'เมืองสีหนุวิลล์'ร้างไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่จะสะเทือนไทยคือ'ฐานทัพเรือเรียม' 

'เมืองสีหนุวิลล์'ร้างไม่สำคัญ เพราะสิ่งที่จะสะเทือนไทยคือ'ฐานทัพเรือเรียม' 

มันจะเป็นระยะๆ ที่สื่อเมืองนอกสื่อไทยจะรายงานเรื่อง "กำปงโสม" หรือ "กรุงพระสีหนุ" หรือเมืองสีหนุวิลล์ของกัมพูชา เพราะเมืองนี้โตไวผิดมนุษย์มนา เต็มไปด้วยตึกสูงใหญ่ ดูศิวิไลซ์เสียเหลือเกิน 

แต่ในความวิไลนั้นมันยังขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งซ่องสุมของ "จีนเทา" ที่ใช้ที่นี่ทำธุรกิจสแกมเมอร์จนรวยเอาๆ 

ก่อนจะเขียนเรื่องนี้ทีมงาน The Better เห็นสื่อนอกบางรายบอกว่าสีหนุวิลล์ตอนนี้มีสภาพเหมือนร้าง ตึกสูงๆ ที่จีน (เทา?) มาสร้างถูกปล่อยทิ้งเกลื่อนไปหมด มีสภาพไม่ผิดอะไรกับเมืองขนาดย่อมของจีน ที่มีบริษัทอสังหาริมทรัพย์ไปสร้างตึกสูงๆ ไว้เป็นตับๆ ดักไว้เพื่อรอคนซื้อ แต่แล้วไม่มีคนซื้อ จึงปล่อยให้เป็นรังนกไป

มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรอก ที่สีหนุวิลล์จะร้างในเวลาเดียวกับโครงการอสังหาฯ ในจีนร้างไปทั่ว (เพราะเศรษฐกิจจีนแย่ขนาดหนัก) และไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่สีหนุวิลล์เงียบเหงาลงเพราะทางการจีนกวาดล้างพวกจีนเทาอย่างหนัก เริ่มจากทำลายฐานที่มั่นจีนเทาในตอนเหนือของเมียนมา (จนรัฐบาลทหารเมียนมาซวยไปด้วย) 

ล่าสุด กัมพูชาต้องตอบสนองต่อการกดดันของจีน ด้วยการกวาดล้างแหล่งหากินของจีนเทาในประเทศแล้วจับพวกจีนเทาส่งให้จีนไปเชือดเป็นกระตั๊ก

ถ้าคนใหญ่คนโตในกัมพูชายังเลี้ยงจีนเทาไม่ส่งให้ทางการที่ปักกิ่งไปจัดการ แม้ว่าจะไม่ถึงกับเสียบ้านเสียเมืองเหมือนกองทัพเมียนมา แต่อาจจะเสียการสนับสนุนจากจีนไปได้

แต่เราคิดว่าทั้งจีนและกัมพูชาต่างเป็นน้ำพึ่งเรือเสือพึ่งป่า จะไม่หักหาญกันเพราะเรื่องแค่นี้

ดังนั้น เมื่อทุนจีน (เทา) ถูกไล่ออกไปจากสีหนุวิลล์ บางทีจีนอาจจะใจดีส่งทุนกลุ่มใหม่ที่ขาวสะอาดกว่ามาช่วยฟื้นฟูเมืองก็เป็นได้

เพราะสำหรับจีน สีหนุวิลล์มันมีความสำคัญมากกว่าเมืองท่า เมืองทะเล หรือเมืองเอาไว้ลงทุนกับตึกสูงๆ 

แต่คนไทยเราอย่าไปสนใจกับเมืองนี้มากเกินไป เมืองนี้เป็นแค่ "เงา" เท่านั้น มันคือมายา ไม่ใช่ของที่จับต้องได้ 

ส่วนตัวจริงคือ "หมู่บ้านอง" (ภูมิอุง), "ตำบลเรียม" (คุมราม),"อำเภอเปรยนบ" (สรุกไพรนบฺ) ที่อยู่ต่ำลงไปจากเมืองสีหนุวิลล์ไปทางใต้ จุดนี้คือสิ่งที่ทั้งรัฐบาลกัมพูชา จีน สหรัฐฯ ตะวันตก อาเซียน ฯลฯ ให้ความสนใจที่สุด

มันคือที่ตั้งของ "ฐานทัพเรือเรียม" (มูลฐานทัพเชิงตึกราม) ซึ่งเป็นที่ใส่ใจของ "คอการเมืองโลก" เสียยิ่งกว่าเมืองสีหนุวิลล์

เพราะอะไร? เพราะฐานทัพนี้สามารถเปลี่ยนดุลอำนาจในอาเซียนเอาง่ายๆ ส่วนเมืองกำปงโสมต่อให้มีตึกระฟ้าอีกสักร้อยตึกก็ไม่กระทบอะไรกับโลก

