ไต้หวันพยายามสลาย'ความเป็นจีน'? หลังมีการลบคำว่า'ชาวฮั่น'จากระบบ

ไต้หวันพยายามสลาย'ความเป็นจีน'? หลังมีการลบคำว่า'ชาวฮั่น'จากระบบ

เหตุเกิดจากการที่ในเว็บไซต์ทางการของสภาบริหารไต้หวันมรการเปลี่ยนแปลงที่อาจส่งผลกระทบต่อชะตากรรมของไต้หวันกับจีน หลังจากที่มีผู้พบการปรับเปลี่ยนในเพจที่เรียกว่า “บทนำสภาวการณ์แห่งชาติ” ซึ่งบันทึกองค์ประกอบทางชาติพันธุ์ของไต้หวัน โดยในอดีต กลุ่มชาติพันธุ์หลักสองกลุ่มถูกเรียกว่า “ชาวฮั่น” (漢人) และ “ชนพื้นเมือง” (原住民族) 

สองชนชาตินี้เป็นส่วนสำคัญของไต้หวัน โดยที่ชาวฮั่นหมายถึงผู้ที่อพยพมาจากแผ่นดินใหญ่ในช่วงยุคสมัยต่างๆ ในประวัติศาสตร์จีน ส่วนคนพื้นเมืองหมายถึงชนชาติที่เก่าแก่กว่าที่อยู่ในไต้หวัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตรนีเซียน

ทั้งนี้ คลื่นการอพยพครั้งใหญ่ของชาวฮั่นจากแผ่นดินใหญ่มาสู่ไต้หวันเกิดขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 จนกระทั่งสิ้นสุดสงครามกลางเมืองจีนในปี 1949 ชาวไต้หวันเชื้อสายฮั่นพูดภาษาจีนได้ 3 ภาษาหลัก ได้แก่ ภาษาจีนกลาง ภาษาฮกเกี้ยน และภาษาฮากกา มีการอพยพของชาวฮั่นเกิดขึ้นสองครั้งใหญ่ 1) ในช่วงราชวงศ์ชิงในศตวรรษที่ 18 และ 19 และ 2) จากพื้นที่แผ่นดินใหญ่ของสาธารณรัฐจีน ซึ่งปัจจุบันปกครองโดยสาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปีสุดท้ายของสงครามกลางเมืองจีน (1945–1949)

อย่างไรก็ตาม เมื่อไม่นานมานี้ สภาบริหารได้อัปเดตข้อมูลอย่างเงียบๆ โดยลบคำว่า “ชาวฮั่น” 96% และเปลี่ยนเป็น “ประชากรที่เหลือ 96%” (96%的其餘人口) ซึ่งก่อให้เกิดการโต้เถียงกันอย่างมากทั้งในและนอกไต้หวัน ซึ่งสภาบริหารไต้หวันอ้างว่าการลบเชื้อชาติฮั่นออกไปเป็นการส่งเสริมความเท่าเทียมกันทางชาติพันธุ์

ที่ผ่านมาพรรค DPP ของไต้หวันซึ่งพยายามแยกไต้หวันออกจากจีน ถูกวิจารณ์มาโดยตลอดว่าพยายาม "ลบความเป็นจีน" (De-sinicized) จากไต้หวัน โดยเป็นหนึ่งในความพยายามเพื่อสร้าง "อัตลักษณ์" ของไต้หวันที่แตกต่างจากจีน อันเป็นกระบวนการหนึ่งเพื่อย่้ำว่า "ไต้หวันไม่ใช่จีน"

ในขณะที่พรรคก๊กมินตั๋ง หรือ KMT มีความพยายามที่จะรักษาอัตลักษณ์ความเป็รจีนและความเป็นคนฮั่น ได้ตำหนิการกระทำของรัฐบาล DPP จากการรายงานของสำนักข่าว TVBS ระบุว่า หลินเพ่ยเสียง (林沛祥) สมาชิกสภานิติบัญญัติพรรคก๊กมินตั๋ง กล่าวว่า “การปฏิเสธประวัติศาสตร์และแม้กระทั่งปัจจุบันก็เป็นเพียงการสนองอุดมการณ์ของพวกเขาเท่านั้น" และ การลบคำว่า “ชาวฮั่น” ออกแล้วแทนที่ด้วยคำว่า “ส่วนที่เหลือ” ไม่ได้ช่วยลดความขัดแย้งทางชาติพันธุ์ แต่กลับก่อให้เกิดความขัดแย้งระหว่างกลุ่มทั้งสองในไต้หวัน

ขณะที่ สมาชิกสภานิติบัญญัติพรรค KMT เซี่ยหลงเจี้ย (謝龍介) กล่าวว่า “คุณพี่ประธานาธิบดีไล่ชิงเต๋อ ข้าพเจ้าราบว่าคุณปรารถนาชาวยามาโตะอันยิ่งใหญ่ (大和民族) แต่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้หรือไม่” 

คำกล่าวนี้มีเป้าหมายโจมตี ไล่ชิงเต๋อ ผู้นำพรรค DPP และคนในพรรคเดียวกันที่มีท่าที "โปรญี่ปุ่น" และแสดงออกว่าต้องการให้ญี่ปุ่นเข้ามามีบทบาทในไต้หวัน โดยคำว่า "ยามาโตะ" นั้นหมายถึงชาวญี่ปุ่นนั่นเอง

โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better

TAGS: #ไต้หวัน #จีน #ฮั่น