มันคือ 'ความโง่เขลา'และ'ความอ่อนแอ' ฟังนักเศรษฐศาสตร์วิจารณ์ภาษีของทรัมป์

มันคือ 'ความโง่เขลา'และ'ความอ่อนแอ' ฟังนักเศรษฐศาสตร์วิจารณ์ภาษีของทรัมป์

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนกำลังแสดงความกังวลเกี่ยวกับภาษีศุลกากรที่สูงมากของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์สำหรับสินค้าที่นำเข้ามายังสหรัฐอเมริกา ซึ่งจุดชนวนให้เกิดสงครามการค้า ซึ่งผู้เชี่ยวชาญระบุว่าอาจทำให้หลายประเทศเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ต่อไปนี้คือความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ชั้นนำบางคน:

'ความล้มเหลวของลัทธิเรแกน
สำหรับ โทมาส์ พิกเกตตี (Thomas Piketty) ผู้เขียนชาวฝรั่งเศสที่เขียนหนังสือขายดีเรื่อง "Capital in the Twenty-First Century" เขากล่าวว่า "เหนือสิ่งอื่นใด ลัทธิทรัมป์ (Trumpism) เป็นปฏิกิริยาต่อความล้มเหลวของลัทธิเรแกน (Reaganism หมายถึงการเปิดเสรีเศรษฐกิจในยุคของประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกนในช่วงทศวรรษ 1980)

“พรรครีพับลิกันตระหนักดีว่าลัทธิเสรีนิยมทางเศรษฐกิจและโลกาภิวัตน์ไม่ได้ส่งผลดีต่อชนชั้นกลางอย่างที่พวกเขาเคยบอกไว้” พิกเกตตี ซึ่งเป็นนักเศรษฐศาสตร์แนวซ้ายกล่าวกับ AFP

“ตอนนี้พวกเขาใช้ส่วนที่เหลือของโลกเป็นแพะรับบาป” พิกเกตตี กล่าว “แต่มันจะไม่ได้ผล เพราะส่วนผสมที่ทรัมป์สร้างขึ้นมาจะยิ่งสร้างเงินเฟ้อและความไม่เท่าเทียมกันมากขึ้น”

เพื่อเป็นการตอบโต้ “ยุโรปจำเป็นต้องกำหนดลำดับความสำคัญของตนเองและเตรียมพร้อมสำหรับภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น” ด้วยแผนการลงทุนมหาศาลใน “โครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานและการขนส่ง การศึกษา การวิจัย และสุขภาพ”

มันคือ 'ความโง่เขลาที่ร้ายแรง'
พอล ครุกแมน (Paul Krugman) ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าโดยพื้นฐานแล้ว สหรัฐอเมริกาเป็นผู้ก่อตั้งระบบการค้าสมัยใหม่ที่ทำให้มีภาษีศุลกากรที่ลดลงในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา

“โดนัลด์ ทรัมป์เผาทุกอย่างทิ้งไป” ครุกแมนเขียนไว้ในบล็อก Substack ยอดนิยมของเขา ก่อนที่ประธานาธิบดีจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้า 10% ตามเกณฑ์พื้นฐานจะมีผลบังคับใช้ในวันเสาร์

“ทรัมป์ไม่ได้พยายามบรรลุเป้าหมายทางเศรษฐกิจจริงๆ หรอก ทั้งหมดนี้ควรได้รับการมองว่าเป็นการแสดงอำนาจเหนือ มีจุดมุ่งหมายเพื่อทำให้ผู้คนตกตะลึงและเกรงขาม และทำให้พวกเขาต้องก้มหัวให้” เขากล่าว

ครุกแมนกล่าวหารัฐบาลสหรัฐฯ ว่า “โง่เขลาอย่างร้ายแรง” ในช่วงเวลาที่ “ชะตากรรมของเศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะเสี่ยง”

“ใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นนักธุรกิจหรือรัฐบาลต่างประเทศ จะไว้ใจสิ่งที่ออกมาจากรัฐบาลที่ประพฤติตัวเช่นนี้ได้อย่างไร”

คือ'ปัญหาหลัก' สำหรับคนจน
สำหรับนัสเซอร์ ไซดี (Nasser Saidi) อดีตรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจของเลบานอน “ปัญหาหลักคือผลกระทบต่อประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุดและประเทศกำลังพัฒนา” จาก “การช็อกครั้งใหญ่ของทรัมป์ต่อภูมิทัศน์การค้าโลก”

“ประเทศต่างๆ เช่น อียิปต์ เลบานอน หรือจอร์แดน จะเผชิญกับความปั่นป่วนในแง่ของความสัมพันธ์ทางการค้า” เช่นเดียวกับแนวโน้มที่การลงทุนจากต่างประเทศจะถูกตัดลด

“เมื่อคุณมีการกำหนดภาษีประเภทนี้ ภาษีระดับสูงที่ไม่มีพื้นฐานทางเศรษฐกิจ สิ่งที่คุณจะทำคือการทำลายห่วงโซ่อุปทานอย่างรุนแรง” เขากล่าวเสริม

“ผมคิดว่าเราจบสิ้นยุคของโลกาภิวัตน์และการเปิดเสรีแล้ว” ซึ่งจะทำให้ประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง เช่น เสริมสร้างความสัมพันธ์กับพันธมิตรในเอเชีย

ไม่ต่างอะไรกับ 'อาวุธของผู้อ่อนแอ' 
คาโค นูบุกโป (Kako Nubukpo) นักเศรษฐศาสตร์และอดีตรัฐมนตรีของรัฐบาลโตโก เตือนว่าภาษีของทรัมป์จะส่งผลกระทบต่อประเทศในแอฟริกาที่ประสบปัญหาทางการเมืองอยู่แล้ว

“ผู้ที่ถูกโลกาภิวัตน์ทิ้งไว้ข้างหลังดูเหมือนจะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ และเราจึงได้เห็นระบอบการปกครองที่ไม่เสรีนิยมเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในยุโรป แอฟริกา หรืออเมริกา” เขากล่าว

แต่ "นโยบายคุ้มครองทางการค้าเป็นอาวุธของผู้ที่อ่อนแอกว่า และฉันคิดว่าทรัมป์ได้ตระหนักว่าในการแข่งขันกับจีน สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่อ่อนแอกว่า"

เพื่อตอบโต้ "ประเทศต่างๆ ในแอฟริกาควรส่งเสริมห่วงโซ่มูลค่าระดับชาติและระดับภูมิภาคของตนเอง" เพื่อเป็นกันชนต่อภาษีศุลกากรของทรัมป์

"มันเป็นลัทธิพาณิชย์นิยมแบบใหม่ (neo-mercantilism) ซึ่งถือว่าการค้าระหว่างประเทศเป็นเกมที่มีผลรวมเป็นศูนย์ และสอดคล้องกับมุมมองโลกแบบก้าวร้าวอย่างสมบูรณ์แบบ" นูบุกโปกล่าว

Agence France-Presse

Photo by SAUL LOEB / AFP

TAGS: #ภาษีทรัมป์ #ทรัมป์ #สงครามการค้า