เจาะ 3 ไฮไลต์ Central Park แลนด์มาร์กใหม่ของกรุงเทพฯ ศูนย์การค้าสไตล์มิกซ์ยูสที่รวมพื้นที่สีเขียว ไลฟ์สไตล์ครบวงจร และแนวคิดความยั่งยืน

ยุคนี้ศูนย์การค้า ไม่ได้เป็นเพียงที่ช้อปปิ้งเหมือนในอดีตอีกต่อไป แต่ถูกออกแบบให้เป็น พื้นที่ใช้ชีวิตของคนเมือง ที่รวมทั้งการพักผ่อน ออกกำลังกาย ทำงาน ไปจนถึงการพบปะสังสรรค์ ไลฟ์สไตล์เมืองใหญ่จึงต้องการพื้นที่ที่มากกว่า “การจับจ่าย” และนี่คือเหตุผลว่าทำไมหลายโครงการใหม่ ๆ ถึงเลือกพัฒนาในรูปแบบ มิกซ์ยูส (Mixed-Use) ที่เชื่อมโยงกับชุมชนและใส่เรื่อง “ความยั่งยืน” เข้าไปเป็นหัวใจหลัก

ล่าสุด กรุงเทพฯ ได้ต้อนรับ Central Park ศูนย์การค้าและแลนด์มาร์กแห่งใหม่ใจกลางเมือง ที่หยิบแนวคิดนี้มาใช้จริง ด้วยการออกแบบให้เป็น “พื้นที่ที่เข้าใจคนเมือง” และสร้างประสบการณ์ที่ไม่เหมือนห้างสรรพสินค้าแบบเดิม ๆ ซึ่งทั้งหมดสะท้อนผ่าน 3 ไฮไลต์สำคัญที่หลายคนอาจยังไม่รู้

1. Roof Park 7 ไร่ ที่ต่อเชื่อมสวนลุมพินี
สิ่งที่ทำให้ Central Park แตกต่างคือการสร้างสวนลอยฟ้าขนาด 7 ไร่ เชื่อมต่อกับสวนลุมพินีแบบไร้รอยต่อ จนกลายเป็น ปอดใหม่ของคนกรุงเทพฯ ที่ไม่ใช่แค่พื้นที่สีเขียว แต่ยังเต็มไปด้วยกิจกรรมสำหรับคนเมือง ตั้งแต่ Run Club, Sunrise Coffee ไปจนถึง Wellness Experience ที่ทำให้ “การอยู่กลางเมือง” ไม่ได้หมายถึงการตัดขาดจากธรรมชาติอีกต่อไป

2. ไลฟ์สไตล์ครบวงจร มากกว่าการช้อปปิ้ง
Central Park วางตัวเองเป็น New Landmark of Sustainable Living ที่เล่าเรื่อง “The Future of Lifestyle” ผ่านกิจวัตรประจำวันของคนเมือง ลองนึกภาพการวิ่งเช้าที่สวนลุม ต่อด้วยกาแฟแก้วแรกที่ Roof Park พักกลางวันกับร้านอาหารที่ติดลิสต์ Michelin Guide และปิดท้ายด้วย Rooftop Bar กับเพื่อนในยามค่ำ นี่ไม่ใช่แค่ห้าง แต่คือ พื้นที่ที่หลอมรวมการใช้ชีวิตทุกช่วงเวลาเข้าด้วยกัน

3. ห้างที่คิดถึงสิ่งแวดล้อมจริง ๆ
อีกสิ่งที่น่าสนใจคือ Central Park ไม่ได้มองความยั่งยืนเป็นเพียง “ภาพลักษณ์” แต่ลงมือทำจริง ผ่านโมเดล Circular Economy ตั้งแต่การรีไซเคิลขวด PET กว่า 200 ตันต่อปี การทำผ้ากันเปื้อนจากขวดพลาสติกใช้แล้ว ไปจนถึงการมอบส่วนลดให้ลูกค้าที่พกแก้วส่วนตัวมาเองในศูนย์อาหาร ทุกดีเทลเล็ก ๆ ถูกออกแบบเพื่อขยับเข้าใกล้เป้าหมายใหญ่ Net Zero 2050

คำถามของการใช้ชีวิตในเมืองวันนี้ ไม่ได้อยู่ที่เราจะวิ่งเร็วแค่ไหน แต่อยู่ที่เราจะหาจังหวะพัก หายใจ และอยู่กับสิ่งรอบตัวได้อย่างไร สิ่งเล็ก ๆ อย่างการได้หายใจเต็มปอด เดินเล่นกับเพื่อน หรือจิบกาแฟในเช้าวันธรรมดา อาจเป็นคำตอบที่แท้จริงของการใช้ชีวิตเมืองอย่างมีคุณภาพ