัฐอเมริกาจะคงอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้านำเข้าจากไทยไว้ที่ 19% และจะระบุสินค้าจากรายการที่กำหนดไว้ในภาคผนวก III ของคำสั่งประธานาธิบดีที่ 14346 ลงวันที่ 5 กันยายน 2568 เรื่อง การปรับภาษีศุลกากรที่อาจเกิดขึ้นสำหรับพันธมิตรร่วม จะได้รับอัตราภาษีศุลกากรต่อสินค้าเป็นศูนย์เปอร์เซ็นต์

• การทำลายอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีสำหรับการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ: ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขอุปสรรคทางการค้าต่อการส่งออกของสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึง (1) การยอมรับยานยนต์ที่ผลิตในสหรัฐฯ ซึ่งผลิตขึ้นตามมาตรฐานความปลอดภัยและการปล่อยมลพิษของยานยนต์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (2) การยอมรับใบรับรองและใบอนุญาตการตลาดก่อนหน้าจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐฯ สำหรับอุปกรณ์ทางการแพทย์และยารักษาโรคว่าเพียงพอต่อความต้องการของประเทศไทย (3) การออกใบอนุญาตนำเข้าเอทานอลจากสหรัฐฯ สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง (4) การแก้ไขกฎหมายศุลกากรเพื่อยกเลิกระบบการให้รางวัลศุลกากรที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดและบทลงโทษทางศุลกากร และ (5) การนำแนวปฏิบัติด้านกฎระเบียบที่ดีมาใช้และดำเนินการ

• การทำลายอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีสำหรับการส่งออกสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ: ประเทศไทยจะแก้ไขและป้องกันอุปสรรคทางการค้าต่อสินค้าอาหารและสินค้าเกษตรของสหรัฐฯ ในตลาดไทย ซึ่งรวมถึง (1) การเร่งรัดการเข้าถึงผลิตภัณฑ์เนื้อสัตว์และสัตว์ปีกที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานความปลอดภัยและการตรวจสอบอาหารของสหรัฐฯ (2) จัดการกับอุปสรรคทางการค้าและรับรองว่าข้อกำหนดที่กำหนดให้กับผลิตภัณฑ์พืชสวนของสหรัฐฯ รวมถึงธัญพืชอบแห้งกลั่นพร้อมสารละลาย เป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์และความเสี่ยง และ (3) ยอมรับใบรับรองที่ตกลงกันไว้ในปัจจุบันที่ออกโดยหน่วยงานกำกับดูแลของสหรัฐฯ

• การขจัดอุปสรรคสำหรับการค้า บริการ และการลงทุนดิจิทัล: สหรัฐอเมริกาและไทยจะสรุปข้อผูกพันเพื่อแก้ไขอุปสรรคที่ส่งผลกระทบต่อการค้า บริการ และการลงทุนดิจิทัล ซึ่งรวมถึง: (1) การงดเว้นการจัดเก็บภาษีบริการดิจิทัลหรือมาตรการที่เลือกปฏิบัติต่อบริการดิจิทัลหรือผลิตภัณฑ์ดิจิทัลของสหรัฐฯ (2) การรับรองการถ่ายโอนข้อมูลอย่างเสรีข้ามพรมแดนที่เชื่อถือได้เพื่อการดำเนินธุรกิจ (3) การสนับสนุนการระงับภาษีศุลกากรสำหรับการส่งข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์อย่างถาวรที่องค์การการค้าโลก (WTO) (4) การงดเว้นการกำหนดโควตาภาพยนตร์สำหรับภาพยนตร์ (5) การยกเลิกข้อกำหนดการประมวลผลภายในประเทศสำหรับธุรกรรมการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์สำหรับร้านค้าปลีกภายในประเทศทั้งหมดสำหรับบัตรเดบิตที่ออกในประเทศไทย และ (6) การผ่อนคลายข้อจำกัดการถือครองโดยชาวต่างชาติสำหรับการลงทุนของสหรัฐฯ ในภาคโทรคมนาคมของไทย

• การคุ้มครองและบังคับใช้ทรัพย์สินทางปัญญา: สหรัฐอเมริกาและไทยจะสรุปข้อผูกพันเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา รวมถึงสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาทรัพย์สินทางปัญญาที่มีมายาวนาน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายต่อต้านการปลอมแปลงเครื่องหมายการค้าและการละเมิดลิขสิทธิ์ องค์กรบริหารจัดการร่วมที่ฉ้อโกง การหลีกเลี่ยงมาตรการคุ้มครองทางเทคโนโลยี และปัญหาสิทธิบัตรค้างส่ง