เรื่องนี้มีการรายงานไปบางครั้งแล้ว ดังนั้นจะขอสรุปสั้นๆ ว่า "ฐานทัพแห่งนี้ พวกชาติตะวันตกคิดว่าจีนกำลังจะฮุบเอาไว้ใช้" 

เรื่องนี้สื่อตะวันตกเล่นข่าวกันมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เพราะมันไม่ค่อยมีข้อมูลอะไรออกมา สื่อก็เงียบไป แล้วหันไปจับตาสีหนุวิลล์แทน เพราะความน่าสงสัยของมันชัดกว่าในฐานะเป็นเมืองจีนเทา

แต่เมื่อเดือนมกราคม 2567 นี่เองที่มีความเคลื่อนไหวจากฝ่ายกัมพูชาเอง คือ "สม รังสี" ฝ่ายค้านระดับไดฮาร์ดที่กัดรัฐบาลไม่ปล่อย แม้จะต้องระเหเร่ร่อนไปอยู่ต่างแดนก็ตาม

จากการรายงานของ Cambodia Daily สม รังสี เขียนบนเพจ Facebook ของเขาเมื่อวันที่ 19 มกราคม ว่า ฮุน เซน สมคบคิดกับจีน โดยยกฐานทัพเรือเรียมให้จีน เพื่อช่วยจีนรุกรานประเทศเพื่อนบ้าน

ข้อหานี้ไม่ธรรมดา หนักยิ่งกว่าที่ชาติตะวันตกกล่าวหาจีนเสียอีก เพราะถึงกับบอกว่า ฮุน เซน จะใส่พานฐานทัพนี้ให้จีนเอาไว้ใช้ "รุกราน" ประเทศเพื่อนบ้านอาเซียน

สม รังสี บอกว่าการห้จีนมาซ่อนตัวที่ฐานทัพแห่งนี้ จะทำให้ภูมิภาคนี้กลายสมรภูมิของสงคราม และทำให้กัมพูชาต้องรับเคราะห์จากสงครามโดยตรง

เขากล่าวหาว่า ฮุน เซน ต้องการเงินกู้จากจีนเพื่อมาต่อชีวิต แต่จีนก็ไม่อาจให้เงินไปฟรีๆ ได้ ฮุน เซน จึงต้องทำในสิ่งที่จีนต้องการ

ที่ สม รังสี เอ่ยถึงแต่ ฮุน เซน โดยละเลยนายกรัฐมนตรีคนใหม่ คือ ฮุน มาเนต ก็เพราะรู้ๆ กันดีอยู่ว่า แม้ ฮุน เซน จะบ๊ายบายตำแหน่งนายกแล้ว แต่ยังกุมอำนาจไว้ในมือ 

แต่มาถึงจุดนี้ เรื่องของจีนกับฐานทัพเรียมนั้นต้องขอให้ฟังหูไว้หู เพราะ สม รังสี อาจจะพูดด้วย "อารมณ์" ในฐานะฝ่ายค้านโดยไม่มีหลักฐานอาะไรมารองรับ หากไม่มีข้อมูลจากสื่อต่างประเทศออกมาในทิศทางเดียวกับข้อกล่าวหานี้ ก็ไม่ควรจะเชื่อถือเต็มร้อย
 
แต่อย่างน้อยมันสะท้อนถึงความเปราะบางของ "ตำบลเรียม" และฐานทัพเรือเรียม ที่ต้องใส่ใจยิ่งกว่า "กรุงพระสีหนุ" เสียอีก 

ถ้าตัดเรื่อง "ความเห็น" ของสม รังสี ออกไปแล้วพิจารณาท่าทีของสื่อและผู้เชี่ยวชาญต่างประเทศ  หรือแม้แต่ผู้เชี่ยวชาญของกัมพูชาอง ต่างก็สะท้อนเสียงออกมาในคีย์เดียวกันคือ "กังวลว่าจะก่อให้เกิดปัญหาความมั่นคงในภูมิภาค" 

เช่น ในการรายงานข่าวของ Radio Free Asia ภาคภาษาเขมรได้สัมภาษณ์ เสง วัณณลี ผู้สังเกตการณ์ภูมิศาสตร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้-แปซิฟิก ซึ่งเขาตั้งคำถามว่า "เหตุใดชาติตะวันตกยังคงกล่าวหาว่ากัมพูชายอมให้กองทหารจีนวางฐานทัพทหารบนดินแดนของตน?" นั่นก็เพราะกัมพูชาไม่รับประกันนโยบายที่เป็นกลาง และต้องการสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดกับจีนมากขึ้นเท่านั้น

