วันนี้ (26 มีนาคม) ศาลฎีกาของอินเดียระงับคำพิพากษาของศาลสูงประจำเมืองอลาหาบาด ซึ่งระบุว่าการลวนลามหน้าอกและดึงสายรัดชุดนอนไม่ถือเป็นความผิดข่มขืน
ก่อนหน้านี้ ศาลสูงประจำเมืองอลาหาบาดระบุว่าการลวนลามหน้าอกหรือกระชากสายรัดชุดนอนไม่ถือเป็นความพยายามข่มขืน และการจะถือวาเป็นการข่มขืนจะ "ขั้นตอนการเตรียมการ" นี้เพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหาในคดีข่มขืน
เบื้องหลังของคดีนี้สำนักข่าว India TV รายงานว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 โจทก์กำลังเดินทางกลับจากบ้านของน้องสะใภ้ (น้องสาวของสามี) พร้อมกับลูกสาววัยเยาว์อายุประมาณ 14 ปี
ระหว่างนั้นคนร้ายชาย 3 คนซึ่งมาจากหมู่บ้านเดียวกันกับเธอมาพบกันกลางทางจึงเสนอที่จะไปส่งลูกสาวของเธอ โดยรับรองว่าเขาจะพาลูกไปส่งที่บ้านของเธอ เธอจึงอนุญาตให้ลูกสาวขี่มอเตอร์ไซค์ไปกับเขาหลังจากที่ฝ่ายชายคะยั้นคะเยอให้ไปด้วย
แต่ระหว่างทางคนร้ายหยุดรถจักรยานยนต์และเริ่มจับหน้าอกของเด็กหญองวัย 11 ปี คนร้ายอีกคนลากเธอไปที่ใต้ท่อระบายน้ำและดึงเชือกชุดนอนของเธอออก แต่มัคนมาเห็นเหตุการณ์ก่อน คนร้ายจึงใช้ปืนประดิษฐ์เองทำการข่มขู่แล้วหลบหนีไป แต่ในเวลาต่อมาศาลได้เรียกตัวคนร้ายมาฟังข้อกล่าวหาในข้อหาข่มขืน
หลังจากพิจารณาเอกสารหลักฐานแล้ว ศาลตัดสินว่า “ในคดีนี้ ข้อกล่าวหาต่อผู้ต้องหา ชื่อปาวัน ละอากาช คือพวกเขาลวนลามหน้าอกของเหยื่อ และอากาชพยายามดึงเสื้อท่อนล่างของเหยื่อลงมา และเพื่อจุดประสงค์ดังกล่าว พวกเขาจึงฉีกเชือกเสื้อท่อนล่างของเหยื่อและพยายามลากเธอไปใต้ท่อระบายน้ำ แต่ด้วยความช่วยเหลือของพยาน พวกเขาจึงทิ้งเหยื่อและหลบหนีจากที่เกิดเหตุ"
ดังนั้นศาลจึงชี้ว่า "ข้อเท็จจริงนี้ไม่เพียงพอที่จะอนุมานได้ว่าผู้ต้องหาตั้งใจจะข่มขืนเหยื่อ เนื่องจากนอกเหนือจากข้อเท็จจริงเหล่านี้แล้ว ไม่มีการกระทำอื่นใดที่ทำให้พวกเขามีความต้องการที่จะข่มขืนเหยื่อเพิ่มขึ้นอีก”
จากนั้นศาลจึงระบุว่าการกระทำดังกล่าวชองผู้ต้องหาเป็นเพียงการลวนลามทางเพศขั้นรุนแรงที่มีโทษน้อยกว่าการข่มขืน และผิดในข้อหาพยายามเปลื้องผ้าของผู้อื่น
อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายแสดงความไม่เห็นด้วยต่อการพิจารณาของศาลสูงเมืองอลาหาบาดที่ไม่ระบุว่าการกระทำดังกล่าวไม่ใช่การข่มขืน และเรียกร้องให้ผู้พิพากษายุติการปฏิบัติหน้าที่ และชี้ว่าความเชื่อถือของประชาชนจะสั่นคลอนลงเพราะคำตัดสินดังกล่าว
จากการรายงานของสำนักข่าว Hindustan Times ระบุว่าในเวลาต่อมา ศาลฎีกาสุดได้เริ่มดำเนินการไต่สวนแบบ suo motu (ไม่มีโจทก์ในคดีมาฟ้องร้องด้วยตัวเอง) ในประเด็นนี้หลังจากที่องค์กร “We the Women of India” ยื่นเรื่องต่อศาลฎีกาเพื่อคัดค้านคำสั่งของศาลสูงเมืองอลาหาบาดเมื่อวันที่ 17 มีนาคม
และในวันที่ 26 มีนาคม คณะตุลาการศาลฎีกาจึงมีคำสั่งระงับคำตัดสินของศาลสูงเมืองอลาหาบาดเอาไว้ และกล่าวว่าการตัดสินดังกล่าวแสดงให้เห็นถึง “การขาดความละเอียดอ่อน” และ Mathrubhumi English รายงานว่าศาลรู้สึกช็อคกับการตัดสินของศาลดังกล่าว
โดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo - (ภาพประกอบข่าว) นักเคลื่อนไหวทางสังคมตะโกนคำขวัญใกล้กับศาลแพ่งและอาญาแห่งหนึ่งในโกลกาตาเมื่อวันที่ 18 มกราคม 2025 ซึ่งกำลังมีการพิจารณาคดีผู้ต้องสงสัยในคดีข่มขืนและฆ่าแพทย์ฝึกหัดที่วิทยาลัยการแพทย์และโรงพยาบาล RG Kar ซึ่งเป็นการก่ออาชญากรรมที่จุดชนวนให้เกิดการประท้วงและการหยุดงานของโรงพยาบาลทั่วประเทศเมื่อปีที่แล้ว (ภาพโดย Dibyangshu SARKAR / AFP)