• การเสริมสร้างความเข้มแข็งด้านความมั่นคงทางเศรษฐกิจ: สหรัฐอเมริกาและไทยมุ่งมั่นที่จะเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งรวมถึงการดำเนินการที่เสริมซึ่งกันและกันเพื่อแก้ไขนโยบายและแนวปฏิบัติทางการค้าที่ไม่เป็นธรรมของบุคคลที่สาม การร่วมมือกันในการควบคุมการส่งออกและความมั่นคงด้านการลงทุน และการแก้ไขปัญหาการหลีกเลี่ยงภาษีอากร

• การเสริมสร้างการคุ้มครองแรงงาน: ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะปรับปรุงการคุ้มครองสิทธิแรงงานที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล รวมถึงการแก้ไขกฎหมายเพื่อเสริมสร้างการคุ้มครองสิทธิแรงงานในเสรีภาพในการสมาคมและการเจรจาต่อรองร่วม และการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการบังคับใช้กฎหมายแรงงาน รวมถึงการแก้ไขปัญหาการละเมิดในภาคส่วนที่มีความเสี่ยงสูงต่อการบังคับใช้แรงงานบังคับและแรงงานเด็ก

• การเสริมสร้างการบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อม: ประเทศไทยมุ่งมั่นที่จะนำมาตรการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมมาใช้และรักษามาตรฐานระดับสูง และบังคับใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมอย่างมีประสิทธิภาพ

• การลงนามข้อตกลงทางการค้า: ประเทศไทยและสหรัฐอเมริการับทราบข้อตกลงทางการค้าที่จะเกิดขึ้นระหว่างบริษัทสหรัฐอเมริกาและไทยในภาคเกษตรกรรม พลังงาน และการบิน ซึ่งรวมถึง (1) การจัดซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ได้แก่ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ กากถั่วเหลือง และธัญพืชแห้งสำหรับกลั่นพร้อมสารละลาย มูลค่าประมาณ 2.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี (2) การจัดซื้อผลิตภัณฑ์พลังงาน ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติเหลว น้ำมันดิบ และอีเทน มูลค่าประมาณ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และ (3) การจัดซื้อเครื่องบินของสหรัฐฯ จำนวน 80 ลำ มูลค่ารวม 1.88 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

เส้นทางสู่ความเจริญรุ่งเรือง: ในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สหรัฐอเมริกาและไทยจะเดินหน้าเจรจาและสรุปข้อตกลงว่าด้วยการค้าต่างตอบแทน เพื่อผูกมัดผลประโยชน์ให้กับธุรกิจอเมริกัน

• ข้อตกลงนี้จะช่วยให้เกษตรกร ผู้เลี้ยงปศุสัตว์ ชาวประมง ผู้ผลิต และธุรกิจขนาดเล็กของสหรัฐฯ สามารถเพิ่มการส่งออกของสหรัฐฯ และขยายโอกาสทางธุรกิจได้ และยังช่วยลดการขาดดุลการค้าสินค้ากับไทยอีกด้วย
• ปัจจุบัน สหรัฐอเมริกามีการขาดดุลการค้าสินค้ากับไทยเป็นอันดับ 11 โดยในปี 2567 สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าสินค้ารวม 4.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

ปลดปล่อยอเมริกาจากการค้าที่ไม่เป็นธรรม: ประธานาธิบดีทรัมป์ท้าทายสมมติฐานที่ว่าแรงงานและธุรกิจอเมริกันต้องอดทนต่อการค้าที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งสร้างความเสียหายแก่พวกเขามานานหลายทศวรรษ และเป็นสาเหตุให้เกิดการขาดดุลการค้าครั้งประวัติศาสตร์
• เมื่อวันที่ 2 เมษายน ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติเพื่อรับมือกับภัยคุกคามที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนต่อสหรัฐอเมริกา จากการขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ จำนวนมากและต่อเนื่อง อันเนื่องมาจากการขาดความสัมพันธ์ทางการค้าทวิภาคี อัตราภาษีศุลกากรและอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีที่ไม่เป็นธรรมที่แตกต่างกัน และนโยบายเศรษฐกิจของคู่ค้าสหรัฐฯ ที่กดทับค่าจ้างและการบริโภคภายในประเทศ
• ประธานาธิบดีทรัมป์ยังคงส่งเสริมผลประโยชน์ของประชาชนชาวอเมริกันและภาคการเกษตรของเรา ด้วยการยกเลิกอุปสรรคทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และขยายการเข้าถึงตลาดสำหรับผู้ส่งออกชาวอเมริกัน
• การประกาศในวันนี้ถือเป็นเส้นทางที่เป็นรูปธรรมสำหรับประเทศไทย ซึ่งตอกย้ำความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีในการสร้างการค้าที่สมดุลและต่างตอบแทนกับคู่ค้าที่สำคัญ

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐอเมริกา (ขวา) ยิ้มให้กับอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของไทย หลังพิธีลงนามข้อตกลงหยุดยิง ขณะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 47 ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2568 (ภาพโดย ANDREW CABALLERO-REYNOLDS / AFP)