เสง วัณณลี บอกว่า การให้กองทัพจีนใช้ฐานทัพเรือเรียม "กัมพูชาจะประสบความสูญเสียทางเศรษฐกิจและการเมืองอย่างมหาศาล เนื่องจากประเทศสมาชิกอาเซียนบางส่วนที่มีข้อพิพาทเรื่องทะเลจีนใต้ มีความกังวลเกี่ยวกับการขยายอิทธิพลทางทหารของจีน ซึ่งอาจเป็นภัยคุกคามต่อ ความมั่นคงในระดับภูมิภาค"
 
นี่เป็นความเห็นของชาวกัมพูชาคนหนึ่งที่เชี่ยวชาญด้านภูมิรัฐศาสตร์ และกังวลว่าฐานทัพเรือเรียมจะกลายเป็นสาเหตุของความวุ่นวายในภูมิภาค

ในขณะที่โลกกำลังสนใจกับจีนเทาในสีหนุวิลล์ แต่ "จีนไม่เทา" กำลังมีความคืบหน้าอย่างมากกับการร่วมมือทางการทหารกับรัฐบาลกัมพูชา

แน่นอนว่า รัฐบาลชาติตะวันตกจับตาอยู่ตลอด และเผย "ข้อมูลลับ" ผ่านสื่อตะวันตกอยู่เรื่อยๆ เกี่ยวกับความคืบหน้าของฐานทัพแห่งนี้ พร้อมกับมีแอ็คชั่นที่จริงจังมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อกัมพูชา

เช่น ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters ทางการสหรัฐฯ เรียกร้องให้กัมพูชารับรองว่าจะไม่อนุญาตให้กองทัพจีนมาปรากฏตัวที่นี่ หรือมีการติดตั้งเทคโนโลยีสอดแนมลับๆ ของจีน โดยสหรัฐฯ บอกกับกัมพูชาว่า จีน "ทำให้อำนาจอธิปไตยของกัมพูชาอ่อนแอลง ละเมิดรัฐธรรมนูญ และบ่อนทำลายความมั่นคงในภูมิภาค" 

แต่ถ้าเราดูความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับกัมพูชาแล้ว (โดยเฉพาะจากคอมเมนต์ของ สม รังสี ที่บอกว่า ฮุน เซน ขาดทุนจีนไม่ได้) ดูเหมือนว่า คำเตือนของสหรัฐฯ น่าจะเข้าหูซ้ายทะลุหูขวา

กระนั้นก็ตาม เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2567 สำนักข่าว DAP News ของกัมพูชารายงานไว้ว่า "พลเอก ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ย้ำว่า การพัฒนาฐานทัพเรือเรียมคือการเสริมสร้างขีดความสามารถในการป้องกัน ไม่ได้สร้างสงครามกับประเทศใด ๆ เพราะรัฐธรรมนูญกัมพูชาไม่อนุญาตให้มีฐานทัพทหารต่างด้าวในดินแดนของตน"

หลังจากนั้น สำนักข่าว Radio Free Asia สอบถามทัศนะของ รง ฌุน ที่ปรึกษาพรรคกำลังชาติ (คณะปักษ์กํลำงชาติ) รายงานข่าวระบุว่า "เขา (รง ฌุน) เชื่อว่าการกล่าวอ้าง (ของ ฮุน มาเนต) เพียงอย่างเดียวจะไม่ขจัดข้อสงสัยใดๆ ในประชาคมระหว่างประเทศ เขาเสริมว่าหากไม่มีคำตอบที่ชัดเจน กัมพูชาก็จะสูญเสียเพราะความน่าสงสัย เขากล่าวว่ารัฐบาลควรกล้าที่จะอนุญาตให้ประชาคมระหว่างประเทศหรือสหรัฐอเมริกาเข้าเยี่ยมชมพื้นที่ต้องสงสัย"

นี่คือการยืนยันของผู้มีอำนาจสูงสุดในกัมพูชา เรามีหน้าที่รายงาน ท่านผู้อ่านจะเชื่อ สม รังสี เชื่อฝ่ายค้านพรรคอื่นๆ ในกัมพูชา เชื่อนักวิชาการกัมพูชา หรือว่าจะเชื่อ "ท่านผู้นำตระกูลฮุน" ก็สุดแท้แต่วิจารณญาณของแต่ละคน

และเพื่อความแฟร์ เอาจริงๆ แล้วในบางประเทศของอาเซียนก็มีความร่วมมือทางทหารกับกองทัพ/รัฐบาลสหรัฐฯ ที่แนบแน่นมาก ไม่ต้องพูดถึงการซ้อมรบเป็นประจำ

แต่รวมถึงสิ่งที่เรียกว่า "ไซต์ลับ" ที่บางประเทศยอมให้บางหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐฯ มาใช้พื้นที่ของตนด้วย 

แน่นอนว่า "แบบลับๆ" มันถึงเรียกว่า "ไซต์ลับ" นั่นเอง

รายงานเจาะลึกโดยทีมข่าวต่างประเทศ The Better
Photo by TANG CHHIN Sothy / AFP

TAGS: #สีหนุวิลล์ #ฐานทัพเรือเรียม